เบื้องลึก! ป.ป.ท.ชง "ประยุทธ์" บายพาส"ผอ.สำนักฯ"เสียบเก้าอี้รองเลขาฯ
"..ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองมักเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยใช้กระบวนการสรรหาเป็นเครื่องมือ เพื่อรองรับให้เป็นไปตามระเบียบและกฎข้อบังคับหลายครั้งได้แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่จะปฏิบัติตามภารกิจหลักมาดำรงตำแหน่ง.."
ในการแจ้งเรื่องร้องเรียนความไม่ถูกต้อง ของข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ต่อกรณีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้มีการแต่งตั้งรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. จำนวน 2 ตำแหน่ง โดยไม่ผ่านกระบวนการสรรหา ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลไปก่อนหน้านี้
(อ่านประกอบ : โวย"เลขาฯ ป.ป.ท." ชงตั้ง "รองฯ" ไม่ผ่านการสรรหา-ยกขบวนดูงานตปท.)
ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมรายนี้ ได้แนบเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่ง มาให้สำนักข่าวอิศรา เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย ซึ่งในจำนวนนี้ มีหนังสือตีตรา "ลับมาก" ของ สำนักงาน ป.ป.ท. ที่ส่งตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยผ่าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (ตำแหน่งในขณะนั้น) รวมอยู่ด้วยจำนวน 1 ฉบับ
ระบุช่วงเวลาในการจัดทำ คือ เดือนส.ค.57
จากการตรวจสอบข้อมูลในหนังสือฉบับนี้ ระบุเนื้อสำคัญ ว่า สำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานราชการ อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของรมว.ยุติธรรม มีหน้าที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาทุจริตซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ตลอดจนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหานี้และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง
ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ท.มีตำแหน่งรองเลขาธิการฯ ว่าง 1 อัตรา เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกำลังพลสำนักงาน ป.ป.ท.เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการของ คสช.ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล และการบ้านเมืองที่ดี
ตลอดจนเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในการบริหารจัดการบุคลากรให้ตรงกับหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมาย เนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ท.ประสบปัญหาด้านการจัดอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภารกิจ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายการเมืองมักเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยใช้กระบวนการสรรหาเป็นเครื่องมือ เพื่อรองรับให้เป็นไปตามระเบียบและกฎข้อบังคับ
หลายครั้งได้แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่จะปฏิบัติตามภารกิจหลักมาดำรงตำแหน่ง ซึ่งผู้บริหารนั้นต้องมีความเข้าใจพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 เป็นอย่างดี รวมทั้งต้องมีพื้นฐานประสบการณ์ในการสืบสวนและไต่ส่วนข้อเท็จจริง
กระทรวงยุติธรรม พิจารณาแล้วจึงเห็นสมควรขอแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ท.มีรายละเอียดดังนี้
1. ขอเสนอโยกย้าย นายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาธิการ ป.ป.ท.ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือส่วนราชการอื่นแล้วแต่เห็นสมควร เนื่องจากมีประสบการณ์ในการบริหารงานราชทัณฑ์
โดยมีประวัติการรับราชการตั้งแต่ปี 2536 ดำรงตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติ 5 และเจริญเติบโตในสายงาน อาทิเช่น ผู้อำนวยการทัณฑสถานรวมถึงผู้บัญชาการเรือนจำต่างๆ ก่อนจะได้รับการสนับสนุนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปัจจุบัน ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้มาดำรงตำแหน่งรองเลขาฯ ป.ป.ท.
2. ขอเสนอแต่งตั้ง
1. พันตำรวจโท วันนพ สมจินตนากุล ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 4 ไปดำรงตำแหน่งรองเลขาฯ ป.ป.ท.
2. พันโท กรทิพย์ ตาโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 3 ไปดำรงตำแหน่งรองเลขาฯ ป.ป.ท.
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อขอทราบความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครให้คำตอบได้ ว่าในท้ายที่สุด แล้ว
ข้อเสนอในหนังสือสำนักงาน ป.ป.ท. ฉบับนี้ ได้รับการตอบสนองจาก พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. และผ่านตา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งเป็นรมว.ยุติธรรม หรือไม่? อย่างไร?
(ดูเอกสารประกอบ)