สธ. ดัน อสม. 1 ล้านคนเป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน” ติวเข้มช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ
ก.สาธารณสุขดึง อปท.-เอกชน ร่วมแก้ปัญหาสุขภาพท้องถิ่น เผยนโยบายสร้าง “อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน” เป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน” ติวเข้มช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ป้องกันโรคติดต่อ-ให้ความรู้สุขอนามัย-เยียวยาจิตใจ
เร็วๆนี้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) เปิดประชุมพัฒนาศักยภาพแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ในการแก้ปัญหาภัยพิบัติในชุมชน โดยกล่าวว่าฤดูฝนปีนี้หลายพื้นที่ของไทยเผชิญกับน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเยียวยาประชาชนโดยเร่งด่วน ในส่วนของ สธ.ก็ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องโดยบริการรักษาพยาบาลในสถานบริการและจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีภาคประชาชนคือ อสม.อีก 1 ล้านกว่าคน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชน
นายวิทยา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาความรู้ความสามารถ อสม.ทุกคนให้เป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน” ที่สามารถประเมินปัญหาสุขภาพในชุมชน วางแผนและหาวิธีจัดการปัญหาร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งประสานขอความร่วมมือองค์กรปกท้องถิ่น เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาสุขภาพในชุมชน เพื่อให้ทันต่อสภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง ซึ่งคนไทยป่วยกันมาก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานของ อสม.ในชุมชน เพื่อบริการสุขภาพประชาชนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รมว.สธ. กล่าวอีกว่าในปี 2554 จะเน้นอบรมให้ความรู้ อสม.ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เช่น ภาวะน้ำท่วม ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุกปี เพื่อให้ อสม.มีบทบาทและแผนการช่วยเหลือประชาชนอย่างชัดเจน ดังนี้ 1.ในระยะก่อนน้ำท่วม อสม.ต้องให้ความรู้ประชาชนเรื่องการปฎิบัติตนเพื่อป้องกันโรคติดต่อ เช่น น้ำกัดเท้า ตาแดง ท้องร่วง ไข้ฉี่หนู 2.ในระยะน้ำท่วม อสม.ต้องออกเยี่ยมบ้านช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกรูปแบบ ทั้งให้กำลังใจ ถุงยังชีพ ยา และของบริจาคอื่นๆ และ3.ในระยะหลังน้ำท่วมหรือระยะฟื้นฟู อสม.ต้องแนะนำการดูแลสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม เช่น ความสะอาดห้องสุขา บ่อน้ำ การบริโภคน้ำและอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รวมทั้งเยียวยาจิตใจครอบครัวที่สูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สินด้วย .
ที่มาภาพ : http://banhangmaew.blogspot.com/p/blog-page_29.html