เปิดเอกสาร-ข้อแก้ต่าง เมื่อ "คนในอสมท" ยังซัดกันเอง
"...ถ้าจะวิ่งเต้นจริงไม่ได้เดินทางไปไกลหรอก ไปถามนักข่าวพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เลย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชทพ. ถามทุกวันว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือ ผมตอบทุกครั้งไม่มีอะไรให้ช่วย”
แม้ “บอร์ด บมจ.อสมท” จะลาออกจากตำแหน่งไปบางส่วน และมีการแต่งตั้ง “บอร์ด บมจ.อสมท” ชุดใหม่ เข้ามาบริหารงานแล้ว
แต่ความขัดแย้งแบ่งขั้วของ “พนักงานอสมท” ยังปรากฎออกมาให้เห็นตลอด
เริ่มด้วย “สุวิทย์ มิ่งมล” ประธานสหภาพบมจ. อสมท ยื่นหนังสือถึง “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” รองหัวหน้าคสช. และ “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่คสช.มอบหมายให้ดูแลอสมท
เรียกร้องให้ปลดผู้บริหารอสมท ออกทั้งหมด
ทว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา “น.ส.ชวิดา วาทินชัย” ในฐานะพนักงาน และกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท ได้ยื่นหนังสือเรื่องปัญหาการทุจริตและข้อเท็จจริงในอสมท ให้กับ “ม.ล.ปนัดดา” เช่นกัน
โดยเป็นการเปิดโปงข้อมูลการทุจริต และโจมตีการทำหน้าที่ของ “สหภาพบมจ. อสมท” บางคน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงนำรายละเอียดของทั้ง 2 ฝั่ง มาเปิดเผย เพื่อให้ผู้ติดตามข่าวสารของ “บมจ.อสมท” ได้ชั่งน้ำหนักด้วยตัวเอง
หนังสือระบุว่า ภายในอสมท ยังมีการทุจริตอยู่มาก โดยผู้ที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูง อาทิ การก่อสร้างปรับปรุงห้องส่งวิทยุกระจายเสียง ที่สตง.ชี้ว่ามีมูลค่าสูงกว่าที่ควรเป็นถึง 1,817,389 บาท การจ้างเหมาออกแบบและก่อสร้างรั้ว ป้าย ภูมิทัศน์ อสมท ที่บกพร่อง การติดตั้งระบบบริหารจัดการและควบคุมพลังงานในอาคารมูลค่า 3.1 ล้านบาท ที่สตง. ได้มีหนังสือจี้ให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากพบว่ามีวงเงินสงเกินงบอนุมัติ งดหรือลดค่าปรับเกินเหตุ และส่งมองสิ่งของไม่เป็นตามสัญญา ซึ่งสตง.มีหนังสือมาเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พร้อมระบุว่าให้แจ้งผลสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 60 วัน
“และกรณีไร่ส้มโกงค่าโฆษณาอสมท 136 ล้านบาท ที่ล่าสุดป.ป.ช.และอัยการมีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ว่า จะเรียกเจ้าหน้าที่ของอสมท สอบปากคำเพิ่มเติมก่อนส่งฟ้องคดี ซึ่งกรณีนี้คณะกรรมการสอบสวนชุดที่มีพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เคยชี้ว่ามีผู้บริหารระดับสูงคือ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บมจ. อสมท เกี่ยวข้องชัดเจน” เอกสารระบุ
เอกสารระบุต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการแอบอ้างมติกรรมการสหภาพฯในการออกมาเคลื่อนไหวบางประเด็น ทั้งที่ไม่เคยมีมติกรรมการสหภาพฯ อีกทั้งยังอ้างอีกว่าเป็นความคิดเห็นของพนักงานส่วนใหญ่ด้วย โดยที่กรรมการสหภาพฯบางคน และผู้ที่มาพบและยื่นหนังสือร้องเรียนกับท่านล่าสุด ล้วนเป็นผู้ที่ถูกร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อจริยธรรมในวิชาชีพ อาทิ การเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การแอบไปจัดรายการวิทยุขององค์กรอื่น โดยเคยมีการร้องเรียนไปยังท่านอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดการแต่งอย่างใด
“ในฐานะพนักงานอสมท ที่ทำงานมากกว่า 20 ปี และในฐานะกรรมการ อีกทั้งมีความเคารพและศรัทธาในแนวคิดและการทำงานของท่านมาตลอด จึงตัดสินใจว่าต้องนำเสนอข้อมูลและความจริงที่ถูกปกปิดในองค์กรแห่งนี้กับท่าน และพร้อมให้ท่านตรวจสอบสิ่งที่ข้าพเจ้านำเสนอมา โดยที่ผ่านมาข้าพเจ้าและเพื่อนพนักงานหลายคนค่อนข้างระมัดระวังในการต่อสู้เคลื่อนไหว เนื่องจากไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายบริหารบางฝ่าย ท่ามกลางความขัดแย้งแบ่งพรรคแบ่งพวกชัดเจน และการทุจริตที่ถูกปกปิด” เอกสารระบุ
ด้านนายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพบมจ. อสมท ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า “เรื่องนี้มันจบไปนานแล้ว มีการปล่อยข่าวว่าผมไปพบพ.ต.ท.ทักษิณถึง 5 ครั้ง ที่ฮ่องกง สิงค์โปร์ ดูไบ คนปล่อยข่าวต้องการจะดิสเครดิตผม มาบอกว่าผมไปวิ่งเต้น ซึ่งถ้าผมวิ่งเต้นจริงดูได้เลยว่าผมไม่ได้อะไรเลย ต้องออกจากโต๊ะข่าวการเมืองอีกต่างหาก
“ถ้าผมไปวิ่งจริงแสดงว่าเขาไม่มีน้ำยาอะไรเลย เพราะไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งของผมเลย ผมคิดว่าไม่ใช่สาระสำคัญ ตอนนี้เราต้องการตรวจสอบการทุจริตในอสมท ที่ผู้ใหญ่หลายคนยังนิ่งเฉย และถ้าจะวิ่งเต้นจริงไม่ได้เดินทางไปไกลหรอก ไปถามนักข่าวพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้เลย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชทพ. ถามทุกวันว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือ ผมตอบทุกครั้งไม่มีอะไรให้ช่วย” นายสุวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุเที่ยวบินด้วยว่ามีน.ส.เยาวเรศ ชินวัตร เดินทางไปด้วย นายสุวิทย์ กล่าวว่า “ผมไม่เคยรู้จักกับคุณเยาวเรศเลย พวกเขาต้องการดิสเครดิตผม”
เมื่อถามว่า มีการระบุด้วยว่าที่ออกมาเคลื่อนไหวในนามสหภาพอสมท ไม่ได้มีการขอมติจากสหภาพอสมท นายสุวิทย์ กล่าวว่า “จะเล่นว่าผมทำกัน 20-30 คนเหรอ ผมยืนยันว่าทำในนามพนักงานอสมท และกรรมการสหภาพยกเว้นคุณชวิดา วาทินชัย แล้วถ้าบอกว่าผมทำคนเดียว ทำไมคนอื่นไม่ออกมาโต้ การเคลื่อนไหวของผมทุกคนสนับสนุนหมด ทุกครั้งมีการขอมติจากสหภาพหมด”
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของ “คนในบมจ.อสมท” ที่ต่างฝ่ายต่างออกมาเปิดเผยของมูลของฝั่งตัวเอง เพื่อโจมตีอีกฝั่ง ส่วนข้อมูลของใครถูกของใครผิดต้องรอการพิสูจน์
คนที่ต้องรับบทหนักในเรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้น “ม.ล.ปนัดดา” ที่ต้องรับผิดชอบบมจ. อสมท จาก “ยุคมืด” ให้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลง