วิกฤติศึกษาไทย ดร.วรากรณ์ ชี้เริ่มแรกต้องสอนให้คนคิดไม่เป็น
กูรูการศึกษาแนะปฏิรูปการศึกษาสังคมต้องผลักดันอย่างจริงจัง บริหารอย่างมีความรับผิดชอบ เน้นทักษะให้เด็กคิดเป็น ย้ำหากกระบวนการคิดยังไม่พัฒนา การเดินหน้าปฏิรูปยิ่งลำบาก
วันที่ 5 มิถุนายน 2557 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานเสวนาวิชาการชุด “8 ทศวรรษ อภิวัฒน์สังคมไทย” ในโอกาสครบรอบ 80 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง “วิกฤติศึกษาไทย... ปฏิรูปอย่างไรให้ตอบโจทย์” ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ดร.มีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาในระบบการศึกษาว่า ปัจจุบันการศึกษาไทย “ป่วย” เพราะผู้เรียนไม่มีความเข้าใจในเนื้อหา ไม่มีการพัฒนาให้คนในสังคมเรียนรู้และพัฒนาริเริ่มได้ด้วยตนเอง รวมทั้งไม่สอนให้พึ่งพาตนเอง หรือให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมแบบชนบทได้ จึงต้องเข้ามาหารายได้ในสังคมเมือง
“เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาต้องเริ่มจากโรงเรียนทั่วประเทศ ปลูกฝั่งให้เด็กสนใจ และใส่ใจในอนาคตของเขา เพราะอนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตัวเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ”
ด้าน รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การจะปฏิรูปการศึกษาอย่างไรตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ ต้องพัฒนาให้ถูกจุด คุณภาพของคนไทยวันนี้นอกจากขาดความรู้แล้วยังขาดกระบวนการคิด คือเรายังคิดไม่เป็น ดังนั้นวิกฤติของการศึกษาไทยอย่างแรกคือเราขาดความมุ่งมั่นที่จะผลักดันเรื่องการปฏิรูปการศึกษาให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในระบบการศึกษาทำให้ความมุ่งมั่น หรือเป้าหมายของการบริหารการศึกษาเปลี่ยนไปตามรัฐมนตรี
“ระบบการศึกษาของบ้านเราจึงเหมือนเดินหน้าไป 5 ก้าวแล้วถอยหลังไปอีก 3 ก้าว ซึ่งโทษใครไม่ได้เพราะสังคมของเราอ่อนแอเอง” รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าว และว่า ขณะเดียวกันการบริหารจัดการก็เป็นแบบไม่มีความรับผิดรับชอบ คือการเลื่อนขั้นหรือตำแหน่งไม่สอดคล้องกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนทั่วประเทศสอบได้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ตำแหน่งของผู้อำนวยการโรงเรียน หรือผู้อำนวยการเขตก็เลื่อนขั้นกันปกติ แบบนี้เราต้องเปลี่ยนระบบกันใหม่ให้มีความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า สังคมให้ความจริงจังมากน้อยแค่ไหน หรือถ้าเรายังสอนให้คนคิดไม่เป็น เพราะเห็นว่าปกครองง่าย การแข่งขันในภายภาคหน้าคนของเราก็ยิ่งจะไม่มีคุณภาพและแข่งขันกับคนอื่นได้ยากลำบากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นการพัฒนาให้เด็กคิดเป็นและความใส่ใจในการปฏิรูปจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด