เลื่อนตรวจหลักฐาน'กปปส.'กบฏ!
อัยการแถลงขอเลื่อนตรวจหลักฐาน '4 แกนนำกปปส.' กบฏ-บุกรุกที่รชก.-ขวางลต. รอ 'ดีเอสไอ' แจ้งข้อกล่าวหาฟ้องอีก 51 ราย ศาลนัดอีกครั้ง 3 ธ.ค.นี้
29 ก.ย. 57 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.1191/2557 , อ.1298/2557 , อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 52 ปี , นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 37 ปี แกนนำ กปปส. , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 63 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และนายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 65 ปี แกนนำ กปปส. เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ , กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ , อั้งยี่ , ซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ , เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก , ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล , ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116 , 117 , 209 , 210 , 215 , 362 , 364 , 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงาน กกต. ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และพวกจำเลย ร่วมกันพาผู้ชุมนุม บุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อกดดันให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออก
โดยอัยการโจทก์ ได้แถลงต่อศาล ว่า ได้รับการประสานจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาอีก 51 รายที่ร่วมกระทำผิดคดีนี้ ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ดังนั้นจึงขอเลื่อนการตรวจหลักฐานออกไปก่อน
ศาลสอบถามทนายความจำเลยแล้วไม่คัดค้าน ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาคดี เป็นไปด้วยความยุติธรรม จึงให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. โดยให้คู่ความพร้อมยื่นบัญชีพยาน ในวันนัดดังกล่าวด้วย
ภายหลังนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความฝ่ายจำเลย กล่าวว่า คดีนี้ กปปส. อีก 51 ราย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา รอดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ดี แม้จะมีการแยกสำนวนทยอยฟ้อง แต่คดีนี้มีมูลเหตุ และข้อเท็จจริงมาจากเรื่องเดียวกัน จึงคาดว่าสุดท้ายอัยการ คงจะรวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน
ขอบคุณข่าวจาก

