รวม 67 “บิ๊กข้าราชการ”ถูก คสช.สั่งย้ายพ้นตำแหน่ง-ขั้วอำนาจเก่าอื้อ
รวบรายชื่อ “บิ๊กข้าราชการ” คสช.สั่งย้ายพ้น-รับตำแหน่งใหม่ 67 คน สลายเครือข่ายอำนาจเก่า"นิพัทธ์-ธาริต"สั่ง"วัชรพล"ล้างบางตำรวจมะเขือเทศ
หลัง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สิ่งหนึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือการโอนย้าย “บิ๊กข้าราชการ”
เพราะมี “บิ๊กข้าราชการ” จำนวนไม่น้อยเลย ที่ถูกมองว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “คสช.” การโอนย้ายให้พ้นจากตำแหน่งจึงเป็นเรื่องสำคัญในการบริหารบ้านเมือง
หนึ่งเพราะป้องกันไม่ให้ปฏิบัติการเชิงลับของ “คสช.” รู้ถึงหูขั้วตรงข้าม หนึ่งเพระให้คนที่ไว้ในเข้ามาช่วยเป็นมือไม้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมรายชื่อ “บิ๊กข้าราชการ” ที่ “คสช.” มีคำสั่งโอนย้าย และในกรณีที่ “คสช.” สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโอนย้ายดังนี้
คำสั่งฉบับที่ 7/2557
1.ให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยยังคงเป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
2.ให้พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
คำสั่งฉบับที่ 8/2557
1.ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อีกหน้าที่หนึ่ง
คำสั่งฉบับที่ 9/2557
1.ให้พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม
คำสั่งฉบับที่ 11/2557
1.ให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภายใต้ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภายใต้ อีกหน้าที่หนึ่ง
คำสั่งฉบับที่ 27/2557
1.ให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหน้าที่หนึ่ง
คำสั่งฉบับที่ 28/2557
1.ให้นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
คำสั่งฉบับที่ 40/2557
1.ให้นายปสันน์ เทพรักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
คำสั่งฉบับที่ 62/2557
1.ให้นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
2.ให้รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีอาวุโสสูงสุด เป็นผู้รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
3.ให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
4.ให้นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุด เป็นผู้รักษาราชการแทนอัยการสูงสุด
5.ให้นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
6.ให้นางเมธินี เทพมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
คำสั่งฉบับที่ 70/2557
1.ให้นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2.ให้นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน มาปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมการจัดหางานอีกหน้าที่หนึ่ง
3.ให้นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
4.ให้นายพิชิต นิลทองคำ จัดหางานจังหวัดชลบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวอีกหน้าที่หนึ่ง
นอกจากนี้ในส่วนของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ภายใต้การดูแลของ “พล.ต.อ.วัชรพล” ได้ออกคำสั่งสตช. ที่ 256/2557 โยกย้ายตำแหน่งนายตำรวจระดับสูงจำนวน 8 นาย ทันที
1.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
2.พล.ต.ท.นเรศ นันทโชต ผบช.ภ.1
3.พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2
4.พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4
5.พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5
6.พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7
7.พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.
8.พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส.
โดยให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผบ.ตร.มอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ได้แต่งตั้งให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนดังนี้
1.พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. มารักษาการ ผบช.น.
2.พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.มารักษาการ ผบช.ภ.5
3.พล.ต.ท.เดชณรงค์สุทธิชาญบัญชา ผบช.สำนักงบประมาณและการเงิน มารักษาการ ผบช.ภ.4
4.พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง จเรตำรวจ(สบ.8) มารักษาการ ผบช.ภ.7
5.พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี จเรตำรวจ(สบ.8) มารักษาการ ผบช.สตม.
6.พล.ต.ต.ศรีวราห์รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. มารักษาการ ผบช.ภ.1
7.พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รองผบช.ก.ตร. มารักษาการ ผบช.ภ.2
8.พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร รองจเรตำรวจ(สบ.7) มารักษาการ ผบช.สันติบาล
รวมแล้วในสตช.มีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจสลับตำแหน่งกันทั้งหมด 16 นาย
ส่วนกระทรวงมหาดไทย “วิบูลย์ สงวนพงศ์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งเรื่องให้ข้าราชการรักษาราชการในตำแหน่ง อีก 2 ล็อต
ลอตแรกลงนามเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม
1.นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้ไปรักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
2.นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
3.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท
4.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
5.นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
6.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
7.นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
8.นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
9.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
ลอตสองลงนามเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม
1.นายสุวิทย์ สุบงกฏ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
2.นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าฯ จันทบุรี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
3.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
4.นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
5.นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
6.นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย เป็นผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์
7.นายสามารถ ลอยฟ้า เป็นผู้ว่าฯ จันทบุรี
8.นายธานี สามารถกิจ เป็นผู้ว่าฯ ระยอง
9.นายสมศักดิ์ จังตระกุล เป็นผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด
10.นายเสริม ไชยณรงค์ เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม “คสช.” ได้มีมติแต่งตั้งให้ “ชาญเชาน์ ไชยานุกิจ” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ขึ้นเป็นรักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม ภายหลังมีมติให้ “กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ไปช่วยราชการในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ
นอกจากนี้ “คสช.” ยังมีมติให้ “พ.อ.เอนก ยมจินดา” ผู้อำนวยการนิติวิทยาศาสตร์ มาปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และให้ “คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แทน
ทั้งนี้ “คสช.” สั่งโอนย้ายข้าราชการโดยใช้คำสั่งของ “คสช.” แล้ว 23 คน ย้ายโดยการทำหนังสือไปยังกระทรวงยุติธรรมอีก 4 คน เปิดทางให้หน่วยงานในสังกัดโอนย้ายอีกอีก 40 คน แบ่งเป็นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 16 คน กระทรวงมหาดไทยอีก 19 คน
รวมตั้งแต่ “คสช.” ยึดอำนาจในวันที่ 22 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ได้มีการโอนย้ายข้าราชการ ระดับสูง ไปแล้วทั้งหมด 67 คน