เปิดขั้นตอนสรรหาสมาชิก “สภาปฏิรูป” ใช้เวลา 50 วัน ทำคลอดเสร็จ
"คณะกรรมการสรรหาด้านต่างๆ มีคณะละ 7 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับโดยได้รับการแต่งตั้งจากคสช. เพื่อทำหน้าที่สรรหาบุคคลเสนอต่อคณะคสช. เพื่อคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป ซึ่งแต่ละคนจะเป็นกรรมการสรรหาเกินหนึ่งคณะไม่ได้"
ภายหลังที่ “รัฐธรรมนูญ” (ฉบับชั่วคราว) มีผลบังคับใช้ กลไกต่างๆที่ถูกระบุไว้ต้องเร่งเดินหน้าตามกรอบเวลาที่ระบุเอาไว้
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า คณะทำงานด้านกฎหมายของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) ได้ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหารสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เป็นการอาศัยอำนาจของมาตรา 22 ,30,และ 43 ของ “รัฐธรรมนูญ” (ชั่วคราว ) เพื่อให้มีคณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่สรรหาบุคคลด้านต่างๆเพื่อเข้ารับการคัด เลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 12 คณะ
ประกอบด้วย 1 คณะกรรมการสรรหาด้านการเมือง 2. คณะกรรมการสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน 3. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม4. ด้านการปกครองท้องถิ่น 5 ด้านการศึกษา 6.ด้านเศรษฐกิจ 7 ด้านพลังงาน 8.ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 9. ด้านสื่อสารมวลชน10 .ด้านสังคม 11.คณะกรรมการสรรหาด้านอื่นๆ 12.คณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด จังหวัดละ1 คณะ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงนำรายละเอียดมาเปิดเผย เพื่อให้เห็นทิศทางการเดินหน้าของ “คสช.” ตาม “รัฐธรรมนูญ” (ฉบับชั่วคราว)
โดย คณะกรรมการสรรหาด้านต่างๆ มีคณะละ 7 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับโดยได้รับการแต่งตั้งจากคสช. เพื่อทำหน้าที่สรรหาบุคคลเสนอต่อคณะคสช. เพื่อคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป ซึ่งแต่ละคนจะเป็นกรรมการสรรหาเกินหนึ่งคณะไม่ได้
“สำหรับคณะกรรมการสรรหารประจำจังหวัด ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบลในจังหวัดครั้งล่าสุดและประธานคณะกรรมการการเลือก ตั้งประจำจังหวัดเป็นกรรมการ”
ส่วนใน “กรุงเทพมหานคร” คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยประธานที่ประชุม อธิการบดีแห่งประเทศไทย อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ปลัดกรุงเพทมหานคร ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนในกรุงเทพมหานคร และประธานคณะกรรมการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งรับผิดชอบงานเลขานุการ
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านให้สรรหาบุคคลคณะละ 50 คนและจังหวัดละ 5 คน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาพิจารณารายชื่อที่ถูกเสนอมาจากนิติบุคคล 2 คน โดยนิติบุคคลที่จะเสนอรายชื่อเสนอต่อสถานที่ที่คณะกรรมการเลือกตั้งกำหนด ภายใน 15 วันนับตั้งแต่มีประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ที่สำคัญบุคคลที่ถูกเสนอชื่อต้องมีหนังสือให้ความยินยอม
โดยจะมี “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” เป็นเลขานุการ
“จากนั้นให้เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้งหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายทำ หน้าที่ ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามและการเสนอรายชื่อเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับนี้หรือไม่แล้วส่งให้คณะกรรมการสรรหาภายใน 10 วัน”
ก่อนจะส่งต่อให้คณะกรรมการสรรหาคณะต่างๆ เสนอบัญชีรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปต่อคสช.ภายใน 10 วัน คณะคสช.พิจารณาคัดเลือกจังหวัดละ 1 คน และจากบัญชีของคระต่างๆของแต่ละด้านตามจำนวนที่เห็นสมควรแต่ไม่เกิน 250 คน
“หัวหน้าคณะครส.นำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าภายใน 15 วัน เมื่อทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาปฏิรูปแล้วให้ประกาศรายชื่อราชกิจจานุเบกษา”
ทั้งหมดคือกระบวนการสมาชิก “สภาปฏิรูปแห่งชาติ” ซึ่งคงอีกไม่นานเกินรอคงเห็นว่าจะมีใครหน้าตา-คอนเนกชั่น มาจากสายไหน แล้วจะนำพาประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างไร