ย้อนเส้นทางชีวิตสื่อ"จอม เพชรประดับ" กับข้อกล่าวหา “อิงแอบเสื้อแดง” ?
พลิกปูม ประวัติชีวิต “จอม เพชรประดับ” จากลูกหม้อไอทีวี สู่พิธีกรชื่อดังช่องเอ็นบีที – วอยซ์ทีวี – สทท. กับข้อกล่าวหา “อิงแอบคนเสื้อแดง” ?
สปอร์ตไลต์ทางการเมืองและสื่อแทบทุกแขนงต่างฉายไปที่ “จอม เพชรประดับ” พิธีกรรายการข่าวชื่อดังอีกครั้ง
ภายหลังจากปรากฎตัว สัมภาษณ์พิเศษ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ถึงที่มาที่ไป และจุดมุ่งหมายในการตั้งองค์กรดังกล่าว เป็นเวลาเกือบ 20 นาที
ด้วยคำถามที่เผ็ดร้อนชนิดถึงพริกถึงขิง !
(อ่านประกอบ : "จอม" โผล่องค์กรเสรีไทย สัมภาษณ์เดี่ยว "จารุพงศ์" แนวคิดต้าน คสช. )
นอกจากนี้ “จอม” ยังประกาศขอยุติบทบาทการทำหน้าที่สื่อมวลชนในประเทศไทย จนกว่าคนไทยทั้งประเทศจะได้รับสิทธิเสรีภาพกลับมา พร้อมคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ?
อย่างไรก็ดี นับว่าไม่เหนือความคาดหมายนักที่ “จอม” จะออกมาแสดงท่าทีดังกล่าว เนื่องจากในแวดวงสื่อมวลชน รวมไปถึงประชาชนในสังคมบางส่วนต่างทราบถึงจุดยืนของพิธีกรข่าวรายนี้เป็นอย่างดี
โดย “จอม” มักถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นนักข่าวประเภท “อิงเสื้อแดง” มาแต่ไหนแต่ไร ?
จริงหรือไม่ ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พลิกปูมประวัติของ “จอม” ไว้นับตั้งแต่บรรทัดต่อไปนี้
จอม เพชรประดับ เป็นอดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ก่อนจะบินลัดฟ้าไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ดำเนินรายการ Inside Thai Talk ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NAT TV สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2547 อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง และทำงานสื่อมวลชนในฐานะนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
ทั้งนี้ "จอม" นับว่าเป็นลูกหม้อของไอทีวีตัวจริงเสียงจริง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไอทีวีได้เปลี่ยนเป็นทีไอทีวี
และในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนผ่านเป็นทีไอทีวีนั้น “จอม” บินลัดฟ้าไปสัมภาษณ์ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงฮ่องกง !
และจากบทสัมภาษณ์ในครั้งนั้น ส่งผลให้ “จอม” ถูกปลดออกจากการเป็นนักข่าวทีไอทีวีทันที
ต่อมา “จอม” ได้เข้าสู่ร่มเงาตึกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (NBT) หรือช่อง 11 เดิม ในยุคที่มีนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คอยดูแล
โดย “จอม” ได้เข้าไปเป็นพิธีกรรายการ “ถามจริง ตอบตรง” โดยเป็นรายการที่เน้นสัมภาษณ์บุคคลในกระแส ณ ขณะนั้น
และหนึ่งในบุคคลที่ “จอม” สัมภาษณ์คือ “ใจลส์ ใจ อึ้งภากรณ์” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศ รวมไปถึงการทำสกู๊ปเกี่ยวกับ “ลุงนวมทอง ไพรวัลย์” คนขับแท็กซี่ที่ผูกคอตายต้านรัฐประหารในขณะนั้นด้วย
ต่อมาเมื่อสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เปลี่ยนแปลงเป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) พร้อมกับการก้าวเข้ามาทำงานของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น สทท. ได้มีคำสั่งปลด “จอม” ออกจากพิธีกรรายการข่าว
เนื่องจาก “จอม” ได้รายงานข่าวในช่วงเวลาที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกยึด สทท. อยู่
หลังจากนั้น “จอม” ได้ย้ายไปทำงานในบริษัทของ “โอ๊ค – พานทองแท้ ชินวัตร” ในสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี กับรายการ “ฮ็อต โทปิค – Hot Topic” โดยเป็นผู้สัมภาษณ์บุคคลในกระแสเช่นเดิม
แต่หลังจากนั้นไม่นาน รายการฮ็อต โทปิค ถูกถอดออกจากผังรายการของวอยซ์ทีวี โดย “จอม” เปิดเผยถึงเหตุผลว่า เนื่องจากรายการให้พื้นที่กับฝั่งตรงข้ามรัฐบาลมากจนเกินควร
แต่ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุผลสำคัญน่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในเกี่ยวกับกระบวนการคิด และนำเสนอประเด็น โดยเฉพาะมีอยู่เทปหนึ่งที่ “จอม” สัมภาษณ์นายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งขณะนั้นเป็นอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
โดยเทปดังกล่าวถูกบรรณาธิการห้ามนำเสนอ เนื่องจากมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ อย่างไรก็ดี “จอม” แย้งว่า เนื้อหาเทปดังกล่าวไม่มีการพาดพิงเบื้องสูง แต่เป็นความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทยเท่านั้น
ต่อมาในช่วงรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี “จอม” แบกกระเป๋าเดินกลับบ้านเก่าที่(เคย)แสนดีอย่าง สทท. อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นพิธีกรดำเนินรายการ “ฟันธง” โดยเน้นสัมภาษณ์บุคคลในแวดวงการเมือง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ณ ขณะนั้น
แต่รายการฟันธง ของ“จอม” ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า มักเชิญนักการเมือง หรือผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีลักษณะ นิยมชมชอบรัฐบาล หรือฝ่าย นชป. บ่อยครั้ง เช่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เป็นต้น
และกรณีล่าสุดที่เชิญ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาสัมภาษณ์สด แต่กลับเปลี่ยนไปเป็นการอัดเทปแทน ด้วยเหตุผลที่ว่า “ผู้ใหญ่” สั่งมา กลัวว่าเนื้อหารายการจะกระทบกับการดำเนินงานของรัฐบาล ส่งผลให้ “สมชัย” ไม่พอใจ ยกเลิกการสัมภาษณ์ดังกล่าว
ทั้งหมดนี้คือ เส้นทางชีวิตการทำหน้าที่สื่อมวลชนของ “จอม” ในช่วงที่ผ่านมา
ก่อนหน้าที่จะปรากฎตัวสัมภาษณ์ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” เลขาธิการองค์กรเสรีไทย ด้วยการชงคำถามสุ่มเสี่ยง แบบชนิดไม่มี ความเกรงกลัว ต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่อย่างใด ?