คนข่าว ชี้สื่อยุคปัจจุบันต้องผลิตเนื้อหาให้ต่างจากคู่แข่ง
ประธานสภาการฯ ชี้สื่อในยุคปัจจุบันเน้นปริมาณ แข่งขันกันมาก เปรียบเป็น “โรงงานอุตสาหกรรมข่าว” ด้านประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แนะสื่อปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี ตระหนักถึงจริยธรรมให้มากขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปี สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยมีเวทีเสวนา “บทบาทสื่อกับการตรวจสอบคอร์รัปชั่นในสังคมไทย” ทั้งนี้ได้มีการตั้งหัวข้อเสวนาย่อยเรื่อง "ภูมิทัศน์สื่อยุคใหม่"ณ ห้องกมลทิพย์ โรงแรมเดอะสุโกศล ถนนพญาไท กรุงเทพฯ
นายจักรกฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวถึงสื่อในยุคหลอมรวมในปัจจุบันว่า ช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสารนั้นเพิ่มมากขึ้น แข่งขันกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ ฯลฯ แต่ปริมาณของข่าวที่เพิ่มขึ้นนั้นกลับส่วนทางกับคุณภาพของข่าวที่เนื้อหาข่าวผลิตแต่ข่าวที่เน้นปริมาณ ไม่ค่อยมีเนื้อหาที่แตกต่าง และไม่ค่อยมีเนื้อหาสาระ จึงเรียกว่าเป็น “โรงงานอุตสาหกรรมข่าว”
ในขณะที่ข่าวเชิงสืบสวนที่ต้องใช้การวางแผนและใช้สมองคิดนั้น นายจักรกฤษ กล่าวว่า กลับน้อยลงน้อยลง ทั้งนี้องค์กรสื่อต่างๆต้องมีนโยบายสนับสนุน สนใจ และใส่ในการทำข่างเชิงสืบสวนมากขึ้นโดยเฉพาะปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นที่เป็นปัญหาเรื่องรังของสังคมไทยที่ต้องสืบหาความจริง
“พูดถึงเรื่องคอร์รัปชั่นทุกคนรู้ว่า สำคัญ เพราะเป็นเนื้อร้ายของสังคมมากนาน แต่สิ่งที่เราพูดคือแค่แสดงความคิดเห็นแค่การวิพากษ์วิจารณ์ แค่บทบาท แต่จะมีมากน้อยขนาดไหน ที่จะเอาการวิพากษ์วิจาณ์ เสียงสะท้อนที่หลายหลายไปร่างเอาความจริงให้ปรากฏขึ้นมา ไปสืบค้นข้อเท็จจริงว่าเกิดขึ้นจากอะไร ความรู้ทั้งนั้นจะเป็นตัวจัดการคอร์รัปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ ผมสรุปเองว่า วันนี้ราเรียกร้องปริมาณมาก ควรจะต้องหลับมาทบทวนและคิดว่าเราต้องต้องการพัฒนาคุณภาพของข่าว” ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าว
ขณะที่นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงภูมิทัศน์ของสื่อยุคใหม่ว่า สื่อยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป การรับรู้ข่าวสาร ก็เปลี่ยนแปลงไปเพราะมีช่องทางที่หลากหลายขึ้น ความจำเป็นที่จะมีผู้สื่อข่าวนั้นน้อยลง ถ้าผู้ที่อยู่ในวิชาชีพข่าวยังคงรายงานข่าว แค่ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร หรือข่าวแค่เน้นปริมาณ เพราะว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ทุกคนในสังคมทำหน้าที่ของนักข่าวได้ เพราะฉะนั้นผู้สื่อข่าวต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ทั้งเนื้อหาการนำเสนอและปริมาณข่าวสารที่เผยแพร่ รวมถึงควรตระหนักถึงจริยธรรมในการนำเสนอข่าวเสมอ เพื่อสร้างความแตกต่างว่า ผู้สื่อข่าวมีจริยธรรมและใส่ใจในการนำเสนอ ไม่สร้างความวุ่นวายในสังคม
ด้านนายสุภาพ คลี่ขจาย ประธานชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ภาคพื้นดินระดับชาติ กล่าวถึงสื่อในยุคปัจจุบัน ข่าวยุคนี้เป็นการทำข่าวแบบผลิตแข่งขันกัน การนำเสนอจึงต้องหาความแตกต่างจึงทำให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น ทั้งนี้ในระหว่างความเปลี่ยนแปลงสื่อ อยากให้คนในวงการสื่อทบทวนการทำงานว่าควรนำเสนออย่างไร เพราะฉะนั้นคนที่ทำสื่อเองจึงต้องปรับตัว ทั้งเนื้อหาที่ต้องมีความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้ผู้บริโภคสื่อได้มีทางเลือกที่แตกต่างออกไป