พบอีกบ."คุณหญิงทรงสุดา"กู้เงินบริษัทในเครือก้อนใหม่-ผู้สอบบัญชีข้องใจการบริหาร
เจาะงบการเงิน "บ.สุพงศา" ธุรกิจในเครือ “คุณหญิงทรงสุดา-สามี” ทายาทจอมพลถนอม หลังปล่อยเงินกู้ให้นับ 10 ล้าน พบขาดสภาพคล่องทางการเงินสูง ผู้สอบบัญชีข้องใจการบริหาร ขาดทุนติดต่อหลายปี ได้เงินกู้จาก บ.สุหฤท ของตัวเองอีกแห่ง
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2557 และร้อยโทสุวิทย์ ยอดมณี คู่สมรส อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยเงินกู้ บริษัท สุพงศา จำกัด ที่เป็นบริษัทในครอบครัวคุณหญิงทรงสุดา 6 ครั้ง ในช่วงปี 2549-2554 รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทนั้น
(อ่านประกอบ : โชว์สัญญาปล่อยกู้บ.ตัวเอง10ล.-ลูกจอมพลถนอมยัน"พ่อ"มีคุณูปการต่อปท. )
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในส่วนงบการเงินบริษัท สุพงศา จำกัด ในช่วงปี 2556 พบว่า มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 9,430,511 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 10,100,779 บาท (เงินกู้ยืมระยะยาว 9,445,305 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 2,729,370 บาท (หักค่าใช้จ่ายเหลือ 270,127 บาท) มีรายจ่ายทั้งหมด 680,003 บาท ขาดทุนสุทธิ 409,904 บาท
และที่น่าสนใจคือ ผู้สอบบัญชีบริษัทฯ ได้ให้ความเห็นว่า ขอให้สังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 1 บริษัทฯมีผลขาดทุนสะสมเกินทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 เป็นจำนวนเงิน 670,268 บาท ผู้บริหารของบริษัทไม่สามารถบอกได้ว่าบริษัทจะได้กำไรจากการดำเนินงานในอนาคตหรือไม่ ปัจจัยดังกล่าวทำให้มีข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทที่จะดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
"งบการเงินดังกล่าวข้างต้น ได้จัดทำขึ้นโดยถือตามสมมติฐานทางการบัญชีที่ว่า บริษัทจะดำเนินงานต่อเนื่อง จึงไม่รวมรายการปรับปรุง ซึ่งอาจจำเป็น ในกรณีที่บริษัทสามารถจะดำเนินกิจการต่อไปได้" ผู้สอบบัญชี ระบุ
ทั้งนี้ตัวเลข 670,268 บาทดังกล่าว มาจากหนี้สินรวมส่วนของผู้ถือหุ้น โดยมีการขาดทุนสะสมทั้งหมด 1,170,268 บาท และมีหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 9,430,511 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลก่อนหน้านี้ พบว่า บริษัท สุพงศา จำกัด มีการขาดทุนสะสมต่อเนื่องมาโดยตลอด เห็นได้จาก ในงบการเงินปี 2549 (ปีจดทะเบียนตั้งบริษัท) มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 8,908,283 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 8,602,123 บาท (เงินกู้ยืมกรรมการ-บริษัท สุหฤท จำกัด 7,295,500 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 55,764 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 249,604 บาท ขาดทุนสุทธิ 193,839 บาท
ในปี 2550 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 12,566,351 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 13,278,717 บาท (เงินกู้ยืมกรรมการ-บจก.สุหฤท 12,511,000 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 224,214 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 1,242,740 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,018,525 บาท
ในปี 2551 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 13,207,766 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 14,425,759 บาท (เงินกู้ยืมกรรมการ-บจก.สุหฤท 13,367,000 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 1,692,253 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 2,197,881 บาท ขาดทุนสุทธิ 505,627 บาท
ในปี 2552 แจ้งมีรายได้รวม 3,544,013.09 บาท มีรายจ่ายรวม 2,815,890.28 บาท กำไรสุทธิ 540,175.08 บาท
ในปี 2553 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 11,448,679 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 11,984,130 บาท (เงินกู้ยืมกรรมการ-บจก.สุหฤท 11,407,000 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 2,994,790 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 2,752,175 บาท กำไรสุทธิ 142,366 บาท
ในปี 2554 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 11,353,035 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 11,739,255 บาท (เงินกู้ยืมกรรมการ-บจก.สุหฤท 10,987,000 บาท) มีรายได้ทั้งหมด 3,138,883 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 2,883,693 บาท กำไรสุทธิ 149,230 บาท
ในปี 2555 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 9,908,186 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 10,168,550 บาท (เงินกู้ยืมระยะยาวจากกรรมการ-บริษัทที่เกี่ยวข้อง 9,437,000 บาท) มีรายได้ทั้งหมด (กำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย) 756,711 บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 570,557 บาท กำไรสุทธิ 186,153 บาท
ในปี 2556 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 9,430,511 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 10,100,779 บาท (เงินกู้ยืมระยะยาวจากกรรมการ-บริษัทที่เกี่ยวข้อง 9445,305 บาท มีรายได้ทั้งหมด (กำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย) 269,732บาท มีรายจ่ายทั้งหมด 680,003 บาท ขาดทุนสุทธิ 409,904 บาท
ทั้งนี้น่าสังเกตว่า บริษัท สุพงศาฯ มีกำไรจากการทำกิจการน้อยมาก เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นคือในปี 2552 ,2553 , 2554 และ 2555 ขณะที่ในปี 2549, 2550, 2551 และ 2556 ต่างขาดทุนทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ลูกคุณหญิงทรงสุดา กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีดังกล่าวว่า การปล่อยกู้บริษัทตัวเองเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะบริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมส่งเอกสารให้กับ ป.ป.ช. ทราบทุกอย่าง
(อ่านประกอบ : “ลูกคุณหญิงทรงสุดา”ยันปล่อยกู้บ.ตัวเองทำตามกม.-“แม่”ไม่สบายใจ)
ที่น่าสนใจคือ บริษัท สุพงศาฯ มีเงินกู้ยืมจากกรรมการและบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก มูลค่านับสิบล้านบาท โดยมีบริษัท สุหฤท จำกัด รวมอยู่ด้วย
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท สุหฤท จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2533 ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท มีกรรมการบริษัท 4 คน คือ คุณหญิงทรงสุดา พล.ต.อ.ชวลิต ยอดมณี นายวงศ์วุฒิ วุฑฒินันท์ และนายสุปกิจ คชเสนี ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซื้อหรือจัดการให้ได้มาซึ่งที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ จำหน่ายที่ดิน จัดการละเล่น เป็นต้น
มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 9 คน มีคุณหญิงทรงสุดาถือหุ้นใหญ่สุด 60,000 หุ้น นายวีระพันธุ์ ทิปสุวรรณ 52,500 หุ้น นายวงศ์วุฒิ 37,500 หุ้น พล.ต.อ.ชวลิต 30,000 หุ้น นายสุวงศ์ ยอดมณี (บุตรชาย) 30,000 หุ้น นายก้องศักดิ์ 30,000 หุ้น นายจักรา ยอดมณี (บุตรชาย) 30,000 หุ้น นางนงนาถ เพ็ญชาติ (พี่สาว) 15,000 หุ้น และนายสุปกิจ 15,000 หุ้น (หุ้นละ 100 บาท)
ทั้งหมดนี้คือที่มาที่ไปของงบการเงินในบริษัท สุพงศา จำกัด ธุรกิจครอบครัว "คุณหญิงทรงสุดา" ซึ่งคุณหญิงทรงสุดา ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็น สนช. ชุดปัจจุบัน
อ่านประกอบ :
เจาะถุงเงิน 32 ล.“คุณหญิงทรงสุดา” บุตรี“จอมพลถนอม”ก่อนผงาดนั่งสนช.
ไขปริศนา? ยึดทรัพย์“จอมพลถนอม” ก.คลังเสียบถือหุ้นบ.สกุล“กิตติขจร”