เผา7ศพบ้านปู่ทา สามเงาหนัก มุกดาหารท่วมหมื่นไร่

อ.สามเงา ยังหนักหมู่เดียวท่วมกว่า600หลัง น้ำป่าทะลักศูนย์หนีภัยสู้รบ346ครัวอ่วม ทพ.กับชาวบ้านปู่ทา เผา7ศพเน่าอืด มุกดาหารกว่าท่วมหมื่นไร่

รายงานสถานการณ์อุทกภัยสืบเนื่องจากอิทธิพายุโซนร้อนนกเต็นตั้งแต่ปลาย 30 ก.ค. จนล่าสุดวานนี้ (7 ส.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัด ตากยังหนัก โดยนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า อ.สามเงา เกิดน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากแม่น้ำวังเอ่อท่วมบ้านเรือน ไร่นา สวนผลไม้ และถนน การสัญจรลำบาก และบางสายถนนขาด ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซ.ม. บางแหล่งสูง 1-2 เมตร เช่น ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา ในบ้านแม่เชียงราย หมู่ 7 เสียหายทั้งหมู่บ้านกว่า 600 หลังคา ซึ่งทางจังหวัดเร่งจ่ายถุงทรายตามจุดต่างๆ รวม 40,000 ถุงทำแนวกันน้ำ ตั้งจุดบรรเทาทุกข์แจกน้ำดื่ม ยารักษาโรค และจุดตรวจสอบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

"วันที่ 8 สิงหาคม เหล่ากาชาดจังหวัดตาก จะนำเครื่องอุปโภค บริโภค ไปช่วยราษฎรบ้านแม่สลิด ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง และจะกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วม" นายสามารถ กล่าวว่า

น้ำป่าทะลักศูนย์หนีภัยสู้รบ 346 ครัวอ่วม
นาย ศุภมิตร เลื่อนสุพรรณ นายอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยรายงานจากชุดรักษาความปลอดภัย อส.ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่ละอูน และบ้านแม่ลามาหลวง คืนที่ผ่านมา(6 ส.ค.) เกิดเหตุน้ำป่าหลากเข้าทั้ง 2 หมู่บ้าน ผู้หนีภัยการสู้รบเดือดร้อน 346 ครอบครัว แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ได้ส่งคนไปสำรวจความเสียหายแล้ว แต่ก็ยังเข้าไม่ถึง เนื่องถนนถูกดินถล่มปิด

ส่วนการช่วยผู้บาดเจ็บจากน้ำป่าหลากดิน โคลนถล่ม บ้านปู่ทา ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ทหาร และอส. ช่วยนำร่างผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน ข้ามลำห้วยลัดเลาะไปตามไหล่เขา ออกจุดลงเรือลำน้ำสาละวิน เข้าสู่แม่น้ำเมย ออกทาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เนื่องจากเส้นทางเข้า อ.แม่สะเรียง ซึ่งใกล้ที่สุดถนนถูกตัดขาด มีชุดฉุกเฉิน EMS ร.พ.แม่สะเรียง และร.พ.สบเมย แพทย์มารอรับ ณ ท่าเรือแม่ตะวอ อ.ท่าสองยาง

ในจำนวนนี้ 3 คนต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน ร.พ.ท่าสองยาง ประกอบด้วย 1.ด.ช.พงศ์กร ศรีโสภาจำปี อายุ 2 ปี 8 เดือน มีบาดแผลตามใบหน้าและลำตัว 2.ด.ช.ปฏิภาณ ศรีโสภาจำปี อายุ 6 ปี มีบาดแผลบริเวณอุ้งเท้า นิ้วหัวแม่โป้ขวาหลุด 3.ด.ญ.หน่อแพ ไม่มีนามสกุล อายุ 14 ปี ถูกไม้หนีบบริเวณสะโพก และอีก 1 คนนำส่ง ร.พ.สบเมย คือ นางนารี บรรพตธารา อายุ 22 ปี ถูกไม้กระแทกสะโพก

ด้านพันเอกสุทัศน์ จารุมณี รักษาราชการ ผบ.กองพลทหารราบที่ 7 พันเอกคชาชาต บุญดี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 อำนวยการและสั่งการให้เปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงสิ่งของถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ยารักษาโรค เข้าไปมอบให้ราษฏรในหมู่บ้านปู่ทา เพราะเส้นทางเดิม แม่สะเรียง-แม่สามแลบ ถูกตัดขาด ไปลงเรือบ้านแม่ตะวอ ต.ท่าสองยาง โดยมี ฉก. กรมทหารพรานที่ 35 รับสิ่งของต่อนำส่งเข้าพื้นที่ ทั้งนี้สภาพบ้านเรือนหมู่บ้านปู่ทา บางจุดดินโคลนถล่มทับเศษไม้ใบหญ้าสูงหลายเมตร มีฝนตกลงมาบ้างและยังค้นหาไม่พบอีก 1 คน

ฌาปณกิจ 7เหยื่อดินถล่มบ้านปู่เทา
ต่อ มา มีรายงาน ทหารพราน ฉก.ทหารพรานที่ 35 อ.แม่สอด จ.ตาก และ ฉก.ทหารพราน 36 อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ช่วยนำศพโคลนถล่มบ้านปู่ทา มาเรียงไว้ เมื่อค้นพบครบ 7 คนแล้ว จึงร่วมกับราษฎรกะเหรี่ยง สัญชาติไทย ทำพิธีเผาศพพร้อมกัน เนื่องจากขึ้นอืด เน่าเปื่อยมาก ขณะนี้ ต้องใช้เรือหางยาวติดธงชาติไทยล่องไปตามลำน้ำเมย และแม่น้ำสาละวิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น และทหารแจ้งว่า บ้านกว่า 50 หลังถูกน้ำซัดไป นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงจำนวนมากสูญหาย ซึ่งขณะนี้กำลังหาซากต่อไป

ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 31 พิษณุโลก จำนวน 21 นาย เดินทางมาช่วยชาวบ้าน หมู่ 1 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร บรรจุกระสอบทราย 500 ถุง และทำสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อการสัญจร หลังจากแม่น้ำยมไหลมาจาก จ.สุโขทัย ล้นตลิ่งเอ่อเข้าท่วมหมู่บ้านจระเข้ผอม และท่วมถนนในหมู่บ้านสูงเกือบ 1 เมตร โดยชาวบ้านร่วมกันบริจาคแผ่นไม้กระดาน เงินเป็นค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายสร้างสะพานไม้ชั่วคราว ส่วนทางองค์การบริหารส่วนตำบลรังนก จัดงบประมาณซื้อทรายมาบรรจุกระสอบสร้างแนวกั้นน้ำ เช่นเดียวกับชาวบ้านจระเข้ผอม หมู่ 1 ต.รังนก จำนวน 30 คนช่วยกันดึงผักตบชวา และขยะที่ไหลมาอัดแน่นบริเวณสะพานแขวนข้ามหมู่บ้านเพื่อให้น้ำไหลสะดวก  โดยระดับแม่น้ำยมวันนี้(7 ส.ค.) เพิ่มขึ้นอีก 10 ซ.ม. ซึ่ง ต.รังนก ลุ่มต่ำสุดน้ำท่วมบ้านเรือนทั้ง 12 หมู่บ้านแล้ว และคาดว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นภายในอีก 2-3 วัน

ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดพิจิตร สรุปสถานการณ์อุทกภัย ระหว่าง 2-6 ส.ค. ท่วมแล้ว 7 อำเภอ 37 ตำบล 175 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรนาข้าวผลกระทบ 81,179 ไร่ พืชสวน 20 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 7 บ่อ ถนนลูกรังชำรุด 9 สาย ท่อระบายน้ำ 3 แห่ง บ้านพักเสียหาย 1 หลัง ราษฏรกระทบ 5,913 ครัวเรือน

อยุธยาประกาศภัยพิบัติ 3 อำเภอ
รายงาน สถานการณ์อุทกภัย กระแสน้ำแม่น้ำเจ้าพระยากระแสเชี่ยว จาก ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง รอยต่อ ต.บางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งเล็กน้อย ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 1,442 ลบ.ม. เพิ่มเป็น 1,479 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนจุดกระทบแล้วบริเวณประตูระบายน้ำบางกุ้ง อ.บางบาล ล้นตลิ่ง 4 ซ.ม. และไหลเข้าท่วมริมแม่น้ำ ต้องเดินลุยน้ำบางจุด วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ขณะนี้น้ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1.30 เมตร วัดไชยวัฒนาราม ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 70 ซ.ม.

ล่าสุด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกาศเขตภัยพิบัติ 3 อำเภอ คือ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร ซึ่งสุ่มเสี่ยงถูกน้ำท่วมมาก ที่สุด และมีบางตำบลมีน้ำเอ่อตลิ่งบ้างแล้ว ทั้งนี้จะนำงบประมาณมาเตรียมพร้อมป้องกันและช่วยเหลือได้ทันท่วงที และคาดว่า 9 - 10 ส.ค.นี้อาจจะต้องประกาศอีก 4 อำเภอ คือ บางบาล ผักไห่ บางปะหัน และ เสนา

รมว.เกษตร ตรวจเขื่อนโผงเผง พอใจได้ผล
เมื่อ เวลา 15.30 น. นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ มายังบริเวณจุดเขื่อนกันน้ำ หมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง และนายอดุลย์รัตน์ องอาจยุทธ นายอำเภอป่าโมก คอยรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ นายธีระ กล่าวว่า ทางเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เร่งระบายน้ำเพื่อรอรับน้ำเหนือจะลงเขื่อนอีก ดังนั้นท้ายเขื่อนคงได้รับผลกระทบบ้าง โดยเฉพาะ ต.โผงเผง จ.อ่างทอง และ อ.บางบาล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนน้ำท่วมแล้ว 3 หมู่บ้าน ประมาณ 30 หลังคาเรือน และคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกไม่มาก

สำหรับเขื่อนที่ลงมาดูนั้น สร้างด้วยคอนกรีตยาว 120 เมตร อยู่บริเวณหมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก บริเวณนี้เมื่อปีที่แล้วท่วมอย่างหนัก ริมตลิ่งทรุดตัวมาก ทำให้น้ำไหลเข้าสู่หมู่บ้าน

มุกดาหารนาข้าวท่วมนับหมื่นไร่
รายงาน ระดับน้ำโขงที่ จ.มุกดาหาร อยู่ที่ 12.50 ซ.ม เข้าสู่จุดวิกฤติ และล้นเข้าลำห้วยสาขา เอ่อท่วมนาข้าว 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านบางทรายน้อย บ้านพาลุกา บ้านชะโนด บ้านทรายทอง ต.ชะโนด อ.หว้านใหญ่ จมใต้น้ำเสียหายนับหมื่นไร่ ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง ทั้งนี้ ถ้าท่วมขังนานกว่า 2-3 สัปดาห์ ต้นข้าวจะเน่าเสียหาย      

ทั้งนี้ ระดับแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้น เกรงว่าจะเกิดอุทกภัยคล้ายปี 2538 ครั้งนั้นน้ำโขงทะลักท่วมตัว อ.เมือง เขตเทศบาลเมือง รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือในการเดินทาง ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดเตรียมพร้อม หากในอีก 2-3 วันน้ำจากภาคเหนือจะลงมาอีก

มีรายงานเมื่อเวลา 04.00 น. เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องเป็นบริเวณกว้างครอบคลุมหลายจังหวัด รวมทั้งเขต อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ประกอบกับแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอีกราว 30 ซ.ม. และเอ่อท่วมไร่นาขยายวงกว้างออกไป นายประดุช ทองโสภา เกษตรกรชาวบ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล กล่าวว่า มีที่ทำกินกว่า 100 ไร่ ปลูกมันสำปะหลัง และข้าวอย่างละครึ่ง อยู่ในที่ลุ่มใกล้ลำห้วยสาขาแม่น้ำโขง ขณะนี้ นาข้าวและไร่มันสำปะหลังน้ำท่วมหมดเป็นเวลา 4 วันแล้ว ถ้าระดับน้ำยังไม่ลด นาข้าวจะต้องเสียหาย .