สาวไส้ บ.ค้าข้าว"เสี่ยเปี๋ยง"แพ้คดีเบี้ยวหนี้เฉียด6แสน ผ่านไป7 ปี "ไม่ชดใช้"

เปิดข้อมูลลับ "ธัญรักษ์ฯ"บ.นายหน้าค้าข้าวแห่งสุดท้าย"เสี่ยเปี๋ยง" แพ้คดีค้างชำระเงินเฉียด 6 แสน ตั้งแต่ปี 50 เจ้าหนี้ตามตัวไม่พบ ส่งหนังสือคำพิพากษาถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอแจ้งระงับการจดทะเบียนเลิก-ไขปริศนาทำธุรกิจขาดทุนบักโกรก ทำไมถึงไม่ถูกปิดทิ้ง

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบข้อมูล บริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด ซึ่งปรากฎรายชื่อ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีผลประกอบการธุรกิจขาดทุนต่อเนื่อง นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ ในช่วงต้นปี 2549 แต่ยังไม่ถูกปิดหรือเลิกกิจการ 

(อ่านประกอบ : เปิดตัว"ธัญรักษ์ฯ"ฐานที่มั่นธุรกิจข้าว "เสี่ยเปี๋ยง" หลังสิ้นยุคสยามอินดิก้า)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด ยังไม่ถูกปิดหรือเลิกกิจการไป ทั้งที่ธุรกิจขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด เป็นเพราะมีปัญหาคดีความถูกฟ้องร้องจากบริษัทเอกชนค้าข้าวรายหนึ่ง หลังจากไม่สามารถจ่ายหนี้ที่ค้างอยู่วงเงินกว่า 6 แสนบาทได้ 

จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2550 บริษัท โรงสีข้าววิบูลย์กิจกาฬสินธุ์ จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายพรสวัสดิ์ ยงทวีชาชาติ เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 ต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในมูลหนี้ที่ยังคงค้างอยู่จากการทำธุรกิจค้าข้าวร่วมกัน เป็นเงินจำนวน 592,490.94 บาท

โดยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พิพากษาให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันชำระเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.50 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะชำระหนี้เสร็จตามคำฟ้องของบริษัท โรงสีข้าววิบูลย์กิจกาฬสินธุ์ จำกัด 

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท โรงสีข้าววิบูลย์กิจกาฬสินธุ์ จำกัด ได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง จำนวน 2 ฉบับ คือ หนังสือลงวันที่ 5 ส.ค.52 และ 5 ต.ค.53  เพื่อขอให้พิจารณาระงับการขอจดทะเบียนยกเลิกบริษัท  ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด หลังจากไม่สามารถติดต่อหนี้คืนมา แม้จะมีคำพิพากษาให้ชนะคดีแล้วก็ตาม 

(ดูเอกสารประกอบ) 

จากการตรวจสอบพบว่า ในงบดุลแสดงผลประกอบการบริษัท ธัญรักษ์ฯ ล่าสุดปี 2556 ที่นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.57 ลงชื่อรับรองความถูกต้องโดย นายสมชาย ธิติชัชวาลกุล ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ มีการระบุผลคำพิพากษาของศาล ที่ตัดสินให้ บริษัท ธัญรักษ์ฯ และนายพรสวัสดิ์ ร่วมกันชดใช้หนี้จำนวน 592,490.94 บาท ไว้ด้วย 

แต่ไม่ได้มีการระบุถึงแผนการชดใช้หนี้คืนแต่อย่างใด  

ขณะที่ ผู้สอบบัญชี ระบุว่า "เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมจากการดำเนินงานติดต่อกันมาหลายปี งบประมาณเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.56 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมเป็นจำนวนเงิน 1,810,851.12 บาท และมีหนี้สินรวมสูงกว่าสินทรัพย์รวมเป็นจำนวนเงิน 810,851.12 บาท ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุให้สงสัยว่าบริษัทฯ อาจไม่สามารถดำรงอยู่ได้" 

ด้านนายวิเชษฐ บุญสวัสดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท โรงสีข้าววิบูลย์กิจกาฬสินธุ์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ได้ฟ้องร้องบริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด และนายพรสวัสดิ์ ยงทวีชาชาติ ให้ร่วมกันชดใช้เงินค่าข้าวที่ค้างชำระอยู่จำนวน 6 แสนกว่าบาทจริง และศาลก็พิพากษาให้ บริษัท โรงสีข้าววิบูลย์กิจกาฬสินธุ์ จำกัด เป็นฝ่ายชนะ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับชำระหนี้ที่ค้างจ่ายดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่สามารถติดตามตัวจำเลยได้ 

"ในช่วงปี 49-50 บริษัท ธัญรักษ์ฯ เขาตั้งตัวเป็นหยง รับข้าวจากโรงสีไปขายต่อให้กับผู้ส่งออก บริษัทผมก็เข้าไปร่วมด้วย ตอนแรกก็ทำธุรกิจกันดีๆ แต่หลังจากที่บริษัทแม่ของเขา คือ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ล้มไป บริษัท ธัญรักษ์ฯ ก็มีปัญหาตามไปด้วย เริ่มค้างจ่ายหนี้ ไปทวงก็ไม่จ่ายเราก็เลยต้องไปยื่นเรื่องฟ้อง ศาลก็ตัดสินให้เราชนะ แต่จนถึงปัจจุบันนี้ เรายังไม่ได้รับเงินเลย และไม่รู้จะไปติดตามทวงจากใครด้วย เขาหายไปกันหมด " นายวิเชษฐระบุ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบันบริษัท ธัญรักษ์ฯ มี กรรมการ จำนวน 5 ราย คือ นาย สมชาย ธิติชัชวาลกุล , นาย พรสวัสดิ์ ยงทวิชาชาติ, นางสาว รัตนา แซ่เฮ้ง , นางสาว กรองทอง วงศ์แก้ว และ นางสาว วาสนา จินดา

นาย สมชาย ธิติชัชวาลกุล ถูกระบุเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ 

สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ธัญรักษ์ฯ  ณ วันที่ 30 เม.ย.57 มีจำนวน 7 ราย นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ถือหุ้นใหญ่สุด จำนวน 9,994 หุ้น มูลค่า 999,400 บาท

ผู้ถือหุ้นที่เหลือ 6 ราย ประกอบไปด้วย นางสาว กรองทอง วงศ์แก้ว นายพรสวัสดิ์ ยงทวิชาชาติ นางพีรยา แรมวิโรจน์ นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง นางสาววาสนา จินดา นายสมชาย ธิติชัชวาลกุล ถือหุ้นไว้คนละ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท 

ปัจจุบันแจ้งที่ตั้งเลขที่  48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และ บริษัท สิราลัย จำกัด หรือ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ที่ผู้บริหารหลายคน รวมถึงตัวนายอภิชาติ อยู่ระหว่างถูกสอบสวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ในขณะนี้