คำต่อคำ! อสส. vs ป.ป.ช. คดีจำนำข้าว“ปู” ใครกันแน่ ง่อนแง่น ?
อสส. “…ประเด็นเรื่องการทุจริต ควรไต่สวนพยายานเพิ่มเติมให้ได้ความว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ยืนยันว่ามีการทุจริตนั้น พบการทุจริตในขั้นตอนใด และมีการทุจริตอย่างไร…” vs วิชา มหาคุณ “…ทุจริตขั้นตอนใด อย่างไรนั้น ถ้าท่านเห็นที่จะส่งตามไปอีก ท่านคงจะอ่านไม่ทัน กลัวท่านเป็นลมล้มคว่ำไป เพราะว่ามันเหลือกำลังรับจริง ๆ…”
สปอร์ตไลต์ในสังคมต่างสาดส่องไปที่องค์กรอิสระอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในทันที
ภายหลัง “วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช. ที่รับผิดชอบสำนวนคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ออกมาโต้แย้งใน 3 ประเด็นที่ อัยการสูงสุด เห็นว่า สำนวนยัง “อ่อน” และไม่พร้อมฟ้องในทันที ต้องตั้งคณะทำงานร่วมฯ เพื่อหาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
(อ่านประกอบ : “วิชา”ชี้ อสส.ง่อนแง่น! ยันหลักฐานจริง-ส่งเพิ่มกลัวอ่านไม่ทันจนเป็นลม, อสส.ชี้สำนวนสอบคดีข้าว"ปู" ไม่สมบูรณ์-ต้องตั้งคณะทำงานร่วมป.ป.ช. )
แต่ที่น่าสนใจคือ 3 ประเด็นเหตุผลที่ อัยการสูงสุด เห็นว่า สำนวนคดีนี้ยังไม่พร้อมฟ้องทันทีนั้น “วิชา” กรรมการ ป.ป.ช. ก็ตอบกลับแบบเชือดเนื้อเฉือนหนังกันเลยทีเดียว !
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมวิวาทะใน 3 ประเด็นดังกล่าวไว้ ดังนี้
1.ประเด็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” มีอำนาจยับยั้งหรือไม่ ?
อัยการสูงสุด
ประเด็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวเป็นโครงการของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้เป็นนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 178 บัญญัติให้ในการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาด้วย ดังนั้น จึงควรรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ความชัดว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการที่จะยับยั้งโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาแล้วหรือไม่
“วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช.
การรวบรวมพยานหลักฐานเรื่องนายกรัฐมนตรีมีอำนาจระงับยับยั้งนโยบายที่แถลงกับสภาหรือไม่นั้น เรื่องนี้มันเก่าแล้ว เพราะหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้ว ซึ่งคงจะคุยกันรู้เรื่อง มันเป็นความจำเป็น อย่างที่บอก เราเห็นใจท่าน เพราะว่าสิ่งนี้ตรงที่ทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์เขาเสนอว่า นายกฯมีอำนาจจะยับยั้งหรือไม่
2.”ยิ่งลักษณ์” ได้ดำเนินการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตหรือไม่ ?
อัยการสูงสุด
ประเด็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ควรทำการไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความว่า ภายหลังจากที่โครงการรับจำนำข้าวได้ถูกท้วงติงจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาได้ดำเนินการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตหรือไม่ อย่างไร ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร
“วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช.
เรื่องที่ว่าให้รวบรวมพยานหลักฐานว่า ภายหลังโครงการรับจำนำข้าวถูกท้วงติงนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการตรวจสอบป้องกันการทุจริตหรือไม่ เรื่องนี้เราตรวจสอบครบถ้วนแล้ว และที่ท่านทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ขอเหมือนกันว่าให้สอบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน เพราะได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบทุจริตในโครงการนี้นั้น เราก็บอกว่า เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกันหรอก แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านเสนอมา เราก็รับไว้ แต่ว่าอันนี้เราก็เรียนตรง ๆ ว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเลย เป็นข้อมูลที่ได้จากสื่อ เราต้องให้ท่านส่งมาให้เราอีกทีหนึ่ง
3.ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดว่ามีการทุจริตในโครงการ ?
อัยการสูงสุด
ประเด็นเรื่องการทุจริต ควรไต่สวนพยายานเพิ่มเติมให้ได้ความว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ยืนยันว่ามีการทุจริตนั้น พบการทุจริตในขั้นตอนใด และมีการทุจริตอย่างไร นอกจากนั้นมีการกล่าวอ้างถึงรายงานวิจัยโครงการนโยบายข้าวของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ว่า โครงการดังกล่าวมีการทุจริตและมีความเสียหายจำนวนมาก แต่ในสำนวนการไต่สวนปรากฏว่า มีเพียงหน้าปกรายงานวิจัยเท่านั้น ดังนั้น จึงให้รวบรวมรายงานวิจัยทั้งฉบับเป็นพยานหลักฐานในสำนวนการไต่สวนให้สมบูรณ์ด้วย
“วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช.
ทุจริตขั้นตอนใด อย่างไรนั้น ถ้าท่านเห็นที่จะส่งตามไปอีก ท่านคงจะอ่านไม่ทัน กลัวท่านเป็นลมล้มคว่ำไป เพราะว่ามันเหลือกำลังรับจริง ๆ ต้องบอกว่าประเทศนี้ เมืองนี้ มันสุดยอดแล้ว ท่านที่เคารพทั้งหลาย ที่มานั่งแถลงข่าวอยู่ได้ทุกวันนี้ก็บุญนักหนาแล้ว เพราะว่า ไม่อย่างนั้นคงไม่มีกองกำลังติดอาวุธมายิง กรรมการ ป.ป.ช. จนหนีหัวซุกหัวซุน เป็นประวัติศาสตร์ และก็เรื่องรวบรวมโครงการวิจัยของ TDRI ความจริงแล้วมีอยู่ในพยานหลักฐานที่ท่านมาเบิกความไว้จนหมดแล้ว
ทั้งหมดนี้คือข้อโต้เถียงแบบ “คำต่อคำ” ระหว่าง อัยการสูงสุด และ “วิชา มหาคุณ” กรรมการ ป.ป.ช.
ส่วนใครจะผิดหรือจะถูกอย่างไร ต้องให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการตัดสิน !