เปิดคำร้อง กทค.ขอตรวจพยานปมฮั้วประมูล3จี ก่อนถูก ป.ป.ช.เชือด?
เปิดหนังสือคำร้องขอความเป็นธรรม “เศรษฐพงศ์” ปธ.กสทช ตัวแทน กทค. เรียนปธ.อนุไต่สวนฯ ปมฮั้วประมูล 3 จี ฉบับเต็ม ขอตรวจพยาน 6 ราย “ไพบูลย์ – ประวิทย์ – สุภิญญา – นที – สุภา – คณะที่ปรึกษาเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ” ก่อน ป.ป.ช. ชุดใหญ่นัดถก 26 มิ.ย.นี้
หมายเหตุ : ในช่วงเดือนมิถุนายน 2557 พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) ทำหนังสือเรียนนายภักดี โพธิศิริ ประธานอนุกรรมการไต่สวน ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอตรวจพยานหลักฐาน กรณีถูกกล่าวหาว่า คณะกรรมการ กทค. 4 ราย กระทำผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับการประมูลคลื่นย่าน 2.1 GHz (3G)
ทั้งนี้ คณะกรรมการ กทค. ทั้ง 4 รายที่ถูกกล่าวหา มีรายชื่อดังนี้
1.พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ
2.ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ
3.รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์
4.พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร
----
“ตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนได้มีบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่าการกระทำของ กทค. เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี มีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้วฯ) และเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตอันมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา และได้เรียกให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ไปรับทราบข้อกล่าวหา ต่อมา กทค. ทั้ง 4 ราย ได้มีคำชี้แจงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อข้อกล่าวหาในกรณีดังกล่าวความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ผมในฐานะรองประธานกรรมการ กสทช. และรองประธาน กทค. และในฐานะผู้แทนของกรรมการ กทค. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ขอเรียนว่า ในขณะที่ กทค. ทั้ง 4 ราย คำชี้แจง กทค. ทั้ง 4 ราย ยังไม่ทราบประเด็นที่คณะอนุกรรมการไต่สวนกำหนดเป็นแนวทางการไต่สวน ประกอบกับปรากฏข้อเท็จจริงที่สามารถยืนยันได้ในปัจจุบันว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความเสียหายของประเทศที่เกิดจากผลการประมูล 3 จี นั้น ไม่เป็นความจริง โดยเห็นได้ชัดว่าผลการประมูล 3 จี ได้ทำให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล
อีกทั้งเมื่อตรวจสอบบันทึการแจ้งข้อกล่าวหาที่แจ้งต่อ กทค. ทั้ง 4 ราย ในส่วนที่ให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ลงนามรับทราบข้อกล่าวหา ปรากฏว่าให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ลงนามยืนยันในเรื่องสิทธิที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาที่กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2555 และระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ศ.2543 ทำให้ กทค. ทั้ง 4 ราย เข้าใจในตอนต้นว่า มีสิทธิเพียงยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเท่านั้น โดยเมื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว ก็ไม่สามารถนำพยานเข้าสืบแก้ข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากคณะอนุกรรมการไต่สวนให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ยอมรับสิทธิเพียงแค่นั้น
แต่เมื่อศึกษาตัวบทกฎหมาย และปรึกษาผู้รู้แล้ว จึงทราบว่าบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว น่าจะเป็นการจำกัดให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ยอมรับในสิทธิที่น้อยกว่าส่วนที่พึงจะได้รับตามกฎหมาย จึงทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อ กทค. ทั้ง 4 ราย
นอกจากนี้ ยังทราบว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้มีการเรียกพยานของฝ่ายที่ร้องเรียนหลายปาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายที่มีความเห็นต่างกับ กทค. รวมทั้งเป็นผู้ร้องเรียนโดยตรง หรือโต้แย้งดุลยพินิจของ กทค. โดยตรง ต่อสาธารณะมาให้ข้อมูลกล่าวหา กทค. และตอบข้อสงสัยต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนด้วยตนเอง ขณะที่พยานในส่วนของ กทค. ทั้ง 4 ราย คณะอนุกรรมการไต่สวนไม่เคยเรียกให้ กทค. ทั้ง 4 ราย ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูล และตอบข้อสงสัยของคณะอนุกรรมการไต่สวนเลย
ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ในนามของกรรมการ กทค. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย จึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากคณะอนุกรรมการไต่สวนในการขอตรวจหลักฐานตามข้อ 40 ของระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2555 โดยขอตรวจ และคัดถ่ายคำชี้แจง และเอกสารหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา ผู้ทำคำร้อง ผู้ให้ถ้อยคำ หรือบุคคลใด ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อนำมาประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
1.นายไพบูลย์ นิติตะวัน (ส.ว.สรรหา)
2.นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา (กรรมการ กสทช.)
3.น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ (กรรมการ กสทช.)
4.พ.อ.นที ศุกลรัตน์ (รองประธานกรรมการ กสทช.)
5.น.ส.สุภา ปิยะจิตติ (รองปลัดกระทรวงการคลัง)
6.บุคคลในคณะที่ปรึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จัดทำการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ และมูลค่าขั้นต่ำของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz ที่ไปให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน
ทั้งนี้ การขอตรวจและคัดถ่ายคำชี้แจง และเอกสารหลักฐานเพื่อนำมาประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของพยานบุคคล ผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย ผู้ทำคำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ให้ข้อมูลใด ๆ ทั้งไม่กระทบสาระสำคัญของสำนวนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด โดยการขออนุญาตดังกล่าว ก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อกรรมการ กทค. ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ได้มีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริง และประเด็นที่มีการกล่าวหาให้การชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นไปโดยถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ต่อไป”
(อ่านหนังสือฉบับเต็ม)
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.สรุปสำนวนคดีประมูล 3 จีชงกก.ชุดใหญ่แล้ว คาดหารือ 26 มิ.ย.
ฟังเหตุผล 4 กก.กทค.แก้ต่างปมประมูล 3 จี ก่อน ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณา ?