เบื้องหลัง! ลีน่าจัง & วอยซ์ทีวี ดิ้นรน (หนีตาย) เหตุถูกปิดสถานีโทรทัศน์
ลีนา จังจรรจา: "รายการไม่มีเนื้อหาปลุกระดม ขณะนี้ไม่มีจะกินแล้ว เลิกปิดได้แล้ว" & นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ : เรามีสปอนเซอร์ ทุกนาทีมีโฆษณาอยู่ ทุกชั่วโมงที่ผ่านไปมีความเสียหายมูลค่ามหาศาลหลักล้านบาท"

สถานีโทรทัศน์ฮ็อตทีวี ของ นางลีน่า จังจรรยา กับ สถานีโทรทัศน์ วอยซ์ทีวี ของ นายพานทองแท้-พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกระงับการภาพออกอากาศ ภายใต้คำสั่งของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ฉบับที่ 7 ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา กำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างสูง จากการถูกปิดสถานีดังกล่าว เนื่องจากผลประกอบการธุรกิจของสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งในช่วงที่ผ่านมา "ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"
โดยเฉพาะในส่วน "วอยซ์ทีวี" ที่ประสบปัญหาการขาดทุนเป็นจำนวนนับร้อยล้านบาท แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเดินหน้ากวาดเม็ดเงินโฆษณาหน่วยงานรัฐไปหลายสิบล้านบาทก็ตาม
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ฮอท เน็ตเวิร์ค จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2554 มีทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 120/112 ถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจประเภท ให้ความบันเทิงในรูปแบบของรายการโทรทัศน์ วิทยุ เคเบิ้ล
ปรากฎชื่อนาง ลีนา จังจรรจา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่
ล่าสุดบริษัทฯ แจ้งงบดุลแสดงผลประกอบการธุรกิจ ในปี 2556 ระบุว่ามีรายได้รวม 8,000 บาท มีกำไรสุทธิ 2,500 บาท
บริษัทฯ ยังแจ้งด้วยว่ามีสินทรัพย์รวม 2,071,513.93 บาท มีหนี้สิน รวม 16,442,000 ขาดทุนสะสมอยู่ที่ 15,370,486.07 บาท
ขณะที่ บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2546 แจ้งทุนปัจจุบัน 2,310,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 414 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ประกอบธุรกิจผลิตรายการเพื่อออกอากาศทั่วไป
ปรากฏชื่อ นายพานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพินทองทา ชินวัตร นายเฉลิม แผลงศร นายทรงศักดิ์ เปรมสุข นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายประทีป คงสิบ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มกราคม 2557 มี 6 ราย ได้แก่ บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 92,400,000 หุ้น มูลค่า 672,000,000 บาท ,นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์ ถืออยู่ 69,300,000 หุ้น มูลค่า 559,800,000 บาท , นายพานทองแท้ ชินวัตร ถืออยู่ 23,099,995 หุ้น มูลค่า196,775,950 บาท, นางสาว พินทองทา ชินวัตร 23,100,000 หุ้น มูลค่า142,824,000 บาท,นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ถืออยู่ 23,100,003 หุ้นมูลค่า 138,600,030 บาท ส่วนนาย เฉลิม แผลงศร ถืออยู่ 2 หุ้น มูลค่า 20 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ แจ้งงบดุลแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุดในปี 2555 ระบุว่ามีรายได้รวม 131,711,403.60 บาท ขาดทุนสุทธิ 104,829,748.41 บาท
บริษัทฯ ยังแจ้งด้วยว่า มีสินทรัพย์รวม 302,934,348.70 บาท มีหนี้สินรวม 47,893,408.31 บาท ตัวเลขขาดทุนสะสมอยู่ที่ 509,959,059.61 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ธนาคารออมสินสังกัดกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานรัฐล่าสุดที่ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ของครอบครัวชินวัตรในการโฆษณาภาพลักษณ์ของธนาคารเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2556 วงเงิน 1,284,000 บาท ทำให้ยอดรวม บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด เป็นคู่สัญญารัฐทั้งสิ้น 7 สัญญา วงเงินรวม 53,484,750 บาท
(อ่านประกอบ : “วอยซ์ทีวี”เดินหน้ากวาดโฆษณาหน่วยงานรัฐยอดทะลัก 53 ล้าน)
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ฮ็อตทีวี ของ นางลีน่า จังจรรยา มีรายได้จากการขายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความสวยความงามผ่านการออกอากาศรายการเป็นหลัก
(อ่านประกอบ : พลิกธุรกิจ“ลีน่า จัง”ก่อนถูก“ปลาร้า”ปาหน้า)
ทั้งนี้ ล่าสุดในช่วงสายวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา นางลีน่า จังจรรยา เจ้าของสถานีโทรทัศน์ฮ็อตทีวี และนายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ได้เดินทางเข้ายืนหนังสือขอความเป็นธรรมจาก กอ.รส. หลังถูกระงับการออกอากาศของทางสถานี
โดยนางลีน่าจังจรรยา ยืนยันว่า "รายการไม่มีเนื้อหาปลุกระดม ขณะนี้ไม่มีจะกินแล้ว เลิกปิดได้แล้ว หน้าที่กองทัพไม่ควรปิดหูปิดตาประชาชน"
ส่วนนายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ระบุว่า "อยากขอความเป็นธรรมให้สถานีออกอากาศได้เร็วที่สุด เพราะเรามีสปอนเซอร์ ทุกนาทีมีโฆษณาอยู่ ทุกชั่วโมงที่ผ่านไปมีความเสียหายมูลค่ามหาศาลหลักล้านบาท"
ล่าสุดจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจาก "กอ.รส." เกี่ยวกับคำร้องขอจากทั้งสองสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวแต่อย่างใด
