ทรัพย์สิน"ยิ่งลักษณ์-4 รมต."พันจำนำข้าวฉบับแจง ป.ป.ช.ก่อนถูกสอบเชิงลึก

พลิกทรัพย์สิน"ยิ่งลักษณ์-นิวัฒน์ธำรง-บุญทรง -ภูมิ-ยรรยง" พัวพันคดีรับจำนำข้าว คราวรับตำแหน่ง ก่อนถูก ป.ป.ช.สอบเชิงลึก

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีอีก 4 คน ประกอบไปด้วย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวของรัฐบาล อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีอีก 4 คน ตามที่แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้รายละเอียดดังนี้ 

@ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แจ้งบัญชีช่วงเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ระบุมีรายได้27,239,257.67 บาท มีรายจ่าย 3,975,000 บาท

ส่วนนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรส (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีรายได้ 1,441,666.67 ล้านบาท รายจ่าย 820,000 บาท

ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีรายได้ 500 บาท มีรายจ่าย 594,000 บาท

ทั้งนี้ ในส่วนทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 536,758,045.86 บาท แบ่งเป็น เงินสด 13,961,180 บาท เงินฝาก 13 รายการ 38,156,160.98 บาท เงินลงทุน 5 รายการ รวมบมจ. เอสซี แอสเสท 81,376,146.72 บาท เงินให้กู้ยืม 110,301,369.86 บาท 2 รายการ ให้นายพายัพ ชินวัตร 80 ล้านบาท บริษัทแอ็ดอินเด็กซ์ จำกัด ของนายอนุสรณ์ 30 ล้านบาท ที่ดิน 13 แปลง 65,186,350 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 36 แห่ง 162,368,182.40 บาท ยานพาหนะ 8 คัน 18,690,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,028,655.90 บาท ทรัพย์สินอื่น (มูลค่าตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) ได้แก่เครื่องประดับ นาฬิกา กระเป๋า 73 รายการ 45,690,000 บาท

ส่วนนายอนุสรณ์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 76,779,386.56 บาท แบ่งเป็น เงินสด 5,000,000 บาท เงินฝาก 4 บัญชี 5,458,969.29 บาท เงินลงทุน 3 รายการ 45,098,000 บาท ได้แก่ บริษัทเอ็ม-บิท จำกัด และบริษัทแอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15 แห่ง 16,127,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 5 รายการ 1,241,417.27 บาท และทรัพย์สินอื่น 18 รายการ ได้แก่ นาฬิกา เครื่องประดับ พระเครื่อง รวมมูลค่า 3,854,000 บาท

ขณะที่บุตร แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 4,373,955.45 บาท แบ่งเป็น บัญชีเงินฝาก 1 รายการ ยอดเงิน 60,547.37 บาท สิทธิและสัมปทาน 4,313,408.08 บาท

ต่อมาช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ มีทรัพย์สินรวม 627,405,651.37 บาท หนี้สิน 27 ล้านบาท

นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีนอกสมรส มีทรัพย์สินรวม 76,618,977.37 บาทไม่มีหนี้สิน

เด็กชาย ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายวัย 11 ปีทรัพย์สิน 1,254,529.89 บาท

รวมมีทรัพย์สินน.ส.ยิ่งลักษณ์และบุตร 628,660,181.26 บาท (ไม่รวมทรัพย์สินละหนี้สินของคู่สมรสที่มิได้จดทะเบียน) รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 601,660,181.26 บาท

รายการหนี้สิน 27 ล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า เป็นหนี้เงินกู้ยืม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2555 เพื่อนำไปชำระค่าดินในเขตบึงกุ่ม เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 11 ตารางวา มูลค่า 52 ล้าน

อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับกรณีรับตำแหน่งนายกฯวันที่ 10 ส.ค.2554 กับกรณีรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบว่า เฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์และบุตร เพิ่มขึ้น 60,528,180.26 บาท

รายการทรัพย์สินหลักที่เพิ่มขึ้น ได้แก่

1.เงินลงทุนจาก 5 รายการมูลค่า 81,376,146 บาท เพิ่มเป็น 9 รายการมูลค่า 149,466,890.99 บาท (เพิ่มขึ้น 68,090,744 บาท) ในจำนวนนี้ก่อนหน้านี้แจ้งว่าเป็นเจ้าของหุ้น บมจ.เอสซีแอสเสท คอร์เปเรชั่น (SC) จำนวน 5,566,000 หุ้น มูลค่า หุ้นละ 5 บาทรวม 78,037,200 บาท ครั้งนี้เพิ่มเป็น 31,308,750 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่า 129,618,225 บาท (มูลค่าเพิ่มขึ้น 51,581,025 บาท)

2.ที่ดินจาก 13 แปลง มูลค่า 65,186,350 บาท เพิ่มเป็น 14 แปลง มูลค่า 117,186,350 บาท (เพิ่มขึ้น 1 แปลง โฉนดเลขที่ 115536 ต.บึงกุ่ม เขตคลองกุ่ม กรุงเทพฯ เนื้อที่ 1-3-11 ไร่ มูลค่า 52 ล้านบาท)

3.รถยนต์จากจำนวน 8 คัน มูลค่า 18,690,000 บาท เพิ่มเป็นจำนวน 9 คัน 21,990,000 บาท (เพิ่มรถตู้เบนซ์ VITO 1 คัน ทะเบียน ฮม 1 กรุงเทพมหานคร ได้มา 26/04/56) 

น่าสังเกตว่าในการยื่นบัญชีฯล่าสุด นายอนุสรณ์ไม่มีหนี้สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งว่านายอนุสรณ์ชำระเรียบร้อย เฉพาะหนี้สินในส่วนของนายอนุสรณ์ประมาณ 43 ล้านบาท

@ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ช่วงเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 แจ้งว่ามีรายได้ 1,502,130 บาท รายจ่าย 848,000 บาท

ขณะที่นางบุณย์พัชรี บุญทรงไพศาล คู่สมรส แจ้งว่ามีรายได้ 2,452,500 บาท รายจ่าย 1,946,400 บาท

ส่วนทรัพย์สิน นายนิวัฒน์ธำรง แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 7,746,933.30 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 4.5 ล้าน เงินลงทุน 4,300 บาท ที่ดิน 6 แสนบาท ยานพาหนะ 1.2 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 1 ล้านเศษ ทรัพย์สินอื่น 3 แสนบาท

มีหนี้สินรวม 9,832 บาท

ส่วนนางบุณย์พัชรี แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 129,882,097.67 บาท แบ่งเป็นเงินสด 1.5 ล้าน เงินฝาก 38 ล้านบาท เงินลงทุน 39 ล้านบาท ที่ดิน 22 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 590,000 บาท ยานพาหนะ 4.5 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 22 ล้านบาท

มีหนี้สิน 55,765.93 บาท

ล่าสุดช่วงเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 นายนิวัฒน์ธำรง ระบุว่า ตนเองและคู่สมรส มีรายได้และรายจ่ายลดลงบางส่วน ส่วนทรัพย์สิน และหนี้สินไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 2 ส.ค.2554 นายนิวัฒน์ธำรง ระบุว่า นางบุณย์พัชรี มีทรัพย์สินทั้งหมด 130,512,908.65 บาท

ในจำนวนนี้มีทองคำแท่ง 4 แท่ง หนักแท่งละ 50 บาท (รวมน้ำหนัก 200 บาท) มูลค่า 5,200,000 บาท ระบุว่าได้มาเดือนมิ.ย.2554 (ช่วงก่อนรับตำแหน่ง ส.ส.)

ต่อมาช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 1 ก.พ. 2555 นายนิวัฒน์ธำรงยื่นบัญชีฯระบุว่า นางบุณย์พัชรี มีทรัพย์สินทั้งหมด 129,882,097.67 บาท

ในจำนวนนี้ทองคำแท่ง หนัก 62 บาท มูลค่า 15,625,000 บาท ระบุว่าได้มาระหว่างปี 2552-2554

วันที่ 31 ม.ค.2556 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ยื่นบัญชีฯพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ครบ 1 ปีระบุว่า

นางบุณย์พัชรี คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งหมด 130,839,276.18 บาท ในจำนวนนี้เป็นทองคำแท่ง หนัก 585 บาท มูลค่า 13,279,500 บาท ระบุว่าได้มาระหว่างปี 2552-2555

น่าสังเกตว่าในการยื่นบัญชีฯครั้งที่ 2 กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 1 ก.พ. 2555 นางบุณย์พัชรีมีทองคำแท่งหนัก 62 บาท แต่แจ้งมูลค่าสูงถึง 15,625,000 บาท (คิดอัตราบาทละ 252,016 บาท) ขณะที่การยื่นบัญชีฯครั้งที่ 3 มีทองคำแท่ง หนัก 585 บาท แจ้งมูลค่าเพียง 13,279,500 บาท (คิดอัตราบาทละ 22,700 บาท) ทั้งๆที่ในการยื่นบัญชีฯครั้งที่ 3 มีทองคำแท่งหนักถึง 585 บาทมากกว่าครั้งที่สองถึง 523 บาท

@ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ช่วงเข้ารับตำแหน่งรมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,252.80 บาท มีรายจ่าย 900,000 บาท

ขณะที่นางสุมาลี เตริยาภิรมย์ คู่สมรส มีรายได้ 200,000 บาท ไม่มีรายจ่าย

ส่วนทรัพย์สิน นายบุญทรง แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 2,724,923.85 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 134,923.45 บาท ยานพาหนะ 1,840,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 750,000 บาท 

ขณะที่นายสุมาลี คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 12,317,563.72 บาท แบ่งเป็นเงินสด 250,000 บาท เงินฝาก 625,713.72 บาท ที่ดิน 10,894,150 บาท ยานพาหนะ 47,700 บาท ทรัพย์สินอื่น 500,000 บาท 

ช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 นายบุญทรง แจ้งว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น เป็น 2,233,530.61 บาท คู่สมรสมีรายได้เท่าเดิม รายจ่ายเท่าเดิม

ส่วนทรัพย์สิน นายบุญทรง แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้น เป็น 3,381,157.51 บาท ขณะที่นางสุมาลี แจ้งทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้น เป็น 14,684,704.37 บาท 

ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาได้แก่ ที่ดิน น.ส.3 จ.ตาก มูลค่า 1,320,000 บาท 

@ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ช่วงพ้นตำแหน่งแล้ว 1 ปี แจ้งต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2556 ว่า มีรายการทรัพย์สินอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก 3 รายการ จากรายการทรัพย์สินเดิมแจ้งไว้ในช่วงเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ,ช่วงพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2555 ที่แจ้งไว้แค่ 2 รายการ คือ อาวุธปืนจำนวน 12 กระบอก มูลค่า 360,000 บาท และนาฬิกา 3 เรือน จำนวน 900,000 บาท รวมวงเงิน 1,260,000 บาท

โดยทรัพย์สินอื่นที่เพิ่มขึ้นมา 3 รายการ ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินครั้งล่าสุด คือ นาฬิกาข้อมือ จำนวน 1 เรือน ของนายภูมิ มูลค่า 3 แสนบาท, ปืนจำนวน 1 กระบอก มูลค่า 80,000 บาท นาฬิกาข้อมือ ของภรรยา จำนวน 1 รายการ มูลค่า 2 แสนบาท และแหวนเพชร 1 วง มูลค่า 250,000 บาท ของภรรยาเช่นกัน

รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจำนวน 830,000 บาท

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ทรัพย์สินทั้งหมดของนายภูมิ และภรรยา ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดชัดเจนว่า ได้รับมาในช่วงเวลาใด

จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายภูมิ ในช่วงพ้นตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แล้ว 1 ปี ยังพบว่า มีการระบุรายได้จากการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 3,500,000 บาท

จากการตรวจสอบพบว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ขายไป คือ โฉนด เลขที่ 9962 ต.สวนหม่อน อ.มัจจาคีรี จ.ขอนแก่น ขนาด 1ไร่ 1 งาน ระบุว่าได้รับมาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2545 มูลค่าประมาณ 1,250,000 บาท

ซึ่งมีบ้านเลขที่ 33/3 ม. 3 ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่บนโฉนดดังกล่าว ระบุว่าได้รับมาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2545 เช่นกัน มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท

ทั้งนี้ หากคำนวณราคาบ้านพร้อมที่ดิน ตามที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินจะอยู่ที่ 3,250,000 บาท

ขณะที่นายภูมิ ระบุว่า มีรายได้จากการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 3,500,000 บาท ส่งผลทำให้นายภูมิ น่าจะมีกำไรจากส่วนต่าง การขายบ้านและที่ดินครั้งนี้ เป็นเงิน 250,000 บาท

@ นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

แจ้งข้อมูลช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 นายยรรยง ระบุว่า เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ อธิบดีกรมการค้าภายใน ปลัดกระทรวงพาณิชย์
ส่วนตำแหน่งสุดท้าย คือ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทอมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

แจ้งว่า มีรายได้รวม 4,423,856.52 บาท รายจ่ายรวม 1,144,500 บาท ทรัพย์สิน รวม 16,354,229.15 บาท แต่ไม่มีหนี้สิน

ในส่วนรายได้นั้น นายยรรยง แจ้งว่ามีเงินเดือน 2,257,199.52 บาท ค่าตอบแทนและเบี้ยประชุม 823,340.87 บาท ค่าสอน 21,600 บาท ค่าตอบแทน 1,321,716.13 บาท

ขณะที่คู่สมรส ไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว

ด้านรายจ่าย นางยรรยง แจ้งว่า มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว 300,000 บาท ค่าเดินทาง 180,000 บาท ค่าโทรศัพท์ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา 60,000 บาท ค่าประกันชีวิต 200,000 บาท ค่าท่องเที่ยวและบริจาค 100,000 บาท

ส่วนคู่สมรส มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว 200,000 บาท ค่าโทรศัพท์ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา 4,500 บาท ค่าท่องเที่ยวและบริจาค 100,000 บาท เช่นกัน

ขณะที่ทรัพย์สิน นายยรรยง แจ้งว่า มีเงินฝาก 7,091,595.41 บาท มีเงินลงทุน 4,058,509.57 บาท ที่ดิน 1 แปลง ราคา 3,000,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (ที่ดินและบ้านอยู่ในจังหวัดนครปฐม) มูลค่า 1,200,000 บาท ไม่มีรถยนต์
ส่วนคู่สมรส มีแค่เงินฝาก 1,004,124 บาท

สำหรับทรัพย์สินอื่นที่มีราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป อาทิ เครื่องประดับ ของสะสม ทั้งนายยรรยง และคู่สมรส ไม่ได้มีการแจ้งไว้ แม้แต่รายการเดียว

จากการตรวจสอบรายการเงินลงทุน จำนวน 4,058,509.57 บาท ของ นายยรรยง พบว่า มีจำนวน 7 รายการ ดังนี้

1.บริษัทแชงกรี-ลา โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) จำนวน 300 หุ้น มูลค่า 15,375 บาท

2. บริษัท วินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 4,200 หุ้น มูลค่า 51,660 บาท

3. กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ มูลค่า 992,066.01 บาท

4.กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ มูลค่า 534,618.50 บาท

5. กองทุนเปิดบัวหลวง หุ้นระยะยาว มูลค่า 535,380.45 บาท

6. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ-ไทยพาณิชย์ มูลค่า 785,278.37 บาท

7. กองทุนหุ้นระยะยาว ไทยพาณิชย์ มูลค่า 1,144,131.24 บาท

ทั้งนี้ เงินลงทุนในส่วนของกองทุนต่างๆ นายยรรยง แจ้งว่า อยู่ในช่วงตั้งแต่ปี 51 –55

แต่ในส่วนของหุ้นบริษัทแชงกรี-ลา โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วินไทย จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ระบุวันที่ได้รับโอนหุ้นมาแต่อย่างใด

---------

ทั้งหมดนี่ คือข้อมูลทรัพย์สินเบื้องต้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรี 4 ราย ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำข้าว จะที่ถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบอย่างละเอียดนับจากนี้ ถูกต้องตรงความจริงหรือไม่ 

โดยเฉพาะในส่วนของเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน ว่ามีผลเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ 

รายการทรัพย์สินของอดีตนายกรัฐมนตรี-4 รมต.กรณีเข้ารับตำแหน่ง ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ที่มา:สำนักงาน ป.ป.ช.,ศูนย์ข่าวสืบสวน สำนักข่าวอิศรา รวบรวม