ผบ.ตร.ยก5เหตุยืนยันคดีฆ่าฝรั่งจับคนร้ายตัวจริง

ผบ.ตร.พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเปิดแถลงข่าว ยก 5 เหตุผลยืนยันคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่าไม่มีจับแพะ ย้ำพยานหลักฐานมัดตัวคนร้ายชัดเจน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลา 14:00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ ศรียานนท์ ชั้น2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กษาราชการแทนรองผบ.ตร พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผบ.ตร. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนรอง ผบช.น. ตลอดจนเจ้าหน้าทีี่ชุดสืบสวนสอบสวน  สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  คณะแพทย์ทีมนิติเวช จากโรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกันแถลงผลการทำคดี เหตุฆาตกรรม นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สมยศ ได้แถลงข่าวเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม รวมถึงสื่อมวลชน ถึงการทำคดีว่า หลังเกิดเหตุฆาตกรรม นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า .สุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าตำรวจทุกหน่วยงานร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ โดยการจับกุมเกิดขึ้นเกิดจาก 5 เหตุผลคือ 1.พยานยุคคล คือ เพื่อนชาวพม่าของผู้ต้องหา 2.การพิสูจน์ดีเอ็นอในศพผู้ตาย 3.ภาพจากกล้องซีซีทีวีที่ทีมสืบสวนตรวจสอบและนำมาเป็นพยานหลักฐาน 4. โทรศัพท์ของกลางที่ยึดได้จากผู้ต้องหา ซึ่งเป็นโทรศัพทม์ของนักท่องเที่ยวชายที่เสียชีวิต 5.คำสารภาพของผู้ต้องหาทั้งสอง ที่ให้การรับสารภาพต่อหน้าทนาย 

ซึ่งการจับกุมคนร้ายนั้น ไม่ใช่เป็นการจับแพะ และไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จอย่างเด็ดขาด โดยการสืบสวนที่ผ่านมาพุ่งเป้าไปที่ชาวเอเชีย นื่องจากพนักงานสอบสวน และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบตรงกันว่า DNA ที่พบในตัวผู้ตาย เป็น DNA ของชาวเอเชีย จึงมุ่งเป้าในการสืบสวนจนทราบเบาะแสและจับกุมคนร้ายได้ ส่วนที่มีการล่าช้าไปบ้างเนื่องจากเกิดกระเเสข่าวในโลกสังคมออนไลน์มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นคนชี้นำสังคมและตั้งข้อสงสัยต่างๆทำให้ ต้องทำการตรวจสอบซึ่งก็ไม่ได้เป็นจริงตามที่กล่าวอ้างในสังคมออนไลน์ แต่อย่างใด ยกตัวอย่างกรณีมาเฟียในพื้นที่เกาะเต่า แต่ทั้งนี้ ตำรวจไม่ได้ปิดคดีว่า ต้องมีผู้ต้องหาเพียง 2 คน ซึ่ง พร้อมน้อมรับหากมีพยานหลักฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น แต่ขณะนี้ยืนยันว่า มีเพียง 2 คน 

ส่วนกรณีสถานฑูตอังกฤษไม่เดินทางมาร่วมชี้แจงในครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่า การทำงานเป็นหน้าที่ของตำรวจไทย และพอใจผลการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจและทางสถานทูตยืนยันไม่มีการแทรกแซงการทำงานของทางการไทย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่าวันนี้จะเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับคดีนี้ และได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามทุกประเด็น ข้อสงสัยแล้วขณะที่สำนวนคดีนี้ได้ส่งให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาเพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องต่อไป

และได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามทุกประเด็น ข้อสงสัยแล้วขณะที่สำนวนคดีนี้ได้ส่งให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาเพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนรอง ผบช.น. ยืนยันว่าในการสอบปากคำผู้ต้องหายืนยันว่าไม่มีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพโดยระหว่างการสอบสวนก็มีทนายความของผู้ต้องหาเข้าร่วมรับฟังรวมทั้งมีการตรวจร่างกายผู้ต้องหาและส่งให้ทางแพทย์พิสูจน์ ซึ่งตัวของผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพเอง  

ส่วน บาดแผลบริเวณใบหน้าของ นายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี ผู้ตาย ยินยันเสียชีวิตจากจอบประกอบกับจมน้ำเสียชีวิต เพราะมีน้ำในปอดและบาดแผลนายเดวิดก็สอดคล้องกับจอบที่พบในที่เกิดเหตุ ส่วนนางสาวฮันน่า วิคเตอเรีย อายุ 24 ปี ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ในสภาพไม่ขัดขืนได้ แต่ยังไม่ถึงกับเสียชีวิต ก่อนที่จะถูกข่มขืนและหลังจากนั้นมีการทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

ส่วนวัตถุพยานทั้งจอบ และถุงยางอนามัย ไม่พบดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหานั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการปนเปื้อนและน้ำทะเลชะล้าง แต่หลักฐานนี้ก็ส่งผลต่อรูปคดี

ขอบคุณข่าวจาก