ปะทะรือเสาะ-วิฯ3ศพไม่มี"อับดุลเล๊าะ ยูนุ๊" แฉยึดปืนโยงฆ่า4ตำรวจ
เปิดข้อมูลหลังปะทะที่รือเสาะ เจ้าหน้าที่วิสามัญฯ 3 ศพ ไม่มีชื่อ "อับดุลเล๊าะ ยูนุ๊" แกนนำคนสำคัญตามที่แจ้งข่าวช่วงแรก แต่หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือลูกเขยอิหม่ามยะผา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแถลงประวัติละเอียดยิบ โยงเหตุการณ์ความไม่สงบหลายกรณี ระบุปืนกลที่ยึดได้ถูกปล้นไปจากฐานพระองค์ดำ ส่วนปืนพกเป็นของตำรวจรือเสาะที่ถูกฆ่าพร้อมพวก 4 ศพเมื่อปีทีแล้ว ด้านเหตุคาร์บอมบ์เบตง "แม่ทัพ" ชี้เกิดเพราะประมาท
เหตุการณ์ยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับกลุ่มชายฉกรรจ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ค.57 จนฝ่ายที่ยิงต่อสู้กับทหารเสียชีวิตถึง 3 รายนั้น หนึ่งในผู้เสียชีวิตไม่มีชื่อ นายอับดุลเล๊าะ ยูนุ๊ แกนนำระดับสั่งการคนสำคัญในพื้นที่ตามที่เป็นข่าวในช่วงแรกหลังเกิดเหตุการณ์
การยิงปะทะกันเกิดขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.45 น.วันจันทร์ที่ 28 ก.ค. คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนประกบยิง ส.ต.ต.อัสมิง ยูโซ๊ะ ตำรวจ สภ.โกตาบารู จ.ยะลา ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ขง 6392 สงขลา เพื่อกลับไปร่วมฉลองฮารีรายอที่บ้านใน อ.รือเสาะ โดยมีภรรยานั่งมาในรถด้วย โดยเหตุเกิดบนถนนสายบ้านซาตอ-บ้านสะโลว์ ท้องที่บ้านสะโลว์ หมู่ 7 ต.รือเสาะ
ทั้งนี้ เมื่อถูกลอบยิง ส.ต.ต.อัสมิง ยังมีสติแม้ได้รับบาดเจ็บ โดยได้ขับรถเบียดรถจักรยานยนต์คนร้ายและใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ ทำให้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 คน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15133 (ร้อย ร.15133) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้ยินเสียงปืน จึงจัดกำลังเข้าช่วยเหลือและเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มชายฉกรรจ์จนทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย คือ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงษารัตน์ ขณะที่ฝ่ายชายฉกรรจ์ที่ยิงสู้กับทหารเสียชีวิตอีก 2 คน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุคนร้ายประกบยิง ส.ต.ต.อัสมิง อยู่ห่างจากสถานีรถไฟสะโลว์ประมาณ 100 เมตร และห่างจากฐานทหารประมาณ 150 เมตร คนร้าย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเข้าประกบยิง แต่กระสุนไม่ถูกที่สำคัญ ทำให้ ส.ต.ต.อัสมิง ยังมีสติ และขับรถเบียดรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจนติดขอบถนนแล้วล้มลง คนร้ายจึงทิ้งรถวิ่งหนีไปทางหน้ารถของ ส.ต.ต.อัสมิง เจ้าตัวจึงเปิดประตูรถแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่คนร้ายจนเสียชีวิต 1 คน ขณะที่ ส.ต.ต.อัสมิง ก็หมดแรงล้มลง
จังหวะนั้น จ.ส.อ.ชัยณรงค์ พร้อมพวกรวม 3 นายได้ยินเสียงปืน ได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ จึงถูกคนร้ายที่เหลือยิงใส่ และดวลปืนกันในระยะประชิด ทำให้ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ เสียชีวิต ส่วนฝ่ายคนร้ายเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอพา สาและรู อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 4 ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา นายซัฟวาน สาและ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 บ้านรือเสาะ หมู่ 4 ต.รือเสาะ และ นายมะยูดิง หะยีสะนิ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 บ้านรีเย็ง หมู่ 4 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ ทั้งหมดเจ้าหน้าที่มีประวัติว่าเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบ
อนึ่ง ในช่วงหลังเกิดเหตุมีข้อมูลส่งจากเจ้าหน้าที่ว่า หนึ่งคนร้ายที่เสียชีวิตคือ นายอับดุลเล๊าะ ยูนุ๊ แกนนำระดับสั่งการคนสำคัญของ อ.รือเสาะ ทำให้มีสื่อหลายแขนงนำไปเสนอข่าว แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมายืนยันว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนไม่ใช่นายอับดุลเล๊าะ
สำหรับ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ ได้มีพิธีรดน้ำศพที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในวันอังคารที่ 29 ก.ค.57 และมีพิธีส่งศพจากท่าอากาศยานบ่อทอง จ.ปัตตานี กลับภูมิลำเนาที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
แฉประวัติ 3 ผู้ตาย - ยึดปืนโยงฆ่า 4 ตำรวจ
วันอังคารที่ 29 ก.ค. ที่ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิต 3 คน พร้อมยึดอาวุธปืนได้ 2 กระบอกนั้น แต่ละคนมีประวัติเคยก่อร่วมก่อเหตุความไม่สงบมาแล้วหลายเหตุการณ์ ได้แก่ นายซัฟวาน สาและ เคยร่วมก่อเหตุปล้นปืนจากฐานพระองค์ดำ เมื่อ 19 ม.ค.54 ปัจจุบันอยู่ระหว่างได้รับประกันตัวและหลบหนี
นายอับดุลรอพา สาและรู เป็นบุตรเขยของ อิหม่ามยะผา กาเซ็ง อดีตอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกอตอ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เมื่อเดือน มี.ค.51 โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายอับดุลรอพาน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุลอบยิงตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อ 16 ส.ค.56 และเคยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ส่วน นายมะยุดิง หะยีสะนิ เคยร่วมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หลายเหตุการณ์
สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ 2 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืนกลมือ (UZI) 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 2 ซอง และกระสุน 84 นัด จากการตรวจสอบเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายปล้นไปจากฐานพระองค์ดำ กองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 เมื่อ 19 ม.ค.54 ส่วนอีกกระบอกหนึ่งเป็นปืนพกขนาด 11 มม. พร้อมซองกระสุน 2 ซอง และกระสุน 16 นัด จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของ ส.ต.อ.อนุวัฒน์ ขุนรันต์ ตำรวจ สภ.รือเสาะ ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตพร้อมเพื่อนตำรวจรวม 4 ศพ เมื่อ 16 ส.ค.56
ผบ.ทบ.ยกย่องจ่าพลีชีพ "เสียสละ-กล้าหาญ"
พ.อ.ปราโมทย์ แถลงด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปของ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงษารัตน์ ซึ่งได้ทำหน้าที่ด้วยความเสียสละกระทั่งนาทีสุดท้าย พร้อมกับชื่นชมการตัดสินใจเข้าแก้ปัญหา และยกย่องในความกล้าหาญในการเข้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยกองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดูแลด้านสวัสดิการและสิทธิกำลังพลของผู้เสียสละอย่างเต็มที่ต่อไป
หมายจับ 2 ผู้ต้องหาโยงคาร์บอมบ์เบตง
ด้านความคืบหน้าการสอบสวนคดีระเบิดคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ค. ล่าสุดมีข่าวว่าศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาปล้นรถตู้โดยสารที่ใช้ขับไปจอดเพื่อกันพื้นที่ให้คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งนำรถกระบะติดตั้งระเบิดเป็น "คาร์บอมบ์" เข้าจอดก่อนจุดชนวนระเบิดแล้วว โดยผู้ที่ถูกออกหมายจับ คือ นายอาบะห์ เจ๊ะอาลี และ นายมะกอเซ็ง เจ๊ะมะ เบื้องต้นคาดว่าทีมที่ก่อเหตุระเบิด เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวใน อ.ธารโต และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
วันจันทร์ที่ 28 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันของ คสช. และได้กล่าวตอนหนึ่งถึงเหตุคาร์บอมบ์เบตงว่า ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย อาทิ เรื่องที่จอดรถ การตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ ยืนยันว่าการที่ผู้ก่อความไม่สงบจะแบ่งแยกประเทศนั้น เป็นไปไม่ได้
แม่ทัพภาค4 คาดเบตงโหว่เพราะประมาท
ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ ขณะเข้าเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนใต้ว่า ในพื้นที่ จ.ยะลานั้น เขตเมืองและชุมชนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัดเป็นผู้ดูแล ส่วนเขตอำเภอให้เป็นหน้าที่ของหน่วยเฉพาะกิจอำเภอ (ฉก.อำเภอ) โดยมีการเพิ่มกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) จำนวนหนึ่งเพื่อดูแลพื้นที่เสี่ยง
ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามนโยบายในการบูรณาการทุกส่วนงานให้มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ มีการแบ่งพื้นที่และมีผู้รับผิดชอบชัดเจน จึงต้องกลับไปดูว่าเป็นความบกพร่องของคนหรือระบบ
"ถ้าเป็นที่คนต้องไปลงโทษที่คน ถ้าระบบไม่ดีต้องแก้ที่ระบบ แต่จากการที่สอบถามส่วนหนึ่งน่าจะเป็นความประมาทด้วย เพราะพื้นที่นี้ไม่ได้เกิดเหตุมานาน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ละเลยเรื่องการปฏิบัติ" พล.ท.วลิต ระบุ
จี้ประชาชน-ผู้นำศาสนาต้องช่วยรัฐ
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความต้องการทำลายเขตเศรษฐกิจและเป้าหมายอ่อนแอ โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยพุทธบางส่วน รวมไปถึงมัสยิด ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุไม่คำนึงถึงหลักศาสนา ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอน ฉะนั้นผู้นำศาสนาต้องดูแลในเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิจารณ์ คสช.ว่าไม่สามารถคืนความสุขให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ พล.ท.วลิต กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เกิดแค่ 1-2 วัน ฉะนั้นจะใช้เวลาแก้ไขปัญหาแค่ 3-5 วันคงแกไม่ได้ ถ้าใครทำได้ขอให้บอกด้วย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาต้องค่อยเป็นค่อยไปในการเปลี่ยนความเชื่อหรือแนวความคิดของคน พร้อมทำตามนโยบายของหัวหน้า คสช.ในการทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเจ้าหน้าที่เป็นที่พึ่งได้
"ผบ.ทบ.ท่านสั่งให้ผมพยายามให้เต็มที่ และให้กำลังพลปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน ไม่มีใครอยากให้ใครเกลียด ผมก็ไม่อยากให้ใครเกลียด เมื่อเกิดเหตุก็เสียใจเหมือนกัน แต่ผมอยากถามว่าอย่างกรณีเมื่อคืนนี้มีการนำระเบิดไปวางไว้ใกล้มัสยิด (กรณีระเบิดที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ค.) หรือไว้ในบ้านประชาชน อยากถามว่าใครจะต้องช่วยดูแล และทหารสามารถเข้าไปในบ้านประชาชนอย่างอิสระเสรีหรือไม่ เพราะฉะนั้นก็ต้องช่วยกัน" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
ไม่รู้อนาคตขยับพ้นเก้าอี้แม่ทัพหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงปรับย้ายนายทหาร วาระประจำปี 57 เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อตำแหน่งหรือไม่ พล.ท.วลิต กล่าวว่า หน้าที่คือทำงานให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะรับตำแหน่งใดก็แล้วแต่ก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ส่วนจะไปรับตำแหน่งใดในอนาคตเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอะไร เพราะคนที่เลือกคือผู้บังคับบัญชา ฉะนั้นการที่จะทำให้ผู้บังคับบัญชาเลือก ต้องทำงานให้ดีที่สุด ถ้าเห็นว่าทำแล้วดีก็ปรับตำแหน่งขึ้น ถ้าไม่ดีก็ไม่ได้ปรับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ปืนกลอูซี่ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากเหตุปะทะที่รือเสาะ
ขอบคุณ : ข่าวในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ท.วลิต เอื้อเฟื้อโดย ปัญญา ทิ้วสังวาลย์ ผู้สื่อข่าวสายทหารเครือเนชั่น