บึ้ม5จุดตันหยงมัส-แม่ทัพรับป้องกันบกพร่อง
คนร้ายลอบวางระเบิดถึง 5 จุดในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ยอมรับบกพร่องด้านการป้องกันเหตุร้าย สั่งทบทวนแผนปฏิบัติ
เหตุระเบิดชุดแรกจำนวน 3 จุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.10 น.วันอาทิตย์ที่ 20 ก.ค.57 และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ก็พบระเบิดแสวงเครื่องถูกวางไว้อีกหลายลูก จึงพยายามเก็บกู้และยิงทำลาย
จุดแรก บริเวณริมรั้วด้านหลังของสถานีรถไฟตันหยงมัส ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักของพนักงานรถไฟ คนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์ จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา นำไปซุกไว้ในถังขยะสีน้ำเงิน ทำให้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จุดที่สอง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณริมรั้วด้านหน้าของสถานีรถไฟตันหยงมัส พบคนร้ายนำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกับจุดแรกไปซุกไว้ในถังขยะเช่นกัน โดยระเบิดทำงานตามเวลาที่ตั้งไว้ แต่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จุดที่สาม เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าหน้าห้องแถวซึ่งอยู่ถนนด้านหลังของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาตันหยงมัส โดยคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ไปวางพิงไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า และเกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
จุดที่สี่ ห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 4 เมตร เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณป่าริมคูน้ำ โดยคนร้ายใช้ผ้าใบยางสีฟ้าขาวคลุมและพันเทปกาวเอาไว้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จึงใช้ระเบิดซีโฟร์ติดที่ถัง ก่อนจะยิงทำลาย ซึ่งจุดนี้คาดว่าคนร้ายลอบวางระเบิดไว้เพื่อจุดชนวนดักสังหารเจ้าหน้าที่ แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์และวิทยุสื่อสาร ทำให้ระเบิดไม่ทำงาน
จุดที่ห้า บริเวณหน้าประตูทางเข้าสถานีรถไฟ คนร้ายได้วางถังแก๊สบรรจุระเบิดไว้ในรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ปากทางเข้าสถานีรถไฟ แต่จุดนี้ระเบิดไม่ทำงาน และเจ้าหน้าที่สามารถยิงทำลายได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเก็บกู้วัตถุระเบิดจุดที่ 1-4 เป็นช่วงที่ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เข้าไปติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง และเมื่อ พล.ท.วลิต ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับ เจ้าหน้าที่จึงยิงทำลายระเบิดจุดที่ 5 ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่แม่ทัพภาคที่ 4 ลงไปตรวจจุดเกิดเหตุนัก
สั่งทบทวนแผนปฏิบัติ-บกพร่องระวังป้องกัน
พล.ท.วลิต ลงพื้นที่พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.สิงหศักดิ์ อุทัยมงคล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งฝ่ายปกครองอีกจำนวนมาก
จากนั้น พล.ท.วลิต ได้เรียกประชุมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยกลับไปทบทวนแผนการปฏิบัติงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวต่อที่ประชุมว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมาจากการปฏิบัติงานที่บกพร่องส่วนหนึ่ง ซึ่งการก่อเหตุจะเห็นได้ว่าคนร้ายยังคงพุ่งเป้าทำลายพื้นที่เศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ สำหรับในเรื่องของการเฝ้าระวังป้องกันนั้น ทุกหน่วยได้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุกันอยู่แล้ว และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จากนี้ไปคงต้องเน้นในเรื่องการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการและมอบนโยบายไว้ 3 ขั้นตอน คือ การเฝ้าระวังป้องกันก่อนเกิดเหตุ, การปฏิบัติในช่วงเกิดเหตุ และการปฏิบัติช่วงหลังเกิดเหตุ ซึ่งขั้นที่ 2-3 นั้นมั่นใจว่าหน่วยกำลังทั้งหมดสามารถดูแลได้ แต่ในขั้นแรก คือ การเฝ้าระวังป้องกันก่อนเกิดเหตุ ได้มีการกำชับว่าจะต้องให้มีการปฏิบัติที่เข้มแข็งมากกว่านี้ และอยากขอร้องประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะใครก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรง และควรออกมาช่วยกันปฏิเสธความรุนแรงให้เป็นรูปธรรม และร่วมเป็นแรงสะท้อนการปฏิเสธความรุนแรงจากประชาชนด้วยกันเอง
ด้าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าฯนราธิวาส กล่าวว่า ได้สั่งระงับการเดินรถไฟเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะได้รับอันตราย แต่จะเปิดเดินรถตามปกติโดยเร็วที่สุด
รวบ2ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวยิงหญิงชราตากใบ
ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนยิง นางแดง จันทร์คง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานบวช กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยใช้เส้นทางถนนในหมู่บ้านโคกยาง หมู่ 5 ต.พร่อน อ.ตากใบ เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.นั้น
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ค. เวลา 13.15 น. หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ร่วมกับกำลังพลของนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้จัดกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 บ้านโคกมือบา ต.โฆษิต อ.ตากใบ และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย พร้อมเครื่องกระสุนและอุปกรณ์โทรศัพท์หลายรายการ จากนั้นนำส่งหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส
วันศุกร์ที่ 18 ก.ค. เวลา 13.00 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิง นายมะนาเซ็ง แวโซ๊ะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 บ้านมะแกง หมู่ 1 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายมะนาเซ็งกำลังเดินเข้าไปในมัสยิดนูรุลฮุดา บ้านฮูลู หมู่ 3 ต.กาลิซา อ.ระแงะ โดยคนร้ายมากัน 4 คน แฝงตัวอยู่ในกลุ่มประชาชนที่ไปประกอบศาสนกิจ จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินตามประกบนายมะนาเซ็ง และใช้อาวุธปืนพกจ่อยิงจากด้านหลัง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่นายมะนาเซ็งเคยถูกลอบยิงมาแล้ว 2 ครั้ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ระเบิดหนึ่งในหลายจุดที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
2 แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุด้วยตนเอง