เหตุจากซีพี นักข่าว และนักประชาสัมพันธ์
เมื่อ 14 กรกฎาคม 2557 ทีมข่าว TCIJ รายงานข่าวเจาะ: การเกษตร บนเว็บ http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=4559 ของศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนสิทธิพลเมือง เรื่อง ‘หลุด! เอกสารฝ่าย PR ธุรกิจยักษ์ใหญ่ จ่ายสื่อ-ลบกระทู้-อ้างชื่อนักวิชาการ’ อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ธุรกิจการเกษตรระดับชาติ จ่ายเงินรายเดือนแก่สื่อมวลชนอาวุโส เป็น ‘งบพิเศษเพื่อสนับสนุนสื่อมวลชน’ 19 ราย และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของสื่อมวลชนโดยระบุสถานะการทำงาน สภาพที่พักอาศัย ทัศนคติ วิธีการทำงาน และการใช้ชีวิต ซึ่งนางพรรณินี นันทพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ปฏิเสธผ่านหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ http://www.thaipost.net/news/150714/93130 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2557 ว่าไม่เคยใช้เงินเพื่อซื้อสื่อในการปิดข่าวหรือบิดเบือนเนื้อหาข่าว
‘ไทยโพสต์’ ยังรายงานเอกสารที่มีการนำมาเผยแพร่ว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่งานประชาสัมพันธ์ของเครือธุรกิจการเกษตรที่เป็นข่าวคนหนึ่ง ซึ่งลาออกไปแล้ว และได้สำเนาเอกสารภายในองค์กรติดตัวไปด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าบางส่วนของเอกสารที่นำออกเผยแพร่ โดยเฉพาะการจ่ายเงินค่าโฆษณาแก่สื่อ 19 องค์กร ที่ได้ตัดต่อเป็นการจ่ายเงินเดือนส่วนบุคคลแก่สื่อมวลชนที่ตนรู้จัก 19 ราย ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เมื่อเย็นวันที่ 14 กรกฎาคม 2557 ได้ตั้งคณะกรรมการอิสระ โดยมีนายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการและอดีตกรรมการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เป็นประธาน ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิและบุคคลภายนอก ดำเนินการสอบสวน และจะมีการเปิดเผยผลการสอบสวนทันทีที่ได้ข้อเท็จจริง
วิชาชีพนิเทศศาสตร์ ไม่ได้มีเฉพาะสาขาวารสารศาสตร์เท่านั้น ยังมีสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร ทุกสาขาวิชาต่างก็มีจริยธรรมวิชาชีพกำหนดเป็นจรรยาบรรณ (code of ethics) ไว้ เช่นเดียวกับสาขาการประชาสัมพันธ์ ซึ่งหนึ่งใน 9 ข้อ จรรยาบรรณนักประชาสัมพันธ์ สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ก็คือ การให้ความสำคัญในการรักษาความลับ และเคารพสิทธิส่วนบุคคล
การปฏิเสธจากผู้บริหารระดับสูงธุรกิจการเกษตร และการรายงานของ ‘ไทยโพสต์’ เป็นข้อเท็จจริงที่สะท้อนกลับไปยังอดีตเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผู้นี้ แม้จะอ้างว่าได้ลาออกไปแล้วก็ตาม และยังสะท้อนต่อไปถึงคุณสมบัติอันสำคัญหากจะทำหน้าที่เดียวกันนี้ในองค์กรอื่น ๆ อันน่าจะเป็นจังหวะเวลาที่สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย โดย ดร. ภัทรียา สุมะโน นายกสมาคมฯ และฝ่ายวิชาการโดยศาสตราจารย์ ดร. ปาริชาติ สถาปิตานนท์ ร่วมกันพิจารณาพัฒนาข้อบังคับจริยธรรมแห่งวิชาชีพการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการออกแนวปฏิบัติให้ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจากเฟชบุ๊ก https://www.facebook.com/banyong.suwanpong