สำรวจเครือข่ายพันธมิตร จากทุกถิ่นรวมกันเป็นใจเดียว
ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกำลังเรียกความสนใจจากคนทั่วประเทศ มีสิ่งหนึ่งที่ปรากฎต่อสายตาของทุกคน นั่นคือ การรวมตัวของสมาชิกจากผู้ชุมนุมเกือบจะทุกภาคทั่วพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่รับข้อมูลข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
เครือข่ายที่สานกันมายาวนาน
แม้จะมีจุดหมายเดียวกันคือทำเนียบรัฐบาล และขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช แต่ที่มาของผู้ชุมนุมต่างแตกต่างกัน ซึ่ง พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน นายตำรวจนอกราชการ อดีตหัวหน้าครูฝึกยุทธวิธี ตำรวจภูธรภาค4 สมาชิกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี เล่าว่า กลุ่มพันธมิตร จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาชุมนุมหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จนมาถึงครั้งนี้ โดยกลุ่มพันธมิตรอุดรฯจะมีการรวมตัวที่จ.อุดรฯ ก่อนแล้วจึงเดินทางมาพร้อมกัน ทั้งรถส่วนตัวและรถรับจ้างตามแต่สะดวก โดยใช้วิธีการหารค่าเดินทางร่วมกัน
“พันธมิตรจ.อุดรฯ บางส่วนเดินทางมาชุมนุมก่อนตั้งแต่ตรงสะพานมัฆวาน บางส่วนก็เพิ่งมาสมทบกันเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ส่วนผมเพิ่งมาวันที่ 28 สิงหาคม แต่ก็เคยมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งการชุมนุมตรงนี้ก็จะมีผู้มาสมทบอยู่เรื่อยๆ ส่วนใครมีธุระก็กลับไปก่อนแล้วค่อยเดินทางมาใหม่ มีการลงขันออกค่าเดินทางกันมา ไม่ว่าจะเป็นเหมารถตู้มา หรือไม่ก็รถส่วนตัว”
พ.ต.ท. ทัศนาบดี กล่าวว่า ยังยืนยันที่จะชุมนุมต่อไป จนกว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่สนใจว่าจะมีเหตุการณ์อย่างไรเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับ ป้าน้อย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ. ระยอง ที่กล่าวว่า มาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลตั้งแต่วันจันทร์ ก่อนหน้านั้นก็เคยมาหลายครั้ง ตามแต่ความสะดวก ครั้งนี้มีการเรียกชุมนุมครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จึงตัดสินใจมาอีกครั้ง และอยู่จนถึงขณะนี้ ถึงอย่างไรก็จะไม่เดินทางกลับจนกว่ารัฐบาลจะลาออก
ป้าน้อย กล่าวต่ออีกว่า มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งที่อยู่จังหวัดเดียวกันหรืออยู่คนละจังหวัด แต่ก็ได้คุยกัน สนิทสนมกันที่นี้ ซึ่งเป็นเพราะว่าผู้ชุมนุมทั้งหมดต่างเดินทางมาด้วยใจที่บริสุทธิ์ อยากเห็นชาติพัฒนาไปในในทางที่ดีขึ้น ต้องการเห็นคนผิดถูกกลับมาลงโทษ ส่วนการเดินทางเข้ากรุงเทพนั้น ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค ตนและกลุ่มเพื่อนมาโดยรถยนต์ส่วนตัว เพราะชักชวนกันมา อยู่บ้านใกล้กัน มีความเห็นที่จะแสดงออกถึงความรักชาติเหมือนกัน
ยืนยันยุทธวิธีสลายม็อบของรัฐไร้ผล
จนถึงขณะนี้แม้รัฐบาลจะเริ่มเดินเกมและกำหนดยุทธวิถีต่างๆ เพื่อระงับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตร ทั้งการดำเนินการตามกฎหมาย อย่างการขออนุมัติหมายศาลเพื่อจับแกนนำ 9 คน การใช้วิธีจิตวิทยาอย่างการปล่อยข่าวสลายการชุมนุมอยู่ตลอดเวลา หรือใช้วิธีตัดระบบสัญญาณโทรศัพท์ ที่มีผลต่อการสื่อสารและแพร่ภาพสถานีโทรทัศน์ของกลุ่มผู้ประท้วง รวมถึงวิธีโน้มน้าวใจง่ายๆ อย่างการบริการรถรับ-ส่ง ถึงบ้านในกรณีที่ผู้ชุมนุมคนใดเหนื่อยล้าและอยากจะเดินทางบ้าน
แต่ยุทธวิธีต่างๆที่รัฐบาลนำมาใช้นั้น นางเสาวลักษณ์ หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ. กำแพงเพชร มองว่า คงไม่มีผู้ชุมนุมคนใดที่อยากเดินทางกลับเพราะกลอุบายนี้ แม้ว่าอาจจะมีบ้างที่ต้องกลับไปทำธุระ แต่ก็เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะกลับมาชุมนุมใหม่ ส่วนตนเองจะอยู่ชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะยอมลาออก ไม่มีอะไรจะกีดขวางได้ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าตำรวจจะไม่ใช่ความรุนแรง เพราะผู้ชุมนุมทั้งหมดมาโดยสันติ ไม่มีใครใช้อาวุธ ผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“เรามาทวงความชอบธรรม ขับไล่รัฐบาลขายชาติ ทุกๆคนมาด้วยใจ ไม่มีใครว่าจ้าง มาด้วยเงินของตัวเอง ออกค่าเดินทางมาทั้งหมด เพราะทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน” พันธมิตรกำแพงเพชรกล่าว
จนถึงขณะนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล เสียงพิธีกรบนเวทียังคงปลุกกระตุ้นเร้าหัวใจผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแดดร้อนที่ถาโถมแผดเผาผู้ชุมนุมอย่างไม่หยุดหย่อน หากแต่รถรับส่งผู้ชุมนุมกลับบ้าน ที่จอดอยู่บริเวณสนามม้านางเลิ้ง ยังคงว่างเปล่า