ความรุนแรงไฟใต้ทำหญิงเป็นหม้าย 2,295 ราย เด็กกำพร้า 4,455 คน
สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินหน้ามาเกือบ 8 ปี ไม่ได้ทิ้งไว้แค่เพียงศพคนตายและผู้ทุพพลภาพมากมายทั้งร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่ยังก่อปัญหาสังคมทำให้มีเด็กกำพร้าจำนวนเกือบครึ่งหมื่น และมีสตรีต้องเป็นหม้ายอีกร่วม 3 พันคน
ในการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็กกำพร้าและสตรีหม้ายที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1/2554 ที่โรงแรมเจบีหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ประเมินผลการดำเนินงานและสรุปงบประมาณในโครงการช่วยเหลือและเยียวยาเด็กกำพร้าและสตรีหม้ายที่ได้รับผลกระทบประจำปี 2554 โดยมี นางศิริรัตน์ อายุวัฒน์ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน และมีคณะอนุกรรมการฯซึ่งเป็นตัวแทนส่วนราชการและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการเยียวยาจากพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ผลประชุมสรุปว่า โครงการด้านการช่วยเหลือเยียวยาเด็กกำพร้าและสตรีหม้ายฯ ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2554 ซึ่งผ่านการอนุมัติงบประมาณจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 9,876,100 บาทนั้น เป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายของคณะอนุกรรมการฯ เป็นเงิน 2,109,100 บาท
เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดโครงการ พบว่ามีทั้งหมด 17 โครงการ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7,767,000 บาท แยกเป็น จ.ยะลา 4 โครงการ เป็นเงิน 1,469,300 บาท จ.ปัตตานี 3 โครงการ เป็นเงิน 2,026,500 บาท จ.นราธิวาส 6 โครงการ เป็นเงิน 3,077,600 บาท และ จ.สงขลา 3 โครงการ เป็นเงิน 1,193,600 บาท
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้หารือกันในประเด็นการถ่ายโอนภารกิจด้านการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้ามาทำหน้าที่แทนด้วย โดย ศอ.บต.จะรับผิดชอบให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และจะเริ่มดำเนินการต่อในปีงบประมาณ 2555 ทั้งในด้านงานนโยบายและงานอำนวยการ งานด้านงบประมาณและงานบุคลากร รวมไปถึงระบบฐานข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ
สำหรับข้อมูลตัวเลขเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุปัน มีทั้งสิ้น 4,455 คน แยกเป็น จ.ปัตตานี 1,691 คน จ.ยะลา 1,027 คน จ.นราธิวาส 1,586 คน และ จ.สงขลา 150 คน
ส่วนตัวเลขสตรีหม้ายที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุปัน มีทั้งสิ้น 2,295 ราย แยกเป็น จ.ปัตตานี 849 ราย จ.ยะลา 657 ราย จ.นราธิวาส 714 ราย และ จ.สงขลา 75 ราย
อนึ่ง ในการสรุปยอดเด็กกำพร้าเมื่อปี 2553 จ.ยะลา เคยส่งตัวเลขเอาไว้ที่ 2,033 รายนั้น ปีนี้ทางสำนักงานการพัฒนาสังคมฯจังหวัดยะลา แจ้งว่าเป็นยอดรวมเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทุกกลุ่ม จึงขอแก้ไขใหม่และปรับยอดรวมตามข้อมูลข้างต้น
ส่วนที่สำนักงานมูลนิธิอะมีรุลมุอ์มินีนเพื่อเด็กกำพร้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เลขที่ 48 ถนนสิโรรส 8 ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีมอบทุนให้เด็กกำพร้าจำนวน 1,300 คน ตามโครงการของมูลนิธิอะมิรุลมุอ์มินีนฯ ซึ่งได้อุปการะดูแลเด็กกำพร้าทั้งพุทธและมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ, เด็กกำพร้าโดยธรรมชาติ และเด็กด้อยโอกาสพิการทางร่างกาย เพื่อสร้างความอบอุ่นและความรู้สึกที่ดีระหว่างครอบครัวของเด็กกำพร้ากับประชาสังคมโดยทั่วไป โดยมีผู้ปกครอง ผู้อุปการะเด็ก และประชาชนร่วมงานกว่า 2,000 คน
นายอับดุลฟาตัส ลงดีวา ประธานมูลนิธิอะมีรุลมุอ์มินีนฯ กล่าวว่า การมอบทุนได้ทำเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งถือว่าเป็นเดือนอันประเสริฐในการประกอบคุณงามความดีของมุสลิมทั่วโลก ปีนี้ได้มอบทุนให้เด็กทุกคนทุนละ 300 บาท นอกจากนั้น ทางมูลนิธิฯยังได้รับเด็กกำพร้าทั้งพุทธและมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์, กำพร้าโดยธรรมชาติ และเด็กด้อยโอกาสพิการทางร่างกาย มาเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อสร้างความอบอุ่นและเป็นที่ปรึกษาให้กับครอบครัวหรือผู้อุปการคุณในทุกเรื่อง พร้อมสนับสนุนด้านการศึกษาสำหรับเด็กกำพร้าที่เรียนดี ด้วยการส่งเสียให้ได้รับการศึกษาอย่างน้อยในระดับปริญญาตรี หรือชั้นสูงสุดที่มีความสามารถเรียนได้ ปัจจุบันได้ส่งเรียนในระดับปริญญาตรีแล้วจำนวน 20 คน
“ทุนที่ใช้ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากเครือข่ายของเพื่อนๆ นักธุรกิจในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยมีข้อตกลงให้หักจากผลกำไรของธุรกิจร้อยละ 20 เปอร์เซ็นต์มาให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้า และแก้ปัญหาทางสังคม สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่ มูลนิธิอะมีรุลมุอ์มินีนฯ โทรศัพท์ 073 – 213063 ได้ทุกวันยกเว้นวันศุกร์” นายอับดุลฟาตัส กล่าว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : 1-2 บรรยากาศการมอบทุนของมูลนิธิอะมิรุลมุอ์มินีนฯ แก่เด็กกำพร้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)