อินไซด์วงประชุมทีมสอบ “ธุรกรรมการเงิน” กลุ่มต้าน “คสช.”
“ทางคสช.ให้ทั้ง 4 หน่วยงาน มุ่งเน้นการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของบุคคลที่คสช.เรียกให้มารายงานตัว แล้ว แต่ฝ่าฝืนคำสั่งไม่มารายงานตัว โดยจะต้องตรวจสอบคนกลุ่มนี้อย่างละเอียด และตรวจสอบด้วยว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ บ้าง เพื่อจะได้ดำเนินการเพิ่มเติม”
ชั่วโมงนี้ดูเหมือน “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) ที่นำโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. ในฐานหัวหน้าคสช. เดินหน้าขุดรากถอนโคน “ระบอบทักษิณ” อย่างจริงจัง
ทั้งจับตาทุนที่จะนำมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งปกติจะต้องผ่านมือ “คนใกล้ชิด” ของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นำมาใช้ดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง
ทั้งทุนจากพวกมากบารมีเครือข่าย “อิทธิพลมืด” ที่มักจะแสวงหาผลประโยชน์จากการลงทุนทำเพื่อ “นาย” อยู่เพื่อ “นาย” ตายเพื่อ “นาย”
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม “คสช.” มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
ประกอบไปด้วย 1.อธิบดีกรมสรรพากร 2.เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) 3.เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)4.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงต่อสายไปยัง “ผู้บริหารสูงสุด” ของทั้ง 4 หน่วยงาน เพื่อให้เล่าถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก “คสช.”
ล่าสุด “คสช.” ได้เชิญทั้ง 4 หน่วยงาน ไปมอบนโยบายการดำเนินการทั้งหมด ภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 พฤษภาคม โดยมีตัวแทนของ “พล.อ.ประยุทธ์” เข้าร่วมการประชุมด้วยตัวเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมมอบหมายงาน “พล.อ.ประยุทธ์” ได้มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องกับของแต่ละหน่วยงานให้ไปดำเนินการ
มอบหมายให้ “พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์” เลขาธิการปปง. เข้ามาดูเส้นทางทางการเงินของบุคคลที่ “คสช.” จะต้องการให้ตรวจดูและติดตามความเคลื่อนไหว โดยให้นำกฎหมายของ “ปปง.” มาบังคับใช้ได้เลย และหากต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดให้ “ปปง.” ประสานงานได้ทันที
มอบหมายให้ “สิทธิชัย สังขมณี” อธิบดีกรมสรรพากร ตรวจดูรายละเอียดของคนในลิสต์รายชื่อที่เกี่ยวข้องว่ามีการจ่ายเงินภาษีอย่างไร มีความเคลื่อนไหวทางการเงินอย่างไรบ้าง
มอบหมายให้ “พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้จะดูเรื่องการดำเนินคดีกับผู้ที่มีกระทำผิดตามคำสั่งของ “คสช.” โดยให้นำกฎหมายของ “ดีเอสไอ” มาบังคับใช้ เช่น การจับกุมตัว
มอบหมายให้ “พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ” เลขาธิการปปส. ตรวจสอบ “ธุรกิจสีเทา” ของกลุ่มเครือข่ายที่เคลื่อนไหวใกล้ชิด “ฝ่ายการเมือง” ทั้งหมด และเชื่อมโยงเครือข่าย “คนเสื้อแดง” เพิ่มเติมด้วย
แหล่งข่าวระบุว่า เนื้อหาสาระของการประชุมส่วนใหญ่จะเป็นการแบ่งงานกันทำ โดย “ผู้ช่วยผบ.ทบ.” กำชับว่าต้องทำงานให้ประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“ทางคสช.ให้ทั้ง 4 หน่วยงาน มุ่งเน้นการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของบุคคลที่คสช.เรียกให้มารายงานตัวแล้ว แต่ฝ่าฝืนคำสั่งไม่มารายงานตัว โดยจะต้องตรวจสอบคนกลุ่มนี้อย่างละเอียด และตรวจสอบด้วยว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้บ้าง เพื่อจะได้ดำเนินการเพิ่มเติม” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวระบุต่อว่า ส่วนบุคคลที่มารายงานตัวแล้ว ทางคสช.สั่งการให้ติดตามความเคลื่อนไหวทางดำเนินการธุรกรรมทางการเงินเช่นกัน เพื่อตรวจสอบว่าได้ช่วยเหลือหรือสนับสนุนการกระทำผิดหรือไม่ หากพบพฤติการณ์ว่าส่อกระทำผิดให้แจ้งคสช.ทันที แต่คสช.ก็ไม่ได้กำชับให้ติดตามธุรกรรมทางการเงินบุคคลกลุ่มนี้แบบละเอียดมากนัก
นอกจากนี้ “ผู้ช่วยผบ.ทบ.” ได้แจ้งต่อ 4 หน่วยงานว่า หลังจากนี้ห้ามให้ข่าวต่อ “สื่อมวลชน” ในทุกประเด็น เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์” จะคัดเลือกประเด็นและเป็นคนให้ข่าวด้วยตัวเอง
ทั้ง 4 หน่วยงาน มีหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรมทางการเงิน แล้วรายงานตรงต่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เท่านั้น
ทั้งหมดคือหน้าที่-ภารกิจของ “ดรีมทีม” ที่จะเข้ามาช่วย “คสช.” เช็คบัญชีตัด “ท่อน้ำเลี้ยง” ของ “ฝ่ายต่อต้าน” ที่ยังเคลื่อนไหวทั้งบนดินและใต้ดิน