โพลปชช.แนะคสช.ปฏิรูปโปร่งใส
สวนดุสิตโพล เผย ประชาชน ขอ คสช. ปฏิรูปโปร่งใส ยึดกฎหมาย ชี้ปราบคอร์รัปชั่นต้องเด็ดขาด
ตามที่ คสช.ได้มีแนวทางการปฏิรูปทั้ง 9 ด้าน ซึ่งครอบคลุมการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและการศึกษาเพื่อที่จะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการปฏิรูปดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติที่จะทำให้งานปฏิรูปสำเร็จลุล่วงสมดังจุดมุ่งหมายของ คสช.ที่กำหนดไว้ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 2,218 คน ระหว่างวันที่ 18-28 มิถุนายน 2557 สรุปผลได้ ดังนี้
ประชาชนคิดว่า คสช. จะปฏิรูปสิ่งต่อไปนี้อย่างไร ? จึงจะเห็นผลเป็นรูปธรรม 1. แนวทางการปฏิรูปการเมือง ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 จะต้องปฏิรูปการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส เป็นระบบ พรรคการเมืองควรคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด 88.86 % อันดับ 2มีมาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ บทลงโทษต้องเด็ดขาด เช่น ยึดทรัพย์ ตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยติดตามและจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างจริงจัง 82.18 % อันดับ 3 สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ระบอบประชาธิปไตย สิทธิบทบาทหน้าที่ และการปฏิบัติตนตามกฎระเบียบต่างๆ 80.54 % อันดับ 4 ทำลายการผูกขาดอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองรุ่นเก่า เปิดโอกาสให้นักการเมือง รุ่นใหม่เข้ามาทำงาน64.95 %
2. แนวทางการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้บริหารประเทศ ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 ผู้บริหารต้องมีจิตสำนึก ดำรงตนอยู่ในความดี ซื่อสัตย์ สุจริต 93.67 % อันดับ 2 กำหนดวิธีการคัดเลือกและคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งบริหาร เช่น เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ได้รับการยอมรับจากสังคม ประวัติดี มีภาวะผู้นำ 82.77 % อันดับ 3 คำนึงถึงส่วนรวม ไม่ใช้ระบบเส้นสาย ไม่ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอำนาจมากเกินไป มีการถ่วงดุลอำนาจ 82.53 % อันดับ 4เปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการสรรหา ติดตาม ตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารประเทศ เมื่อพบการกระทำผิดต้องมีกฎหมายและบทลงโทษที่รุนแรง 71.51 %
3. แนวทางการปฏิรูปขบวนการยุติธรรม ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายไม่เลือกปฏิบัติ ไม่สองมาตรฐาน ไม่ให้อำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง 89.68 % อันดับ 2พัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับ มีผลงานชัดเจน โดยเฉพาะคดีที่สังคมให้ความสนใจ 83.70 % อันดับ 3 บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้กระทำผิดต้องได้รับการลงโทษอย่างจริงจัง 81.12 % อันดับ 4 พิจารณาปรับแก้กฎหมาย ป้องกันไม่ให้มีผู้อาศัยช่องโหว่กระทำผิดและทันสมัยอยู่เสมอ66.70 %
4. แนวทางการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 ยึดแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้อง เป็นธรรม 92.61 % อันดับ 2มีกระบวนการติดตามตรวจสอบที่เคร่งครัด ตรงไปตรงมา ทั้งในด้านการบริหารงาน งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการตรวจสอบทรัพย์สินข้าราชการ 83.35 % อันดับ 3 ปรับปรุงระบบการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการให้โปร่งใส ปราศจากการวิ่งเต้น เส้นสาย 81.94 % อันดับ 4ควรมีการบริหารราชการแบบกระจายอำนาจทุกภาคส่วน กำหนดโครงสร้างหน่วยงาน ที่ชัดเจน เหมาะสมเป็นปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว 66.35 %
5. แนวทางการปฏิรูปการศึกษา ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 สร้างโอกาสให้ทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง จัดสรรงบประมาณ ด้านการศึกษาอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะเด็กที่มีฐานะยากจน 87.81 % อันดับ 2 กระทรวงศึกษาธิการต้องมีนโยบายด้านการศึกษาที่ชัดเจน ต่อเนื่อง ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย พัฒนาระบบการศึกษาให้ได้มาตรฐาน และพร้อมเข้าสู่อาเซียน 84.86 % อันดับ 3 ผู้บริหาร ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียน จะต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจน ตรงกัน ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ร่วมกันพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวหน้า 81.83 % อันดับ 4 ปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้เด็กได้มีส่วนร่วม รู้จักคิดวิเคราะห์ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 70.34 %
6. แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และค่าสาธารณูปโภคให้เหมาะสม92.97 % อันดับ 2ส่งเสริมการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและประชาชน85.70 % อันดับ 3 รณรงค์ให้คนไทยใช้ของไทย นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต 79.60 % อันดับ 4 พัฒนาการเกษตรที่เป็นรายได้หลักของประเทศให้เข้มแข็ง ดูแลเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี 69.05 %
7. แนวทางการปฏิรูปด้านข่าวสาร ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 สื่อมวลชนจะต้องรักษาจรรยาบรรณของสื่อที่ดี เป็นกลาง ไม่เอนเอียง86.75 % อันดับ 2 ควรมีหน่วยงานเฝ้าระวังการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆที่สร้างความขัดแย้ง แตกแยก หรือไม่เหมาะสม 81.71 % อันดับ 3 พูดคุย ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างรัฐกับสื่อมวลชน เพื่อให้สื่อได้ทำงานอย่างเต็มที่เป็นอิสระ 81.36 % อันดับ 4 ต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจนกับสื่อที่มีการนำเสนอข้อมูลบิดเบือน ยั่วยุ เกินจริง หรือสร้างกระแสปลุกปั่นในสังคม 67.29 %
8. แนวทางการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกชนชั้น ทุกอาชีพ สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ควรจะได้รับ กระจายรายได้สู่ประชาชนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม 92.50 % อันดับ 2ประชาชนควรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รู้จักพึ่งตนเอง ไม่รอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือนโยบายประชานิยมเพียงอย่างเดียว 83.24 % อันดับ 3 จะต้องสร้างมาตรฐานด้านคุณธรรมจริยธรรมให้กับผู้นำ นักการเมือง และข้าราชการ 82.06 % อันดับ 4 กฎหมายจะต้องเป็นธรรม ใช้ได้สำหรับทุกกลุ่ม ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 65.65 %
9. แนวทางการปฏิรูปการทุจริตคอรัปชั่น ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1ควรมีการดำเนินคดี ลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด บทลงโทษต้องรุนแรง ทำให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่าง กำหนดระยะเวลาของอายุความให้เหมาะสม 91.56 % อันดับ 2 บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ 84.17 % อันดับ 3ปลูกฝัง สร้างจิตสำนึก ค่านิยมของคนในชาติ ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมจริยธรรม 80.66 % อันดับ 4 มีการแต่งตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ 65.06 %
ขอบคุณข่าวจาก