คชสป. ยื่นหนังสือปธ.วุฒิ เร่งรัดให้มีรบ.อำนาจเต็มบริหารประเทศ
เครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป ยื่นหนังสือเปิดผนึกเร่งรัดให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ ชี้หลายปัญหาค้างเติ่ง ไม่ได้รับการแก้ไข แถมยังทวีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
วันที่ 22 พฤษภาคม ที่อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน นายมณเฑียร สอดเนื่อง ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป (คชสป.) และตัวแทนชาวบ้านผู้เดือนร้อนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่างๆ ได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกเร่งรัดให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมาบริหารประเทศ โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รักษาการประธานวุฒิสภาเป็นผู้รับหนังสือ
โดยสาระในหนังสือระบุว่า ตามที่ประเทศไทยมีการบริหารบ้านเมืองในภาวะวิกฤติโดยรัฐบาลรักษาการ ที่ไม่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลรักษาการชุดนี้ ไม่อาจแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ และยังเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีต่อชาติบ้านเมืองละเมิดกฎหมาย คุกคามสิทธิของผู้อื่นให้เห็นเป็นรายวัน โดยกระทำการอย่างอุกอาจเสมือนประเทศไม่มีกฎหมาย จนประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น การจับกุมและทำร้ายชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของชุมชน กรณีเหมืองแร่ทองคำที่ จ.เลย, จ.พิจิตร กรณีการขุดเจาะแก๊สธรรมชาติที่ จ.กาฬสินธุ์ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นรายวันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องแหล่งทำกินของตนเอง และผืนป่าแก่งกระจาน
ยังมีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่มีกลไก กระบวนการแก้ปัญหาที่ได้ดำเนินการมาแล้วต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ปัญหาเกิดความรุนแรงมากขึ้น เช่นกรณี การคืนสัญชาติให้คนไทยพลัดถิ่น การเดินหน้าแก้ปัญหาที่ดิน ทั้งโฉนดชุมชน และธนาคารที่ดิน กองทุนยุติธรรมในการช่วยเหลือทางคดี เป็นต้น
ผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น เช่น แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย ภัยแล้งในพื้นที่หลายจังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก แต่รัฐบาลรักษาการไม่อาจแก้ปัญหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเต็มที่และทันท่วงที
นอกจากนี้ยังมีปัญหาสำคัญๆ อีกมากมายที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนโยบายของรัฐ เช่น ผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวซึ่งหลายเดือนแล้วที่ชาวนายังไม่ได้รับเงิน การขึ้นราคาไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม น้ำมัน นโยบายการจัดการน้ำ การปรับแก้ผังเมือง 52 จังหวัด
เครือข่ายองค์กรชุมชนและประชาสังคมเพื่อการปฏิรูป หรือ คชสป. ประกอบด้วยองค์กรชุมชนและประชาสังคม จำนวน 15,772 องค์กร มีความเห็นว่า หากสถานะของผู้บริหารประเทศ ยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการที่ไม่มีอำนาจเต็มอยู่เช่นนี้ นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว ยังจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้และอาจทวีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤต ประชาชนจะมีความไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น และขยายไปทั่วประเทศ อีกทั้งจะทำให้การพัฒนาประเทศชะงักไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว สร้างโอกาสในการวางแผนพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง คชสป. จึงมีความเห็นดังนี้
1. ขอเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม เข้ามาบริหารประเทศโดยเร่งด่วน เพื่อปกป้องการกระทำอันเป็นการละเมิดคุกคามสิทธิในชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ตลอดจนเพื่อดำเนินการให้เกิดการปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง
2. ขอสนับสนุนการแก้ปัญหาประเทศตามแนวทางของวุฒิสภา ดังนี้ คือ
1) ให้มีองค์กรหรือคณะบุคคลที่เป็นกลาง เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง คู่กรณีและภาคส่วนต่าง ๆ มาปรึกษาหารือ เพื่อหาทางออกประเทศร่วมกัน
2) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ โดยร่วมกันสนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม เข้ามาบริหารเพื่อแก้วิกฤตของประเทศให้ผ่านพ้นไป
3.ขอให้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศโดยรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มให้การสนับสนุน สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนจัดทำข้อเสนอการปฏิรูปที่มีผลผูกพันให้ทุกรัฐบาลนำไปปฏิบัติ
4. ในส่วนของ คชสป. มีข้อเสนอในการปฏิรูป 5 ประเด็น คือ 1) กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นปกครองตนเองโดยให้มี พ.ร.บ.การบริหารจังหวัดปกครองตนเอง 2) ผลักดันให้เกิดกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างที่ดิน 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ, พ.ร.บ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า, พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน และ พ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม 3) สนับสุนนให้เกิด พ.ร.บ.สวัสดิการชุมชน 4) สนับสนุนให้เกิดนโยบายการแก้ปัญหาคนชายขอบโดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และ 5) สนับสนุนให้มีสภาพลเมืองในทุกในระดับ