เอ็นจีโอเชื่อรัฐประหารไม่ช่วยคืนความสงบชาติ
เอ็นจีโอเชื่อรัฐประหารของคสช. ทำลายระบอบประชาธิปไตย ไม่สามารถคืนความสงบเเก่ชาติได้ จี้คืนอำนาจการปกครองเเก่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.), มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) เเละมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ออกเเถลงการณ์ คัดค้านการรัฐประหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใจความว่า...
ตามที่ คสช.ได้กระทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองประเทศโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและวิธีทางประชาธิปไตย โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1 เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ว่ากระทำการยึดอำนาจเพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่ายนั้น
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และองค์กรที่มีรายชื่อแนบท้ายนี้ ขอคัดค้านการใช้อำนาจนอกระบอบประชาธิปไตยดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. การรัฐประหารเป็นการทำลายประชาธิปไตย
การยึดอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการใช้กำลังบังคับโดยทหาร และมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายประการ ทั้งจับกุมควบคุมตัวบุคคลโดยปราศจากข้อกล่าวหา การปิดกั้นและแทรกแซงการนำเสนอของสื่อมวลชน การประกาศเคอร์ฟิว และการห้ามชุมนุมทางการเมือง อันเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย
อีกทั้งการเข้ายึดอำนาจดังกล่าวยังขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการปกครองของเสียงส่วนมากโดยที่ยังเคารพเสียงส่วนน้อย เป็นการปกครองโดยกฎหมาย ทำให้ประชาชนเคยชินกับการใช้อำนาจนอกระบบโดยการรัฐประหาร ส่งผลให้พัฒนาการประชาธิปไตยในสังคมไทยหยุดชะงักและด้อยพัฒนา ซึ่งไม่อาจถือได้ว่าเป็นสังคมประชาธิปไตยอีกต่อไป
การยึดอำนาจดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน ละเมิดหลักการนิติรัฐ และเป็นการละเมิดหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย
2. การยึดอำนาจการปกครองไม่สามารถนำความสงบคืนสู่สังคมได้อย่างแท้จริง
แม้ว่าคสช.จะอ้างเหตุในการกระทำเพื่อให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีเช่นเดิมก็ตาม แต่การที่จะนำความสงบกลับคืนมาได้นั้น ต้องใช้วิธีที่สันติและเป็นธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย การยึดอำนาจโดยทหาร เป็นการบังคับเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ นำไปสู่การคัดค้านตอบโต้ ดังเช่นการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ที่ยิ่งตอกย้ำ ขยายความขัดแย้งในสังคมอย่างกว้างขวาง จนนำไปสู่ความรุนแรงและการสูญเสียของสังคมเมื่อปี พ.ศ. 2551 และปี พ.ศ. 2553 และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การยึดอำนาจรัฐจึงไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้
3. ประชาชนมีศักยภาพในการปกครองตนเอง
สังคมประชาธิปไตย ยึดถือการมีส่วนร่วม การแสดงความคิดเห็น และการตัดสินใจของประชาชน อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยนั้นอาจใช้เวลา ความพยายาม และความอดทนอย่างมาก เพื่อที่จะสร้างเจตจำนงร่วมเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน แต่ประชาชนมีศักยภาพในการเรียนรู้ และร่วมกันพัฒนาสังคมประชาธิปไตยที่มั่นคงแข็งแรงในระยะยาวโดยไม่ต้องอาศัยให้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการ
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และองค์กรที่มีรายชื่อแนบท้ายนี้ จึงขอคัดค้านการยึดอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคืนอำนาจปกครองสู่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งทันที และขอยืนยันว่าประชาชนย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมตามวิถีทางประชาธิปไตยที่จะต่อต้านการรัฐประหารโดยสันติวิธี .
ภาพประกอบ:เว็บไซต์ Prasong