เบื้องหลัง! มติกสทช. 6 ต่อ 2"ประวิทย์-สุภิญญา"ค้านจ่ายอาร์เอสฯ 427ล.
"..กรรมการที่เข้าประชุม มี 2 คนที่ไม่เห็นชอบกับการนำกรอบวงเงิน 427.015 ล้านบาท มาใช้ในกรณีดังกล่าว คือ นพ.ประวิทย์ และนางสาวสุภิญญา.."
วันที่ 12 มิถุนายน 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช. ) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงผลการประชุมของคณะกรรมการ กสทช. กรณีการนำเงินกองทุน กทปส.มาจ่ายชดเชยให้แก่บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อขอเผยแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวี
โดยนายฐากร ยืนยันว่า ที่ประชุม กสทช. มีมติ 6 ต่อ 2 เห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ( กทปส. ) เสนอเรื่องกรอบวงเงินที่จะใช้ชดเชย ให้แก่ บ.อาร์เอสฯ
ทั้งนี้ ในประเด็นการหารือ เรื่องกรอบวงเงิน นายฐากรกล่าวว่าคณะกรรมการ กสทช. บางส่วนเห็นต่างจากกองทุนฯ แต่มติส่วนใหญ่เห็นชอบในการใช้กรอบวงเงิน 427.015 ล้านบาท โดยให้ ใช้จ่ายเงินจากบัญชีที่เกิดจากเงินค่าปรับและโอนเงินมาจากบัญชีกองทุนเดิมของ กทช. เดิม
นับจากบรรทัดนี้ไป คือ คำชี้แจงฉบับเต็มจาก กสทช.
"กรอบวงเงิน 427 ล้านบาท ดังกล่าว คำนวนจากรายได้ที่อาร์เอสจะได้รับจากการโฆษณา"
นายฐากร เริ่มต้นอธิบาย ก่อนขยายความว่า มติที่ประชุมครั้งนี้ ยังพิจารณาจากรายได้ที่อาร์เอสฯ จะได้จากการขายกล่อง ที่คาดว่าจะขายได้อีก 1 ล้านกล่อง และที่ประชุมฯ ก็พิจารณาว่าจะชดเชยให้อาร์เอสอย่างไร โดยกรอบวงเงินที่สรุปมา 427 กว่าล้านบาทนี้ ใช้จากเงินค่าปรับ 112 ล้านบาท และเงินกองทุน กทช. เดิม ไม่มี การใช้จ่ายจากเงินประมูลทีวีดิจิตอลแต่อย่างใด และเงินที่ใช้จ่ายในครั้งนี้จะไม่กระทบการจัดหาเซ็ทท็อบบ็อกซ์ และไม่เกี่ยวกับรายได้จากการประมูลทีวีดิจิตอล 5 หมื่นกว่าล้านบาท
นายฐากรกล่าวด้วยว่า การใช้จ่ายเงิน กองทุน กทปส. ในครั้งนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการขึ้นมากำกับดูแล และตรวจสอบ โดยจะมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์
ส่วนคณะกรรมการ กสทช. ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ นายฐากรชี้แจงว่ามีทั้งสิ้น 9 คน ผู้ที่ไม่ได้ เข้าประชุมคือ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า, ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์
ขณะที่ พ.อ. ดร.นที ศุกลรัตน์ ขอออกจากที่ประชุมเนื่องจาก พ.อ. ดร.นทีเห็นว่าเห็นว่าตนเองมีส่วนได้ส่วนเสียเพราะเป็นกรรมการที่พิจารณากรณีพิพาทกับอาร์เอสฯ
ส่วนกรรมการที่เข้าประชุม มี 2 คนที่ไม่เห็นชอบกับการนำกรอบวงเงิน 427.015 ล้านบาท มาใช้ในกรณีดังกล่าว คือ นพ.ประวิทย์ และนางสาวสุภิญญา
โดย น.พ.ประวิทย์ขอออกจากห้องประชุม และ นางสาว สุภิญญา ไม่เห็นชอบในมติดังกล่าว
แต่สรุปแล้วที่ประชุมเสียงข้างมากมีความเห็นสอดคล้องกัน กับข้อเสนอของ คณะกรรมการ กองทุน กทปส.
ทั้งนี้ นอกจากหารือเรื่องกรอบวงเงินแล้ว นายฐากรกล่าวว่าที่ประชุม กสทช. มีการลงมติเห็นชอบที่จะนำเงินไปใช้ตามมาตรา 52 ( 1 ) โดยที่ประชุมพิจารณาว่าการนำเงินกองทุนฯ มาใช้ เป็นการดำเนินการเพื่อให้ประชาชน ได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 และเป็นการดำเนินการ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิคนพิการ และคนด้อยโอกาส ให้เข้าถึงหรือรับรู้ และใช้ประโยชน์ จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป ตามมาตรา 36 และมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ 2551 และสอดคล้องกับคำพิพากษา ของศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำ ที่ อ. 413 / 2557 ซึ่งนายฐากรกล่าวว่า มติที่ประชุมเห็นว่า กสทช. สามารถดำเนินการได้และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน ฯ ตาม พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553
นายฐากรกล่าวยืนยันว่า บ.อาร์เอส ยอมรับเงินจำนวนนี้อย่างเป็นทางการแล้ว แม้เดิมที อาร์เอส จะคำนวนเงินที่ควรได้รับ มาประมาณ 767 ล้านบาท
"กสทช. ไม่ได้มีการเรียก บ.อาร์เอสฯ มาต่อรองแต่อย่างใด ส่วนขณะนี้ เป็นที่แน่ชัดว่าสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก 5 และกองทัพบกช่อง 7 จะถ่ายทอดทุกแมตช์การแข่งขัน ขณะที่ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ อยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นการภายในว่าจะสามารถถ่ายทอดสดได้กี่นัด"
“ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คสช. เป็น กสทช. ดำเนินการเอง ผมได้หารือกับท่านประธาน กสทช. เอง ว่าจะทำอย่างไร หากคำพิพากษาออกมาไม่เป็น คุณกับ กสทช. ซึ่งเรื่องนี้ คณะกรรมการกองทุนฯ ส่ง เรื่องไปที่ กสทช. เอง ไม่เกี่ยวกับ คสช. ที่ไม่ได้มาดำเนินการหรือยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้”
นายฐากร ยังกล่าวย้ำว่า มติที่ประชุมเห็นว่าให้แพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกออกฟรีทีวี ภายใต้กรอบวงเงิน 427.015 ล้านบาทนี้ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่เช่นนั้น ประชาชนจะไม่ได้ดู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อ น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ลงมติคัดค้านการใช้เงินกองทุนฯ ในกรณีดังกล่าว แต่ทั้ง 2 คน ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
โดย นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า ติดประชุมกับคณะกรรมการ กทค. ขณะที่เลขานุการของนางสาวสุภิญญา กล่าวว่า นางสาวสุภิญญามีประชุมเช่นกัน และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ในขณะนี้