ย้อนข้อมูลสภาฯเช่าตึก"เมีย"รองหน.เพื่อไทย ก่อนมติก.ร.ยุบทิ้งเกลี้ยง6 จ.!
"...ในช่วงปลายเดือน ม.ค.57 ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำสัญญาเช่าอาคารรัฐสภาอุบลราชธานี กับ นางรจนา กัลป์ตินันท์ 2 รายการ คือ 29 ม.ค. 57 วงเงิน 1 ล้านบาท และ วันที่ 30 ม.ค. 57 วงเงิน 1 ล้านบาท (สัญญาเลขที่ 95/2557) ขณะที่นางรจนา กัลป์ตินันท์ เป็นอดีตนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เป็นภรรยา นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย.."
ไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของใครหลายคน!
สำหรับมติคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ก.ร.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธาน ในช่วงเที่ยงวันที่ 13 ต.ค.57 ที่ผ่านมา ที่เห็นสมควรให้ยุบสำนักงานรัฐสภาจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด หลังจากที่มีการประเมินผลงานพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ และความไม่คุ้มค่าเรื่องงบประมาณที่เสียไป
"ที่ประชุมได้มีการพิจารณาถึงรายงานผลการประเมินผลงานของโครงการรัฐสภา 6 จังหวัดนำร่อง ตามที่อนุ ก.ร. นำเสนอ และได้มีมติให้ยุบสำนักงานรัฐสภาจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด เนื่องจากมีการประเมินว่าผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ ได้แก่ ความไม่คุ้มค่าเรื่องงบประมาณ และบุคลากร ทั้งนี้การจ้างบุคลากรที่ได้ผลงานไม่คุ้มค่ากับงบประมาณแผ่นดินที่เสียไป"
"ส่วนประเด็นการยกเลิกโครงการดังกล่าวที่หลายฝ่ายมองว่าจะกระทบต่อการทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่นั้น ประเด็นนี้ต้องกลับมาดูในแง่ของกฎหมาย ซึ่งในอนาคตอาจจะกลับมาพิจารณาดำเนินโครงการใหม่ก็ได้" นายพรเพชรระบุ
ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการประเมินที่ อนุก.ร.นำเสนอ อันนำมาซึ่งมติยุบทิ้ง สำนักงานรัฐสภาจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด จะมีรายละเอียดอย่างไร
แต่ข้อเท็จจริงสำคัญประการหนึ่ง ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยตรวจสอบพบข้อมูลเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าสำนักงานรัฐสภาจังหวัดอุบลราชธานี คือ บุคคลใกล้ชิดนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย ได้รับงานจากการทำสัญญาเช่าที่เกิดขึ้น
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือน ม.ค.57 ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำสัญญาเช่าอาคารรัฐสภาอุบลราชธานี กับ นางรจนา กัลป์ตินันท์ 2 รายการ คือ 29 ม.ค. 57 วงเงิน 1 ล้านบาท และ วันที่ 30 ม.ค. 57 วงเงิน 1 ล้านบาท (สัญญาเลขที่ 95/2557)
ขณะที่นางรจนา กัลป์ตินันท์ เป็นอดีตนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เป็นภรรยา นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีบุตรคือ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี
โดยก่อนหน้านี้ในยุคนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานรัฐสภา มีแผนจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัด เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประชาชนในแต่ละจังหวัดกับรัฐสภา และได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการจัดตั้งรัฐสภาจังหวัดในพื้นที่นำร่อง 5 ภูมิภาค เพื่อเป็นสถานที่ทำการสำนักงานรัฐสภาจังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด (ขอนแก่นและอุบลราชธานี) ภาคใต้ 1 แห่ง จังหวัด (สุราษฎร์ธานี) ภาคกลาง 1 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา) และ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด (ชลบุรี)
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา คณะผู้ตรวจราชการพร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจเตรียมความพร้อมที่ทำการอาคารสำนักงานรัฐสภาอุบลราชธานี โดยได้ลงดูพื้นที่ทำการสำนักงานรัฐสภาจังหวัดอุบลราชธานี อาคารเลขที่ 37 ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี บริเวณวงเวียนน้ำพุเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย โดยเปิดทำการ 28 มิถุนายน 2556
ทั้งนี้ เดิมที่ทำการรัฐสภาจังหวัดอุบลฯใช้อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ เป็นที่ทำการ ต่อมาเกิดปัญหาทำให้นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนฯ ต้องไปหาพื้นที่ใหม่ เพื่อให้ทันต่อการเปิดรัฐสภาจังหวัดทั้ง 5 แห่ง
มีรายงานข่าวว่าที่ตั้งดังกล่าวเป็นศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยมาก่อน
(อ่านประกอบ : พบสภาฯเช่าตึกเมีย ส.ส.อุบลฯ-รอง หน.เพื่อไทย ทำรัฐสภาจังหวัด )
ขณะที่นายวัฒนา เซ่งไพเราะ อดีตโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่าเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าอาคารในจังหวัดอุบลราชธานีเป็นสำนักงานรัฐสภาดังกล่าว เคยมีกรรมาธิการหลายคนท้วงติงมาว่า ค่าเช่าที่ตรงนี้แพง และเป็นสถานที่ของพรรคการเมือง จึงเสนอไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร (ขณะนั้น) ให้เปลี่ยนสถานที่ใหม่ ซึ่งนายสมศักดิ์ได้สรุปนโยบายให้แก่ฝ่ายข้าราชการประจำว่า เห็นควรเปลี่ยนสถานที่รัฐสภาอุบลราชธานีใหม่ และให้ไปเจรจากับเจ้าของอาคารเดิม หลังจากนั้นก็เกิดการรัฐประหาร
นายวัฒนา ยังระบุด้วยว่า เช่าเป็นผู้ไปหาเช่าอาคารหลังนี้พร้อมกับนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนฯ หลังจากนั้นจึงไปเจออาคารหลังนี้ ซึ่งคิดว่ามันถูกดี มีสถานที่อุปกรณ์เพรียบพร้อมสมบูรณ์ จากทั้งหมดที่เราหามา 6 แห่ง
อย่างไรก็ตาม มันมีค่าใช้จ่ายแพง โดยปธ.กมธ.ทั้งหลายในที่ประชุมเห็นว่าแพง นายสมศักดิ์ จึงให้หาที่ใหม่ โดยให้ใช้อาคารหลังนี้ชั่วคราวไปก่อน
“คือประธานกมธ.หลายคนท้วงติงว่า ค่าเช่าที่ตรงนี้แพง และเป็นสถานที่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง คงไม่เหมาะสม เพราะอยากให้ทุกพรรคมีส่วนร่วม ท่านประธาน (สมศักดิ์) เลยสรุปว่า ให้ไปหาที่ใหม่ที่ถูกกว่า ที่เดิมก็ไปเคลียร์เขาซะ ก็ให้นโยบายข้าราชการประจำไปอย่างนั้น” นายวัฒนากล่าว
เมื่อถามว่าได้ทำสัญญาเช่ากี่ปี นายวัฒนา กล่าวว่า ถ้าจำไม่ผิดรู้ว่าจะเป็นปีต่อปี ซึ่งต้องให้ส่วนราชการไปเจรจาด้วยว่าอาคารดังกล่าวจะจัดการอย่างไรต่อ ฝ่ายเขาจะฟ้องร้องหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
(อ่านประกอบ : เบื้องลึก! สัญญาเช่ารัฐสภาอุบลฯฉบับ“วัฒนา”ใครได้ผลประโยชน์?)
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลสำคัญที่ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าที่ทำการรัฐสภาฯ ในจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนที่คณะกรรมการ ก.ร. จะมีมติให้ยุบสำนักงานรัฐสภาจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด ตามที่ปรากฎเป็นข่าวดังกล่าว
ส่วนคำถามว่า เบื้องหลังที่แท้จริงของเรื่องนี้ จะมีใครที่ได้รับประโยชน์จากการทำสัญญาเช่า อาคารรัฐสภาทั้ง 6 แห่ง และต้องเข้ามารับผิดชอบความเสียหายจากเงินงบประมาณของรัฐที่เสียไปแบบไม่คุ้มค่าครั้งนี้หรือไม่
ยังไม่ยินเสียงตอบดังๆ จาก คณะกรรมการ ก.ร. แต่อย่างใด