พลิกปูมคอนเนกชั่น"วุฒิพงศ์-รองอสส."หน.คณะทำงานคดีข้าว"ยิ่งลักษณ์"
"...ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการอัยการ นายวุฒิพงศ์ เคยผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (หลักสูตร วตท.) รุ่นที่ 12 ในช่วงเดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2554 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าร่วมการอบรมด้วย.."
ในช่วงหลังการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ของ "กลุ่มทหาร" ภายใต้การนำของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศ
"สำนักงานอัยการสูงสุด" ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในหน่วยงาน ที่ถูกสังคมจับตามองถึง "บทบาท" และ "ท่าที" ในการปฏิบัติงาน ว่า จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงและแตกต่างไป จากการทำงานภายใต้การบริหารในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาหรือไม่
เพราะต้องไม่ลืมว่า "สำนักงานอัยการสูงสุด" เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ถูก คสช. ออกคำสั่งโยกย้ายเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ชนิดที่เรียกว่า "ล้างบาง ล้างไพ่กันใหม่หมด"
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานอัยการชุดปัจจุบัน นอกเหนือจาก "นายตระกูล วินิจนัยภาค” อัยการสูงสุด (อสส.) คนใหม่ ที่กำลังถูกสังคมจับตามองอย่างมาก ถึงบทบาทและท่าทีการทำงานอยู่ในขณะนี้แล้ว
"นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์" รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจากพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติกฎหมายในโครงการรับจำนำและระบายข้าวทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมาตรา 123/1 กำลังถูกจับตามองจากสังคมอย่างมากเช่นกัน
โดยเฉพาะ "บทบาท" และ "ท่าที" ของ นายวุฒิพงศ์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลปูมประวัติและเส้นทางชีวิตของ นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งสำคัญครั้งนี้
พบว่า ในช่วงปี 2547 – 2549 นายวุฒิพงศ์ มีตำแหน่งเป็น อธิบดีอัยการเขต 5 ก่อนจะขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการฝ่ายคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ในช่วงปี 2549 – 2550 และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการอัยการ ในช่วงปี 2550-2554 และก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด ในปัจจุบัน
ด้านการศึกษาข้อมูลระบุว่า นายวุฒิพงศ์ จบปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ,ปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ประกาศนียบัตร เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิต
ส่วนตำแหน่งงานอื่นนอกเหนือจากตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ระบุว่า นายวุฒิพงศ์ เคยเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม วุฒิสภา ,ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ผู้แทนการค้าไทย, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา
จากการตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายวุฒิพงศ์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ จำนวน 4 แห่ง ประกอบไปด้วย ธนาคารออมสิน , การประปานครหลวง , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย , บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด
นอกจากนี้ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการอัยการ นายวุฒิพงศ์ เคยผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (หลักสูตร วตท.) รุ่นที่ 12 ในช่วงเดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2554 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าร่วมการอบรมด้วย ก่อนก้าวเข้าสู่เวทีการเมือง ในฐานะประธานกรรมการบริหารบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานรุ่นด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนก.พ. 57 ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถูกรัฐประหารยึดอำนาจ ธนาคารออมสิน ได้มีการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหการณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผ่านตลาดกู้ยืมเงินระหว่างธนาคาร หรือ “อินเตอร์แบงก์” เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาการขาดคล่องในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จนเกิดกระแสต่อต้านจากสังคมอย่างหนัก
ประชาชนที่เป็นลูกค้าของธนาคารออมสินจำนวนมากแห่มาถอนเงิน ปิดบัญชี เพราะไม่พอใจในการดำเนินการเรื่องนี้ จนผู้บริหารธนาคารออมสิน ต้องตัดสินใจล้มเลิกแผนปฏิบัติการดังกล่าวในเวลาต่อมา ซึ่งนายวุฒิพงศ์ ก็เป็นหนึ่งในรายชื่อบอร์ดออมสิน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติปล่อยเงินกู้ครั้งนั้นด้วยเช่นกัน?
ทั้งหมดนี่คือ ข้อมูลเกี่ยวกับ นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในช่วงก่อนที่จะได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญในการเป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบสำนวนคดี ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งล่าสุด มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการจากสำนักงานอัยการสูงสุด ว่า คณะทำงานของนายวุฒิพงศ์ ได้นำส่งรายงานความเห็นของคณะทำงานเกี่ยวกับสำนวนสอบคดีนี้ของ ป.ป.ช. ให้ อสส.พิจารณาแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ส.ค.57 ที่ผ่านมา
ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ความสัมพันธ์อันดีครั้งเก่าก่อน! จะกลายเป็น "ตัวแปร" สำคัญต่อการตัดสินใจ ของ นายวุฒิพงศ์ ในการปฏิบัติหน้าที่สำคัญที่ได้รับมอบหมายหรือไม่?
อีกไม่นานเกินรอสาธารณชนจะได้รับทราบคำตอบที่ชัดเจน!