โชเล่ย์บอมบ์หน้า รพ.มายอ สองแม่ลูกบาดเจ็บรับวันแม่
ใต้ป่วนไม่เว้นวันหยุดราชการ คนร้ายนำระเบิดถังแก๊สซุกรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ขับไปจอดหน้าโรงพยาบาลมายอกลางวันแสกๆ ก่อนกดบึ้มตูมสนั่น แรงระเบิดทำให้สองแม่ลูกและเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ได้รับบาดเจ็บ เผยเกิดเหตุหลังเจ้าหน้าที่ตามรวบ 4 ผู้ต้องสงสัยโยงบอมบ์ปัตตานีเพียง 1 วัน ส่วนที่ยะลาดักระเบิดรถทหารพรานเจ็บ 4
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เป็นช่วงวันหยุดราชการยาว 4 วัน โดยเมื่อเวลา 08.43 น. วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค.57 ทหารสังกัดกองร้อยทหารพราบที่ 15331 (ร้อย.ร.15331) รับเเจ้งจากพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงพยาบาลมายอ จ.ปัตตานี ว่า มีคนขับรถซาเล้ง หรือรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (รถโชเล่ย์) ไปจอดทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาล แล้วคนขับไปเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่ถูกจอดทิ้งไว้ ขี่หายไป หลังรับแจ้งจึงได้ประสานหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าตรวจสอบ และปิดกั้นบริเวณโดยรอบ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี)
ต่อมาเวลาประมาณ 09.05 น. ได้เกิดระเบิดขึ้นจากรถจักรยานยนต์พ่วงข้างดังกล่าว แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย คือ นางรอซีดะ ตาเยะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 บ้านบาละแต หมู่ 4 ต.ลางา อ.มายอ ด.ช.ฟาฎิล แวโต บุตรชายวัย 2 ขวบของ นางรอซีดะ และ นายนิเหาะ ดอเลาะ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ของโรงพยาบาลมายอ อยู่บ้านเลขที่ 8/1 บ้านบาลูกาตือเงาะ หมู่ 1 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ
จากการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) สรุปพฤติการณ์ของคนร้ายได้ดังนี้ ก่อนเกิดเหตุระเบิด คนร้ายใส่เสื้อสีขาว สวมหมวกกันน็อคสีเข้มและถุงมือ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ แบบพ่วงข้าง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปจอดที่หน้าโรงพยาบาลมายอ จากนั้นได้เดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจอดรอไว้ แล้วขับขี่ไปทางบ้านปาลัส พนักงาน รปภ.ของโรงพยาบาลเห็นพฤติกรรมผิดสังเกต จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ระหว่างกำลังปิดกั้นพื้นที่ ปรากฏว่าคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ นางรอซีดะ พร้อมด้วย ด.ช.ฟาฎิล กำลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าโรงพยาบาลพอดี ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วน นายนิเหาะ กำลังยืนอยู่ในป้อมยาม แรงระเบิดทำให้หลังคาป้อมยามแตก ตกใส่นายนิเหาะ ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊ส จุดชนวนด้วย ส่วนรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างที่นำมาซุกระเบิด เดิมหมายเลขทะเบียน กษว 855 ปัตตานี ผู้ครอบครองอยู่ที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย.56
รวบ4ผู้ต้องสงสัยป่วนปัตตานีก่อนบึ้มมายอ1วัน
ก่อนหน้าเหตุระเบิดที่หน้าโรงพยาบาลมายอ 1 วัน คือเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย 6 จุดในพื้นที่ อ.มายอ เพราะเชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดกว่า 20 จุดใน อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 พ.ค.57 หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่นี้
โดยที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวน 5-6 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ปรากฏตัวได้วิ่งหลบหนีออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 3 คน ทราบชื่อคือ นายซุลกิฟลี กานุงมิง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ นายอับดุลการีม บือซา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ และ นายอับดุลการริม มะลี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/3 หมู่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายซุลกิฟลีไปตรวจค้นบ้าน พบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอัดลมไทยประดิษฐ์ จำนวน 3 กระบอก กระสุนปืนขนาด.22 (ลูกกรด) 25 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ จึงยึดไปตรวจสอบ
ส่วนที่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 1 ต.ปะโด ซึ่งเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ก็พบ นายมูฮัมหมัดซับรี บือซา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 1 ต.ปะโด ซึ่งวิ่งหนีมาจากบ้านหลังแรก และหลบอยู่ในบ้านหลังนี้ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือที่ นายมูฮัมหมัดซับรี ซ่อนไว้ใต้ตู้เสื้อผ้า 1 เครื่อง และโยนทิ้งระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านหลังแรกอีก 1 เครื่อง
สำหรับการตรวจค้นบ้านหลังอื่นๆ อีก 4 หลังไม่พบบุคคลต้องสงสัยหรือสิ่งของผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการซักถามที่กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา
กดบึ้มถังแก๊ส-ทหารพรานเจ็บ 4
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ส.ค. เวลา 07.20 น. พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองยะลา ว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ทำให้กำลังพลได้รับบาด เจ็บ 4 นาย ในท้องที่บ้านวังกระ หมู่ 4 ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางโค้งของถนน อบจ. พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ผก 9704 ยะลา ตัวถังด้านซ้ายยุบเป็นรูพรุน กระจกแตกทั้งคัน มีเลือดเปรอะอยู่บนพื้น ส่วนผู้ได้บาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแม่ลาน จ.ปัตตานี แล้ว ทราบชื่อคือ ส.ท.กิตติศักดิ์ พรหมาวรรณ อายุ 30 ปี ส.ท.สมยศ นรารักษ์ อายุ 32 ปี อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) เทพฤทธิ์ ปลดอาวุธ อายุ 27 ปี และ อส.ทพ.สมร บุญชูโต อายุ 27 ปี ทั้งหมดเป็นชุดพิเศษช้างศึก สังกัดกรมทหารพรานที่ 22 ประจำอยู่ที่เขื่อนปัตตานี ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
จากการตรวจจุดเกิดเหตุพบหลุมลึกกว้าง 1x3 ฟุต บริเวณโคนเสาป้ายสัญญาณจราจร นอกจากนั้นยังมีสะเก็ดระเบิด เศษชิ้นส่วนกล่องเหล็ก วงจรอิเลคทรอนิกส์ และชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือกระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดดังกล่าว มี ส.ท.กิตติศักดิ์ เป็นหัวหน้าชุด ได้นำกำลังรวม 4 นายออกลาดตระเวนเส้นทางสายเขื่อนชลประทานแม่น้ำปัตตานี-บ้านวังกระ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายซึ่งได้ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ประกอบใส่ถังแก๊ส ไปวางดักไว้ที่โคนเสาสัญญาณจราจร ได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวน จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทหารพรานได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ตามรวบผู้ต้องหายิงตร.ชุด "สมเพียร"
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา) เปิดเผยว่า ได้ติดตามจับกุมตัว นายบนยา สมัน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 1 ต.ปูลากง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงตำรวจชุดของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2552 ก่อนที่เดือน มี.ค.2553 พล.ต.อ.สมเพียร จะถูกลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต
โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2552 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.พีรพล แตชิลง แต่กระสุนถูกเสื้อเกราะ ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเชื่อได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุคือ นายบนยา จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับนายบนยา ซึ่งศาลก็อนุมัติให้ตามคำขอ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายบนยา ได้ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา
บึ้มในสวนยางที่ธารโตชาวบ้านขาขาด
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ส.ค. เวลา 01.30 น. เกิดเหตุระเบิดในสวนยางพารา บ้านผ่านศึก หมู่ 2 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้ นางทองพิศ อุตตมา อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งกำลังเข้าสวนไปกรีดยางกับสามี คือ นายสมบูรณ์ อุตตมา โดนสะเก็ดรเบิดจนขาซ้ายขาด ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธารโต
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนแบบเหยียบ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิดจอดหน้าโรงพยาบาลมายอ ก่อนเกิดระเบิด
2 ซากรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลังระเบิดทำงานแล้ว
ขอบคุณ : ภาพจากหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ