ขสมก.เลื่อนประชุมบอร์ดชี้ชะตาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี
วัดใจบอร์ด ขสมก.ชี้ชะตาโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน วงเงิน 1.3 หมื่นล้าน หลังสั่งเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น เจอ ป.ป.ช.ชำแหละที่มาราคากลางบกพร่อง ล็อกสเปก ทำรัฐเสียหายหลายพันล้าน ส่วนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แฉ TOR หมกเม็ดค่าซ่อมบำรุง 10 ปี อ้างราคาซื้อไม่แพง ซึ่งไม่ช่วยแก้ปัญหาขาดทุน ขสมก.ที่มีเหตุหลักจากค่าซ่อมรั่วไหล สุดท้ายต้องเอาภาษีประชาชนไปอุดหนุนอยู่ดี ด้านเครือข่ายคนพิการฯ ซัด ล็อกสเปกรถร้อนชานสูงเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นไว้แล้ว
จากที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดชี้แจงรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 กันยายน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน สมาคมคนพิการ กลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) นักวิชาการ ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และประชาชน โดยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงความไม่โปร่งใส ของTOR อย่างกว้างขวาง
นายไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ ประธานคณะอนุฯ ป.ป.ช. ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า คณะอนุฯ ป.ป.ช.ได้ทำงานมาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี หลังจาก ขสมก.ประกาศร่างขอบเขตงาน (TOR) ฉบับที่ 1 โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ด้วยการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2559-26 กรกฎาคม 2556 ซึ่งสรุปได้ว่าวิธีคิด และวิธีการทำงานของ ขสมก.ในการกำหนดราคากลางบกพร่องอย่างมากโดย ขสมก.สอบถามราคากลางจากบริษัทขายรถซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่จะเข้าร่วมประกวดราคา ซึ่งคณะอนุฯ ป.ป.ช.และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันมีความเห็นตรงกันว่า เป็นการสอบถามจากผู้มีผลประโยชน์โดยตรง การนำมาเป็นราคากลางอ้างอิงจึงไม่ถูกต้อง และราคาที่ได้มานั้นสเปกรถสูงกว่าที่ ขสมก.กำหนดทั้งสิ้น
ทั้งนี้ หลักของราคากลางจะต้องกำหนดราคาที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ราคาที่ดีที่สุด หรือราคาที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งคณะอนุฯ ป.ป.ช.ได้สอบถามราคาทั้งจากผู้ขายรถ ผู้ซื้อรถ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ได้ทำหนังสือไปยังกรมศุลกากร ซึ่งได้ให้ข้อมูลราคาน้ำเข้าทั้งคัน และการนำเข้าคัสซีส์พร้อมเครื่องยนต์โดยประกอบภายในประเทศ ซึ่งหากประกอบในประเทศจะเสียภาษี 0-30% นอกจากนี้ ขสมก.ควรต้องสอบถามราคาไปยังผู้ประกอบการรถร่วม ซึ่งมีการใช้รถ NGV อยู่ ซึ่งหลังมีหนังสือสอบถามไปยัง ขสมก.ถึงที่มาราคากลางรถแอร์คันละ 4.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 3.8 ล้านบาท ได้รับคำตอบว่า ขสมก.ได้สอบถามจากบริษัท แดวู ซึ่งรถแอร์อยู่ที่คันละ 5.5 ล้านบาท รถร้อนคันละ 4 ล้านเศษ ขสมก.คิดว่าถ้าจัดซื้อควรลดลง 15% จึงใช้ 0.85 คูณกับราคาที่แดวูให้มา
“จะเห็นได้ว่า เป็นการคิดราคาซึ่งถือเป็นหัวใจในการประมูลที่ใช้ไม่ได้ ขสมก.เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ในรอบ 10 ปี ไม่มีโครงการจัดซื้อรถจำนวนมากแบบนี้มาก่อน ดังนั้น ขสมก.จะต้องเป็นผู้มีอำนาจต่อรอง ซื้อในราคาที่ต่ำที่สุด และป้องกันการผูกขาด หรือฮั้วได้ ไม่ใช่ให้เอกชนมามีอำนาจเหนือกว่า ข้อมูลที่คณะอนุฯ ป.ป.ช.ได้จากกรมศุลกากรละเอียดมาก ขสมก.ไม่จำเป็นต้องไปจ้างศึกษาให้เสียเงินเสียเวลา” นายไพโรจน์ กล่าว
นายต่อตระกูล ยมนาค คณะกรรมการอนุฯ ป.ป.ช.ชุดเฝ้าระวังการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า ป.ป.ช.พบว่า TOR มีจุดที่ล็อกสเปกเข้าข่ายเป็นร่าง TOR ที่เขียนมาจากคนในวงการต่อรถ ทำให้เกิดการล็อกคุณสมบัติรถมาจากไหน ไม่ได้เป็นการล็อกคุณสมบัติรถที่มีมาตรฐานดี และล็อกคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ายื่นประมูลได้หากมีกลุ่มที่เป็นหน้าแปลกไม่ร่วมในฮั้ว หรือเกิดกรณีฮั้วจะแตกจะสามารถใช้เรื่องเกณฑ์คะแนนคุณสมบัติปรับรายที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มฮั้วตกได้ ซึ่งในการเทียบสเปก TOR มาตรฐาน ในการให้คะแนนแต่ละหัวข้อ ต้องมีเหตุผลชัดเจนว่าไม่ได้คะแนนหรือได้คะแนนเต็มเพราะอะไร ดังนั้น ต้องถือว่าโครงการนี้เป็นกรณีตัวอย่างของข้อกฎหมายในการจัดทำราคากลาง
ซึ่งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกำลังจับตาอยู่ และหาก ขสมก.ยังจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ปรับปรุงแก้ไขจะตกหลุม และผู้ร่วมร่าง TOR ทุกคน ผู้อนุมัติต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ดังนั้น ขสมก.ควรกลับมาตั้งหลักกับ TOR ใหม่ และเขียนเงื่อนไข TOR เอง เพราะหาทำให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น TOR จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
ด้าน นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการกล่าวว่า โครงการนี้มีข่าวว่าสาเหตุที่กำหนดรถร้อนชานสูง (High Floor) เพราะมีการเอื้อให้ค่ายรถญี่ปุ่นรายหนึ่งไว้แล้ว ซึ่งเริ่มต้น ขสมก.อ้างรถร้อนชานสูง 70 ซม. เพื่อวิ่งช่วงน้ำท่วม เมื่อมีการชี้แจงว่ารัฐบาลลงทุนโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมถึง 3.5 แสนล้านบาทไว้แล้ว ขสมก.อ้างเรื่องคอสะพานแทนเมื่อทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยืนยันชัดเจนว่า จะปรับแก้คอสะพานได้เสร็จในต้นปี 2558 ส่วนน้ำท่วม กทม.มีแผนระบายน้ำได้ใน 2 ชม. รถร้อนชานสูงมีลิฟต์ยกราคา 3 แสนกว่าบาทต่อคันเพิ่ม ในการนำรถ wheelchair ขึ้นรถต้องใช้เวลา 3 นาที กทม.มีป้ายรถเมล์กว่า 4,000 ป้ายจะเกิดปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วน คนพิการไม่กล้าใช้แน่นอน คำถามคือ ทำไมรถร้อนต้องชานสูงในขณะที่หลักสากลรถในเมือง หรือ City Bus ต้องเป็นชานต่ำ (Low Floor) ดังนั้น หาก ขสมก.เดินหน้าประมูลตาม TOR นี้ จะต้องฟ้องศาลปกครองแน่นอน
“ผลศึกษาของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพบว่า แต่ละวันมีคนเสียชีวิตจากรถเมล์เฉลี่ย 1 คน มีคนบาดเจ็บเฉลี่ย 3.5 คน และเหตุมาจากการตกรถเมล์มากที่สุด เป็นคำตอบว่ารถชานสูงอันตราย ในขณะที่รถชานต่ำ เป็นรถที่เอื้อแก่ทุกคนทุกเพศ ทุกวัย ใช้บริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นหน้าตาของประเทศ หากระบบขนส่งของ กทม.มีมาตรฐานสากล”
ส่วน นายอรุณ ลีธนาโชค ผู้เชี่ยวชาญในการต่อรถโดยสารกล่าวว่า ตามหลักการรถขนาด 12 เมตร เครื่องยนต์ CNG หรือ NGV เครื่องยนต์จะอยู่ด้านท้าย ซึ่งหากเป็นรถเครื่องยนต์อยู่ด้านหน้าทีพื้นฐานมาจากคัสซีส์รถบรรทุกดัดแปลงทั้งสิ้น
ซึ่งคนในวงการทราบดีมีผู้ประกอบการรายหนึ่งเตรียมคัสซีส์รถบรรทุกดัดแปลงไว้แล้ว และมีการจ้างจากอู่บางไทรออกไปแล้ว ในขณะนี้ข้อเท็จจริงการใช้คัสซีส์รถบรรทุกดัดแปลงซึ่งจะออกมาเหมือนกันทุกคัน คือ จะมีการต่อคัสซีส์ด้านหน้า 1.09 เมตร ด้านหลัง 0.90 เมตร โดยเลื่อนที่นั่งคนขับมาด้านหน้าผู้โดยสารขึ้นบันไดหน้าจะต้องเดินผ่านเครื่องยนต์
น.ส.สาลี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า ขสมก.พูดเฉพาะราคากลาง ในขณะที่โครงการนี้มีค่าซ่อมบำรุง 10 ปี รวมอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้ราคารถอยู่ที่คันละ 9 ล้านบาท ขณะที่มีข้อมูลว่า ทางจีนเสนอรถรวมค่าบำรุง 10 ปี ให้ในราคาคันละ 4.97 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการพิจารณา ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหาการซ่อมบำรุงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ขสมก.ขาดทุนมากมาย และหากจัดซื้อในราคานี้ต้องมีเหตุผลว่า ขสมก.จะไม่ขาดทุน เพราะภาระซ่อมบำรุง 10 ปี เชื่อได้ว่า สุดท้ายต้องมีปัญหา และรัฐบาลต้อใช้ภาษีไปช่วย ขสมก.อยู่ดี และไม่ควรอ้างเหตุคัดค้าน ทำให้โครงการล่าช้าเพราะเหตุผลจริงคือ โครงการไม่โปร่งใสมากกว่า
รายงานข่าวจาก ขสมก.แจ้งว่า จากที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ประธานบอร์ด ขสมก.ได้ระบุว่าจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมด หารือในที่ประชุมบอร์ด ขสมก.วันที่ 8 กันยายนนี้ แต่ล่าสุด ประธานบอร์ดติดภารกิจจึงต้องเลื่อนออกไปก่อนแต่คาดว่าจะมีการประชุมบอร์ด ขสมก.ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน