ดีเดย์ ธ.ก.ส.จ่ายเงินช่วยชาวนา 1.4 หมื่นคน วงเงิน 176 ล.
ธ.ก.ส.ประเดิมจ่ายเงินช่วยชาวนา 8 จว. วงเงิน 176 ล้านบาท มั่นใจเงินช่วยเหลือถึงมือเกษตรกรครบทุกราย พร้อมเร่งรัดเกษตรกรที่ยังไม่แจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการให้ดำเนินการที่เกษตรอำเภอในพื้นที่และยื่นเอกสารที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้านเพื่อรับสิทธิ์โดยเร็ว
20 ตุลาคม 2557 นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือนแรก ในส่วนมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทุกครัวเรือนจำนวนทั้งสิ้น 3.49 ล้านครัวเรือน พื้นที่ปลูกข้าวนาปีจำนวน 63.8 ล้านไร่ คิดเป็นวงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยการให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แก่ชาวนาที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเปิดบัญชีไว้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งมีที่ดินทำกินไม่เกิน 15 ไร่ และชาวนาที่มีที่ดินทำกินเกิน 15 ไร่ให้ช่วยเหลือครอบครัวละ 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้ชาวนามีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ธ.ก.ส.ได้เริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนาที่ได้ จดทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วในวันนี้ ใน 8 จังหวัดนำร่อง ประกอบไปด้วย จังหวัดลพบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ มหาสารคาม พิจิตร กำแพงเพชร และพิษณุโลก
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรในวันแรกทั้งสิ้น 14,311 ราย วงเงิน 176.1 ล้านบาท จังหวัดลพบุรีจำนวน 684 ราย วงเงิน 9.2 ล้านบาท จังหวัดขอนแก่นจำนวน 2,407 ราย วงเงิน 26.9 ล้านบาท จังหวัด ศรีสะเกษจำนวน 5,223 ราย วงเงิน 60.6 ล้านบาท จังหวัดมหาสารคามจำนวน 1,476 ราย วงเงิน 16.5 ล้านบาท จังหวัดสุรินทร์จำนวน 195 ราย วงเงิน 2.3 ล้านบาท จังหวัดพิจิตรจำนวน 961 ราย วงเงิน 13.5 ล้านบาท จังหวัดกำแพงเพชรจำนวน 2,990 ราย วงเงิน 42 ล้านบาท และจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 375 ราย วงเงิน 5.1 ล้านบาท ส่วนจังหวัดอื่นๆ ธ.ก.ส. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประสานงานเพื่อส่งข้อมูลให้กับ ธ.ก.ส.ดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้โดยเร็วที่สุด
สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกับทางเกษตรอำเภอนั้น ธ.ก.ส. ขอให้เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียน โดยเร็ว ซึ่งเกษตรกรต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับเกษตรอำเภอในพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและรับรองสิทธิ์ โดยคณะกรรมการบริหารมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยระดับอำเภอ จากนั้นให้ชาวนานำสำเนาหน้าสมุด บัญชีเงินฝากและสำเนาบัตรประชาชน มาจัดทำหนังสือแสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะตรวจสอบความถูกต้องและส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรงต่อไป ทั้งนี้หากเกษตรกรดำเนินการถูกต้อง ครบถ้วนตามขั้นตอนดังกล่าวก็จะได้รับเงินภายใน 3 วัน นับตั้งแต่ยื่นเอกสารที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ใกล้บ้านท่าน
“เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ธ.ก.ส.จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกษตรกรทุกรายที่มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ได้รับเงินทุกรายโดยไม่ให้ตกหล่น จึงอยากให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนตามขั้นตอนโดยเร็วเพื่อให้เงินถึงมือโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น และทาง ธ.ก.ส.จะหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในระยะยาวสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายลักษณ์กล่าว
ภาพประกอบ:โพสต์ทูเดย์