ถวายรายงานความคืบหน้าคัดเลือก ‘สุดยอดครูเอเชียตะวันออกเฉียงใต้’
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 19 สิงหาคม 2557 สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข้าเฝ้าถวายรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 1
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า ในวโรกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2558 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยตลอดมา จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต จัดตั้งรางวัลนานาชาติสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และจัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีขึ้นเพื่อเป็นองค์กรหลักในการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารับพระราชทานรางวัล โดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เป็นฝ่ายเลขานุการ และสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) สนับสนุนเป็นหน่วยช่วยปฏิบัติงาน โดยมีการถวายรายงานมีวาระสำคัญ คือ หลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือกรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี และการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
รางวัลนานาชาติสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี สำหรับประเทศไทย พระราชทานแก่ครูของประเทศไทยและประเทศต่างๆในทุกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศละ 1 คน จำนวน 11 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ บรูไน และติมอร์เลสเต้ ทั้งนี้ ผู้ได้รับคัดเลือกจะได้รับเหรียญรางวัลประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
รางวัลนานาชาติสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะคัดเลือกครูที่มีคุณสมบัติที่สังคมให้การยอมรับ และยกย่องร่วมกันว่าเป็นครูผู้เสียสละ และทุ่มเทให้แก่การทำงานด้านการศึกษา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ชีวิตลูกศิษย์ของตน และยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจแด่เพื่อนครูโดยรวม เพราะเชื่อว่าคุณภาพการศึกษาขึ้นอยู่กับคุณภาพครู และเพราะคุณภาพครูส่งผลต่อการสร้างคนคุณภาพ และสังคมคุณภาพ
“สำหรับประเทศไทยครูไทยที่ได้รับการเสนอชื่อจะมาจากสามส่วนคือ 1.หน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน สมาคมวิชาการวิชาชีพที่คัดเลือกครูดีเด่นในระดับชาติ 2.การคัดเลือกโดยกลไกระดับจังหวัดทุกจังหวัดจากรายชื่อที่หน่วยงานและองค์กรในจังหวัด และ 3.เสนอโดยลูกศิษย์ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปซึ่งตระหนักถึงบทบาทครูที่เปลี่ยนชีวิตของตนในทางที่ดี ทั้งนี้จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อชี้แจ้งทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ (5 ก.ย.) ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช (9 ก.ย.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น (11 ก.ย.) และภาคกลาง กรุงเทพฯ (16 ก.ย.) นี้ด้วย