"หมอพรทิพย์"ลุยบูรณาการงานดีเอ็นเอ-นิติวิทย์ชายแดนใต้ หลังหวนคืนเก้าอี้
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าจัดแถวบุคลากรเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้ดึง แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ภายหลังหน่วยงานความมั่นคงได้ร่วมกันปรับโครงสร้างการบริหารจัดการปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดของโครงสร้างใหม่ในสัปดาห์หน้า
นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.57 ว่า กระทรวงยุติธรรมได้รับหนังสือคำสั่งซึ่งเป็นมติที่ประชุม คสช.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม โดยหนังสือส่งมาจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ให้มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งของ พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม แล้วให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แทน
หนังสือคำสั่งระบุเหตุผลว่า ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้เสนอเรื่องการช่วยราชการของกระทรวงยุติธรรม โดยเห็นว่าเพื่อให้การพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์และแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงยุติธรรมมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตลอดจนสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดนโยบายระดับชาติ รวมทั้งเป็นการปรับย้ายหมุนเวียนบุคลากรภายในของกระทรวงยุติธรรม จึงมีมติให้สับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าว
พ.ท.นพ.เอนก กล่าวสั้นๆ ว่า พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่โต้แย้ง และไม่มีความรู้สึกใดๆ
ขณะที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวมีผลทันที สำหรับงานที่จะลงไปทำคืองานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเคยรับผิดชอบ และงานด้านอำนวยความเป็นธรรมให้ประชาชน ที่ผ่านมาไม่เคยไปวิ่งกับใคร หากวิ่งก็คงไม่ถูกเด้งไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม
"ความจริงการทำงานของหมอที่ผ่านมาคือการเป็นที่ปรึกษาของกระทรวง ให้ดูปัญหาภาคใต้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อยากให้ไปถามเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่ามีการสั่งห้ามส่งผลตรวจดีเอ็นเอ (สารพันธุกรรม) ของคนร้ายให้กับทหาร ห้ามทำอะไรที่ขัดกับตำรวจ และมีการปรับเปลี่ยนบุคลากรของนิติวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในพื้นที่ออกหมดใช่หรือไม่ จึงทำให้งานในพื้นที่ไม่คืบหน้า" แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
คุณหญิงหมอคนดัง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ "ทีมข่าวอิศรา" ด้วยว่า งานที่ตั้งใจลงไปทำที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ การบูรณาการงานตรวจและเก็บหลักฐานสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ดีเอ็นเออยู่แล้ว แต่ต้องไปสานงานต่อเพื่อความสมบูรณ์ เช่นเดียวกับงานด้านเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในกระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน จะขอร้องให้ตำรวจทำงานร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อความเป็นเอกภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดกับการคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบ
อนึ่ง แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เกิดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2497 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จะเกษียณอายุราชการในปีหน้า โดยเธอได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อ 21 พ.ค.2551 และอยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 5 ปี จึงถูกโยกไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม เมื่อ 29 พ.ค.2556 ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ ข้าราชการพลเรือนระดับสูงจะดำรงตำแหน่งบริหารได้ต่อเนื่อง 4 ปี และต่ออายุได้คราวละ 1 ปีอีกไม่เกิน 2 ครั้ง อย่างไรก็ดี การโยกย้าย แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ถูกมองเป็นเรื่องการเมือง และการพยายามกันเธอออกจากตำแหน่งเพื่อลดบทบาทการตรวจสอบคดีอาญาสำคัญๆ ส่วนการทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ มีปัญหาในการร่วมงานกับตำรวจตลอดมา แต่ทำงานเข้าขากันดีกับทหารบางหน่วย
หลังถูกโยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ รัฐบาลในขณะนั้นได้มอบหมายให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) แต่ก็ไม่สามารถแสดงบทบาทอะไรได้มากนัก
กระทั่งมีการชุมนุมทางการเมืองของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ปรากฏว่าแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์เคยขึ้นเวทีปราศรัย
ด้านเส้นทางของ พ.ท.นพ.เอนก โอนย้ายมารับราชการในกระทรวงยุติธรรม สังกัดสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง กระทั่งเป็นรองผู้อำนวยการสถาบัน และขยับไปเป็นรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในยุคที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการ และได้ย้ายสลับตำแหน่งกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เมื่อกลางปี 2556
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น