เปิดสภาพัฒนาการเมือง ประธานคนแรกเน้นพัฒนาการเมืองชุมชน
มติ 69 เสียงหนุน “สุจิต บุญบงการ” เป็นประธานสภาฯ “สน รูปสูง” นั่งรอง “ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์” รั้งรองคนที่2
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายลำยอง บุญลพ สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง จ. สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานสภาพัฒนาการเมือง (ชั่วคราว) เป็นประธานเปิดการประชุมและสัมมนาสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองสมัยที่1 ซึ่งถือเป็นการประชุมสภาฯอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่การก่อตั้งสภาพัฒนาการเมืองตามพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเมือง พ.ศ. 2551
จากนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้มีการสรรหาประธานสภาฯ และรองประธานสภาคนที่1 และ2 ตามลำดับ โดยใช้วิธีลงคะแนนเสียงซึ่งผลการลงคะแนนสรุปว่า นายสุจิต บุญบงการ สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองจากวิธีการคัดเลือกตาม มาตรา 7 (7) ประเภทสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิได้รับเลือกให้ดำรงเป็นประธานสภาฯ ด้วยคะแนน 69 คะแนน มากกว่านายเสถียร เม่นบางผึ้ง สมาชิกสภาฯ จ.เพชรบูรณ์ จากการคัดเลือกตามมาตรา 7 (1) ประเภทผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งมีสภาองค์กรชุมชนคัดเลือกจังหวัดละ 1 คน ที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 คือ 22 คะแนน ส่วนนายไพบูลย์ ชำศิริพงษ์ และนายพิเชฐ พัฒนโชติ ได้คะแนนมาเป็นอันดับที่3 และ4 ตามลำดับ
ขณะที่รองประธานสภาฯ คนที่1 ได้แก่นายสน รูปสูง สมาชิกสภาฯ จ.ขอนแก่น จากวิธีการคัดเลือกตามมาตรา 7 (1) ส่วนรองประธานสภาฯคนที่2 ได้แก่นางสาวลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ สมาชิกสภาฯ ตามวิธีการคัดเลือกตาม มาตรา 7 (2) ประเภทผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม
ประธานสภาฯ แจงการทำงานต้องไปตามกรอบ เน้นพัฒนาการเมืองชุมชน
นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาฯ กล่าวภายหลังรับตำแหน่งว่า การดำเนินงานทางด้านการเมืองของสภาฯต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง ซึ่งมีกระบวนการประกอบไปด้วย การจัดทำแผนเพื่อพัฒนาการเมืองภายในประเทศ การสร้างการเมืองของภาคผลเมืองเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน การวางนโยบายขับเคลื่อนหน่วยงานชุมชน ผ่านองค์กรพัฒนาพัฒนาชุมชน รวมถึงกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการเมืองของประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามหลักการปกครอง
นายสุจิต กล่าวว่า สภาฯ ต้องวางตัวเป็นกลางทางด้านการเมือง ตามรูปแบบที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจนและต้องมีแผนของการพัฒนา ซึ่งสาระสำคัญคงต้องรอการระดมความคิดของสมาชิก เพื่อกำหนดบทบาทการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างรอบคอบ ทั้งนี้สภาฯ คงไม่ใช่องค์กรที่จะสามารถลดความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ เพราะวัตถุประสงค์และที่มาก็ได้กำหนดชัดอยู่แล้ว
กำหนดกรอบประชุม2 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่สมาชิกมีมติรับรองประธานสภาฯ รองประธานสภาฯคนที่1 และ2 แล้ว นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขานุการสภาฯ ได้อ่านข้อบัญญัติในมาตราที่ 18 ซึ่งระบุว่าให้สภาพัฒนาการเมืองมีสมัยประชุมปีละสองสมัย สมัยแรกให้เปิดประชุมในหกเดือนแรกของปีงบประมาณ และสมัยที่สองให้เปิดประชุมในหกเดือนหลังของปีงบประมาณ โดยสมัยประชุมหนึ่งให้มีระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนแต่ไม่เกินสองเดือน ตามที่สภาพัฒนาการเมืองกำหนด
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบว่า สภาฯ กำหนดกรอบช่วงเวลาการประชุมภายในระยะเวลา 2 เดือน อย่างไรก็ตามประธานสภาพัฒนาการเมืองยังสามารถเรียกสมาชิกเพื่อเข้าร่วมประชุมสมัยวิสามัญได้ตามบทบัญญัติในมาตรา 18 ของพ.ร.บ.สภาพัฒนาการเมือง พ.ศ.2551
อนึ่งการประชุมการประชุมและสัมมนาสมาชิกพัฒนาการเมืองครั้งนี้ จะแบ่งการดำเนินการ ประกอบไปด้วย ช่วงที่1 ระหว่างวันที่ 8 – 9 ตุลาคม มีการรายงานตัวและเปิดประชุมสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร ขณะที่ช่วง 2 ระหว่างวันที่ 10-11 ตุลาคม จะมีการจัดสัมมนาสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง และในช่วงที่ 3 วันที่ 12-13 ตุลาคม 2551 จะมีการประชุมสภาพัฒนาการเมือง ครั้งที่ 1 ที่โรงแรมเดอะซายน์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สภาพัฒนาการเมืองประชุมนัดแรกเลือกประธานและรองประธาน จากทั้งหมดมีสมาชิก 120 คน โดยที่ประชุมเลือกได้เลือก "ศ.ดร.สุจิต บุญบงการ"นั่งประธานฯ
ทั้งนี้สภาฯ แห่งนี้ มีภารกิจส่งเสริมความเข้มแข็งทางการเมืองของภาคประชาชนและส่งเสริมให้สถาบันการเมือง การปกครอง มีการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม และการสร้างวัฒนธรรมอันดีงามทางการเมือง และวิถีประชาธิปไตย
"ศ. ดร.สุจิต บุญบงการ" จบการศศึกษารัฐศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย M.A.และะ Ph.D. ทางรัฐศาสตร์ จาก The Fletcher School of Law and Diplomacy, Tufts University สหรัฐอเมริกา มีผลงานด้านวิจัยมากมายศึกษาวิจัยเรื่องการเมืองไทย มีประสบการณ์ด้านพฤติกรรมการเลือกตั้ง วัฒนธรรมทางการเมือง ระบบพรรค และบทบาทของทหารทางการเมือง
มีผลงานที่ได้แก่ The Military in Thai Politics 1981 - 1986 (Singapore: Institute of Southeast Asian Studies, 1987) และ State of the Nation Thailand (Singapore: Institute of Southeast Asian Studies, 1996)
ดร.สุจิต ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2533 - 2541