IUCN ชี้เสือไทยใกล้สูญพันธุ์ วอนรัฐเร่งแก้ไขนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
รองหัวหน้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชี้ข้อมูลเสือในไทยกำลังจะหมดไป วอนรัฐแก้ไขปัญหานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยรักษาเสือ-ผืนป่า
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2557 มูลนิธิโลกสีเขียว จัดงานแสดงหนังสารคดี เรื่อง How wolves change rivers? หรือชื่อภาษาไทยว่า “หมาป่าเปลี่ยนแม่น้ำ เสือเปลี่ยนเมือง” ณ มูลนิธิโลกสีเขียว ซอยสุขุมวิท 43 กรุงเทพฯ
นายเพชร มโนปวิตร รองหัวหน้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (IUCN) กล่าวถึงหนังสารคดีเรื่องนี้ว่า เป็นสารคดีเรื่องนี้เป็นการตามติดชีวิตสัตว์ในห่วงโซ่อาหารโดยเฉพาะหมาป่าและเสือ สัตว์ทั้งสองชนิดแสดงถึงความอุดมสมบรูณ์ของป่า อีกทั้งเป็นสัตว์ผู้ล่าที่จัดอยู่ในสัตว์ป่าที่เป็นแกนหลักของระบบนิเวศ (Keystond Species) ซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างประชากรในห่วงโซ่อาหาร ทั้งนี้หากขาดสัตว์ที่เป็นประเภทแกนหลักนี้แล้วจะทำให้ระบบนิเวศขาดสมดุล
นายเพชร กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีสัตว์ผู้ล่าแกนหลักอย่างเสือโคร่งลดน้อยลงเรื่อยๆ เหตุเพราะป่าลดน้อยลงและถูกแบ่งเป็นป่าเล็กๆ โดยมีเพียงไม่กี่แห่งที่ยังสามารถพบเสือโคร่งได้อยู่ บริเวณป่าตะวันตกตอนบน ป่าแก่งกระจาน ป่ากุยบุรี และป่าดงพญาเย็น เขตอุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ในประเทศไทยความสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนั้นน้อยมาก เพราะเหตุป่าลดน้อยลง โดยเฉพาะเสือที่อาศัยอยู่ในป่าที่อุดมสมบรูณ์และเป็นสัตว์ที่บ่งบอกถึงผืนป่าที่สมบรูณ์
"การอนุรักษ์เสือให้ยังคงอยู่ได้ต้องไม่เบียดเบียนเสือ สร้างพื้นที่ในหัวใจที่แบ่งให้สิ่งมีชีวิตอื่นได้อยู่อย่างเสรี มีอิสระ"นายศศิน กล่าว และว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีประชากรเสือโคร่งเพิ่มขึ้นจากการอนุรักษ์ เพราะว่าเราแบ่งพื้นที่ของประเทศไทยส่วนหนึ่งให้เสือสามารถออกลูกออกหลานได้
สำหรับคนในเมืองที่อยากจะมีส่วนช่วยให้เสือดำรงอยู่ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้อุดมสมบรูณ์ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือ มาเป็นกำลังใจในการอนุรักษ์ เช่น การกดไลค์เพจในเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นให้กำลังใจคนทำงานด้านสิ่งแวดล้อม หรือโพสต์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักอนุรักษ์ สามรถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ก็จะเป็นอีกกำลังใจหนึ่งที่ดี