เบื้องหลัง!"พีระพงษ์"ดึง"จรรยา" เสียบที่ปรึกษาแทน"ธงชัย"ก่อนถอยทัพใน6 วัน

"..มีข้อมูลสำคัญหลุดออกมาจากคนใน กสทช. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งในการทำงานร่วมกันระหว่าง พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กับ พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล ที่ปรึกษาคนเก่า อย่างรุนแรงถึงขั้นทำงานร่วมกันต่อไปไม่ได้ อันนำมาสู่การตัดสินใจสั่งปลด พล.อ.ธงชัย ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา และดึงตัว นางจรรยา เข้ามาเสียบแทน.." 

ไม่ว่าเหตุผลในคำชี้แจงของ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อกรณีการเสนอขอแต่งตั้ง นางจรรยา สว่างจิตร ภรรยานอกสมรส ขึ้นมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแทน พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล โดยตำแหน่งที่ปรึกษามีการกำหนดอัตราเงินไว้เดือนละ 100,000 บาท 

ก่อนที่จะเสนอขอยกเลิกมติดังกล่าว หลังเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ 6 วัน (คำสั่งอนุมัติแต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 57 ก่อนจะขอยกเลิกเมื่อวันที่ 21 ต.ค.57)

ที่ระบุชัดเจนว่า ต้องการคนที่ไว้ใจได้เข้ามาช่วยทำงาน 

"เรื่องนี้จริงๆ ต้องคุยกันยาว ใครไม่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง ผมเข้ามารับหน้าที่ทำงานตำแหน่งนี่ มา 3 ปีแล้ว รู้ว่า ในขั้นตอนการทำงานเราจะต้องหาคนที่ไว้ใจได้ เขามาช่วยงาน เพราะถ้าเลือกคนไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นช่องโหว่สำคัญ ทำให้มีคนมาชักจูง มาวิ่งเต้นเพื่อให้ช่วยเหลือได้ อาจตัดสินใจงานข้อมูลผิดพลาดได้" 

(อ่านประกอบ : "พีระพงษ์"รับตั้ง"จรรยา"ภรรยานอกสมรส นั่งที่ปรึกษาจริง-ก่อนเจ้าตัวขอปฏิเสธเอง)

จะมีน้ำหนักเพียงพอที่จะอธิบายต่อสังคม เกี่ยวกับเสียงวิพาษ์วิจารณ์ เรื่องการเอาคนของตนเอง เข้ามาทำงานในตำแหน่งสำคัญ กินเงินเดือนราชการเป็นหลักแสนได้หรือไม่

แต่มีข้อมูลสำคัญหลุดออกมาจากคนใน กสทช. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งในการทำงานร่วมกันระหว่าง พล.ท.ดร.พีระพงษ์  กับ พล.อ.ธงชัย  ที่ปรึกษาคนเก่า  อย่างรุนแรงถึงขั้นทำงานร่วมกันต่อไปอีกไม่ได้ 

อันนำมาสู่การตัดสินใจ ของ พล.ท.ดร.พีระพงษ์  ในการสั่งปลด พล.อ.ธงชัย ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา และดึงตัว นางจรรยา เข้ามาเสียบแทน 

โดยเรื่องที่มีความเห็นขัดแย้งกันชัดเจน มี 2 ประเด็นหลัก คือ

1 กรณีการตรวจสอบเนื้อหา ซีรีย์ HORMONES วัยว้าวุ่น ที่ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ เห็นว่าต้องสั่งลงโทษ แต่ พล.อ.ธงชัย ไม่เห็นด้วย

2. ปัญหาจอดำช่อง 3 ซึ่ง พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ มีท่าทีชัดเจน ที่จะจัดการกับช่อง 3 แต่พล.อ.ธงชัย ที่ปรึกษาของตนเอง กับไปแสดงความเห็นเข้าข้าง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. ที่มีลักษณะประนีประนอม

ซึ่งเรื่องนี้ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ ไม่พอใจอย่างมาก 

ถึงขนาดหลุดคำพูดว่า "เป็นที่ปรึกษาของตน แต่กับไปพูดเข้าข้างคนอื่น" 

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยัง พล.อ.ธงชัย เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ 

โดยพล.อ.ธงชัย ยอมรับว่า ในการทำงานร่วมกันระหว่างตนกับ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นจริง 

" การทำงานระหว่างผมกับ ดร.พีระพงษ์ มีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นจริง และหลายเรื่อง"

"เมื่อเราซึ่งเป็นที่ปรึกษามีหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำในการทำงาน แต่เขาไม่รับฟัง เราก็ต้องพิจารณาตัวเอง และถอยออกมา หลังจากที่วิธีคิดและการทำงานของผม กับ ดร.พีระพงษ์ ไม่เหมือนกัน" 

เมื่อถามว่า มองอย่างไร ที่ พล.ท.ดร.พีระพงษ์  ระบุว่า ต้องการคนที่ไว้ใจได้เข้ามาช่วยทำงาน

พล.อ.ธงชัย ตอบว่า "ผมไม่ทราบ ผมทำงานเกี่ยวกับสื่อมานานหลายสิบปี เคยเป็นประธาน กสช. แม้จะพ้นตำแหน่งไปเพราะคำสั่งศาล แต่ก็ทำงานอยู่ในสายนี้ มาตลอด คำปรึกษาที่ผมให้ไปตรงที่สุดแล้ว ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม แต่เมื่อเราให้คำปรึกษาไปแล้ว เขาไปฟัง เราก็ต้องถอยตัวเองออกมา"

ทั้งหมดนี้คือ เบื้องหลังความขัดแย้งระหว่าง พล.ท.ดร.พีระพงษ์ กับ พล.อ.ธงชัย ที่เกิดขึ้น

และเป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ ตัดสินใจ เสนอชื่อ นางจรรยา ซึ่งมีสถานะเป็นภรรยา เข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแทน 

ก่อนจะขอยกเลิกไป เพราะกลัวปัญหาเรื่องความไม่เหมาะสม และเปิดทางให้ นายสมัคร เชาวภานันท์ เข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแทน ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้    

ส่วนกรณีที่ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ แต่งตั้ง นางจรรยา เข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษาแทน ดังกล่าว

พล.อ.ธงชัย ตอบคำถามสั้นๆ ว่า "ไม่ทราบ แต่ดูแล้วมันก็แปลกๆ ดี" 

ส่วน "นัยยะ" แห่งความแปลกที่ พล.อ.ธงชัย ต้องการจะสื่อถึง ไม่ต้องตีความอะไรกันมากคนในสังคมคงเข้าใจกันดี  

(อ่านประกอบ : ฮือฮา!“พีระพงษ์”ตั้ง“จรรยา”นั่งกุนซือ กสทช.กินเงินเดือนแสน แค่6วันสั่งเลิก)