หมอวิชัย แนะถอดบทเรียนจากจีน ดันมติสมัชชาจนสัมฤทธิ์ผล
นพ.วิชัย โชวิวัฒน หวังประชุมสมัชชาสุขภาพไม่ใช่ของเล่น ย้ำมติจากการประชุมต้องเกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างความสำเร็จของจีนที่จริงจังกับการประชุมสมัชชาจนสร้างประเทศได้ แนะสมาชิกเรียนรู้แต่ไม่ต้องเลียนแบบ เชื่อถ้ายืนหยัดทำงานประสบความสำเร็จแน่
18 มิถุนายน 2557 นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ประธานสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมป์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี ปาฐกถาปิดการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 6 พ.ศ.2556 ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ตอนหนึ่งว่า ในพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ 2550 ในมาตรา 45 ให้คณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) มีหน้าที่นำมติต่างๆ ไปพิจารณาดำเนินการให้บรรลุผล และม.25 (2) ที่จะต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและสั่งการให้ทุกภาคส่วนไปดำเนินการ
"แต่ที่ผ่านมาปรากฏว่า ไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหลายภาคส่วนจัดประชุมผู้สูงอายุให้มีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) มีการนำเสนอต่อประธานจัดงาน จนผ่านออกมาเป็นร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินออมฯ ดำเนินการมาจนผ่านสภาทั้งสองวาระ แต่ก็มีรัฐบาลชุดหนึ่งที่อาจหาญไม่เอาพ.ร.บ.ดังกล่าวจนเข้าสู่การเปลี่ยนโหมดมาเป็นการปกครองแบบนี้ นี่คือความเป็นจริงของสังคมไทยเรา"
นพ.วิชัย กล่าวว่า แม้เราจะประชุมกันบ่อยครั้งจนมีมติต่างๆมากมาย แต่นี่ก็อาจเป็นเพียงของเล่นไม่ใช่ของจริง และคำถามวันนี้คือการประชุมในรอบนี้จะมีมติอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดการสัมฤทธิ์ผลที่จริงจัง พร้อมกันนี้ได้ยกตัวอย่างการประชุมสมัชชาที่ประเทศจีนในช่วงปี พ.ศ.2464 ในสมัยนั้นเกิดการแอบประชุมจากตัวแทนของคน 13 คน ประชุมกันจนสามารถร่างนโยบายต่างๆ กระทั่งทำให้ผู้นำในขณะนั้นนำมติจากการประชุมไปประกาศใช้ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปี จีนประชุมสมัชชาเพียง 17 ครั้ง แต่การประชุมของเขามีความชัดเจนตลอด
"ทุกคนที่เป็นสมาชิกยอมปฏิบัติยอมตายถวายชีวิตเพื่อให้มติต่างๆ เกิดผลในการดำเนินการ ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้จีนสามารถที่จะสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร สามารถสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตเป็นอันดับสองของโลก และเชื่อว่า ในไม่ช้าจะสามารถเอาชนะอเมริกาได้"
นพ.วิชัย กล่าวด้วยว่า การประชุมสมัชชาสุขภาพ ถึงแม้ว่ากระบวนการที่ผ่านมาจะไม่เห็นเป็นรูปธรรม เราก็นำนำประสบการณ์จากประเทศจีนมาใช้ได้ โดยไม่ต้องลอกแบบจีนมาทั้งหมด เนื่องจากบริบทในสังคมต่างกันมาก เพียงแต่อยากให้เรียนรู้และนำมาปรับใช้ อย่างไรก็ตามขอให้สมัชชาสุขภาพยืนหยัดการทำงานต่อไปและเชื่อว่าโลกวันนี้จะดีกว่าแน่ และเชื่อว่าการศึกษาและการต่อสู้จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีลงนามในปฏิญญาณสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเรื่องยุทธศาสตร์ร่วมว่าด้วยการสนับสนุนระบบสุขภาวะชุมชนจากสมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ 234 กลุ่มเครือข่าย และองค์กรภาคีผู้สนับสนุนชุมชน 33 หน่วยงาน โดยมีใจความสำคัญว่า
"จะสนับสนุนต่อหลักการของกรอบแนวคิดและสาระสำคัญในยุทธศาสตร์ร่วมว่าด้วยการสนับสนุนระบบสุขภาวะชุมชนตามที่เป็นมติของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในครั้งนี้ทุกประการ โดยเฉพาะเป้าหมายองค์กรชุมชนเข้มแข็งในเชิงคุณภาพร้อยละ 60 ภายใน 10 ปีส่วนที่เป็นเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นและองค์กรชุมชนทุกรูปแบบจะเร่งพัฒนาศักยภาพองค์กรในเชิงคุณภาพและแสดงบทบาทกำหนดใจตนเองในการพัฒนา และจะดำเนินการฟื้นฟูและสร้างเสริมความเข้มแข็งที่ฐานรากของประเทศและสังคมไทยให้ทันต่อสานการณ์การเปลี่ยนแปลง ส่วนภาคีเครือข่าย 33 หน่วยงานจะรวมพลังทำงานสนับสนุนสุขภาวะชุมชนและร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการเชิงยุทธศาสตร์อย่างเต็มที่ ส่วนเครือข่ายสมัชชาสุขภาพในระดับจังหวัดจะสนับสนุนให้มีกระบวนการประชุมปรึกษาระหว่างหน่วยงานระดับพื้นที่ขององค์กรภาคีกับเครือข่ายชุมชนเพื่อร่วมกันออกแบบและจัดตั้งกลไก"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง