หมอบรรลุหนุนนำเงินสลาก ตั้งกองทุนภาคประชาสังคม
นักวิชาการ หนุนจัดตั้งกองทุนภาคประชาสังคม “สมชัย” ชี้การคลังไทยกระจุกตัวแต่ภาครัฐ ควรเร่งกระจายสู่ท้องถิ่น ด้าน“หมอบรรลุ” ระบุชัดควรนำเงินจากกองสลากฯมาจัดตั้งกองทุนฯ แก้กฎหมาย ทำให้ถูกต้องตามระบบ
เมื่อเร็วๆ นี้ ภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนภาคประชาสังคม จัดงานเสวนา กองทุนภาคประชาสังคม : เพิ่มพลังคนเมือง สู่ประชาธิปไตยที่สมบรูณ์ ครั้งที่ 5 ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาแนวทางการสร้างกลไก “กองทุนส่งเสริมการพัฒนาภาคประชาสังคม” และส่งเสริมการทำงานของพลเมืองที่มีอยู่ในภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศ
ศ.ดร.สมชัย ฤพันธุ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพัฒนาสยาม ปาฐกถานำเรื่อง “การคลังเพื่อสังคม เพิ่มพลเมือง” ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องของการคลัง คือ ต้องทำให้เกิดความยุติธรรม และลดความเหลื่อล้ำในสังคม โดยจำเป็นต้องกระจายอำนาจการคลังของภาครัฐออกไป ทั้งนี้ปัจจัยเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขคือ การกระจุกตัวของอำนาจรัฐ
"ที่ผ่านมาพบว่า รายได้มักกระจุกตัวในโครงการต่างๆ ของรัฐ โดยรัฐเป็นผู้ออกนโยบายและเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด หากอยากแก้ไขปัญหาที่หยั่งลึกในท้องถิ่น ต้องดำเนินการแก้ไขในส่วนดังกล่าวให้ได้"
ประธานมูลนิธิสถาบันพัฒนาสยาม กล่าวว่า แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะบัญญัติให้มีการกระจายอำนาจจากภาครัฐออกไปอย่างทั่วถึง แต่แนวทางปฎิบัติ พบว่า แม้จะมีการจัดตั้งหน่วยงานบริหารงานส่วนท้องถิ่น แต่การใช้อำนาจยังไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์มากนัก หากสามารถปรับปรุงในส่วนของการกระจายงบประมาณให้แก่ท้องถิ่นได้อย่างสมบรูณ์ ก็จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำ ลดการกระจุกตัวของอำนาจลงได้ และเป็นการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง
ขณะที่นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวถึงการสร้างกองทุนภาคประชาสังคมว่า กองทุนภาคประชาสังคมนั้นถือเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และสร้างประชาธิปไตยทางตรง ที่ไม่ต้องผ่านการพึ่งพิงระบบตัวแทน ซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางและเป็นตัวการให้ภาคประชาชนอ่อนแอลง
"ประชาธิปไตยที่ผ่านระบบตัวแทนไม่ได้สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่กุมอำนาจไว้แทนที่จะรับใช้ประชาชน โดยไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง" นายสรรพสิทธิ์ กล่าว และว่า ปัจจุบันประชาชนไม่มีความพร้อม เพราะถูกระบบข้าราชการและนักการเมืองทำให้อ่อนแอมาเป็นเวลานาน จึงจำเป็นต้องอาศัยการสร้างกองทุนภาคประชาสังคม มาช่วยให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่อสู้กับบริษัทเหมืองของประชาชนใน จ.เลย ว่า เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากรและความปลอดภัยของชุมชน ซึ่งการต่อสู้ในลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยกองทุนเพื่อทำให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้ และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในโครงการที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อท้องถิ่น เชื่อว่า จะช่วยลดปัญหาการกระจุกตัวของอำนาจและการทุจริตลงได้ด้วย
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย กล่าวสัมโมงพลเมืองสู่ประชาธิปไตยที่สมบรูณ์” ถึงความจำเป็นต้องมีกองทุนภาคประชาสังคม พร้อมทั้งเสนอให้นำเงินจากสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจัดตั้งกองทุนภาคประชาสังคม ด้วยมองว่าสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าต้องทำให้ถูกต้องตามระบบ กฎหมาย และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติสลากกินแบ่งรัฐบาล
"แต่ปัจจุบันระบบนิติบัญญัติของไทยไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร แต่สักวันหนึ่งแสงทองจะส่องฟ้าอำไพ ความเข้าใจเรื่องกองทุน จะแจ่มจรัส ทุกภาคส่วนสังคมไทยจะแจ่มชัด ขอเครือข่ายจงพูกมัดไมตรีไว้รอเวลา” นายแพทย์บรรลุ กล่าวปิดท้าย