มทภ.1ห้ามทหารหาผลประโยชน์ยังไม่คุยเลิกอัยการศึก
แม่ทัพภาค 1 เปิดอบรมขยายผลปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน กำชับทหารยึดนโยบาย คสช. ส่งเสริมปรองดอง ห้ามหาประโยชน์จากประชาชน พอใจผลการดูแลความสงบเรียบร้อย ยังไม่คุยยกเลิกกฎอัยการศึก ปัดตอบเรื่องสัดส่วน สนช.
พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นประธานเปิดการอบรมขยายผลแนวทางการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมวลชน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ประกอบด้วย หัวหน้าชุดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านพลเรือน จำนวน 738 ชุด
ทั้งนี้ พล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า วัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้การลงพื้นที่ระยะที่ 2 ของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมวลชน สามารถสนับสนุนการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. บรรลุวัตถุประสงค์อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการเข้าชี้แจงทำความเข้าใจและเข้าประชาคม ชุมชน หมู่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานของ คสช. อย่างถูกต้อง และสร้างทัศนคติที่ดีของประชาชนต่อ คสช. และกองทัพ เพื่อสนับสนุนการทำงาน คสช. ในการเข้าถึงประชาชน รวมถึงการทำให้ประชาชนร่วมมือกันสร้างค่านิยมของสังคมไทย 12 ประการ ตามแนวทางของหัวหน้า คสช. เพื่อปลูกฝังความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังได้เน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจริงใจ ตั้งใจ เสียสละ โดยไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน
พล.ท.ธีรชัย ยังกล่าวถึงผลการดำเนินงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาว่า มีความพอใจในระดับหนึ่ง และยังคงดำเนินการต่อไปเพื่อให้สภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการบริหารประเทศ แต่ยังคงมีปัญหาเรื่อง ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น และปัญหาปากท้องของประชาชนที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป แต่ขณะนี้ก็สามารถดำเนินการไปได้แล้วกว่าครึ่ง ส่วนจะมีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่นั้น ในขณะนี้ขบวนการยังไปไม่ถึงขั้นตอนนั้น
นอกจากนี้ พล.ท.ธีรชัย ยังกล่าวถึงการจัดระเบียบการบริการรถสาธารณะว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการ ซึ่งทุกส่วนมีความเข้าใจดีว่า ทางเจ้าหน้าที่มีความต้องการอะไร เพื่อทำให้การจัดระเบียบง่ายขึ้น และหวังว่าจะมีการบูรณาการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 1 ปฏิเสธที่จะตอบเรื่องสัดส่วนของทหารที่เข้าไปนั่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่าจะมีผลต่อการกำหนดทิศทางการทำงานของ สนช. หรือไม่
ขอบคุณข่าวจาก