จับตาความคืบหน้า 12 คดีสำคัญในกำมือป.ป.ช. เตรียมเชือดปี ’57
จับตาความคืบหน้า 12 คดีเด่นสำคัญในกำมือคณะกรรมการ ป.ป.ช. “จำนำข้าว – โรงพัก – สลายชุมนุมแดงปี 53 – สลายชุมนุมเหลืองปี 51 – ไร่ส้ม – โกงVAT 4 พันล้านบาท” ติดโผ จ่อเชือดยกกระบิในปี 2557
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลการทำงานในช่วง 6 เดือน ระหว่างเดือนตุลาคม 2556 – มีนาคม 2557
นายวิชา มหาคุณ โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยผลความคืบหน้าคดีสำคัญต่าง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมความคืบหน้าในคดีสำคัญจำนวน 12 คดีใน “กำมือ” ป.ป.ช. มาเปิดเผยดังต่อไปนี้
1.คดีอาญากล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าว
มีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติมในส่วนของคดีอาญา คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนี้
2.คดีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ กรณีขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) และการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล
ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลไต่สวนกล่าวหาบริษัทเอกชนอีกมาก ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการระบายข้าวร่วมกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยอยู่ในระหว่างขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของบริษัททั้งหมด คงใช้เวลาอีกประมาณ 3 – 4 เดือน คิดว่าคงสรุปได้ในบางคน เพราะมีผู้ถูกกล่าวหาที่อยู่ต่างประเทศ ยังไม่สามารถที่จะติดต่อให้มายื่นแก้ข้อกล่าวหาได้
อย่างกรณีของบริษัทในจีน ที่อ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ ทั้งกว่างโจว และที่เกาะไหหลำ ฉะนั้นต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ว่าอย่างไรก็ดีก็คงจะอยู่ในข่ายที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีบริษัทต่าง ๆ ที่รับเข้ามาในการซื้อข้าวต่อจากบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ได้ขอมาให้ถ้อยคำด้วยความตั้งใจเลยว่าจะช่วยเหลือเรา
3.คดีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรมว.พาณิชย์ กรณีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล
มีผู้กล่าวหาเราว่า ทำไมไม่ติดตามพยานที่ยังขาดอยู่ ทำไมถึงช้ากว่าคดีคุณยิ่งลักษณ์ เราคาดว่าจะสามารถสรุปรายงานการไต่สวนเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ภายใน 1 เดือนนี้ เพราะว่าเราได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว
อย่างไรก็ดีก็มีการร้องเรียนคุณอภิสิทธิ์ มาอีกในการประกันราคาข้าวเปลือกว่า มีการทุจริตสมัยดำรงตำแหน่งนายกฯ และเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) คือร้องเรียนลักษณะคล้าย ๆ กรณีคุณยิ่งลักษณ์ในตอนท้าย
ฉะนั้นเราก็เริ่มดำเนินกระบวนการไต่สวนโดยเร่งด่วน คาดว่าเสร็จสิ้นในปีนี้แน่นอน เพราะว่าเรามีแนวทางไต่สวนเช่นเดียวกับการไต่สวนคุณยิ่งลักษณ์อยู่แล้ว
4.คดีถอดถอนออกจากตำแหน่งกรณีการทุจริตโครงการบริหารทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2557
5.คดีถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของวุฒิสภา
ขณะนี้เหลือสอบสวนอดีตส.ส. ที่มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าจะเสร็จสิ้น และส่งเรื่องให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอนได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ คงไม่ช้าแล้ว เพราะว่าเรานำพยานเข้ามาที่เขาอ้างอิงมา สอบกันทุกวัน ก็ไม่ได้หยุดเลย ฉะนั้นก็คิดว่าคงจะทยอยได้ตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
6.คดีนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง
ดำเนินการสอบสวนไปแล้ว 27 ราย แล้วก็ทางอนุกรรมการฝ่ายเลขาธิการ ป.ป.ช. ก็ได้ลงไปตรวจสอบโรงพักในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งก็ลงนามให้ผู้กำกับ และผู้บังคับการทั้งหลายได้ดูแลด้วย เพราะว่าต้องระวังความปลอดภัยเหมือนกัน เนื่องจากต้องลงไปในพื้นที่หลาย ๆ จังหวัด คือเราใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง คาดว่าคงจะใช้เวลาอีกไม่นานจะแจ้งข้อกล่าวหาได้
7.คดีนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กรณีโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลต) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลค่า 3,700 ล้านบาท
ขอเรียนว่าเราไต่สวนทุกวัน ไต่สวนตลอด ขณะนี้สอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องแฟลตไปแล้ว 19 ราย และก็ยังต้องสอบเพิ่มเติมอีก
8.คดีนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กรณีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง – นปช.เมื่อปี 2553
เรายังไม่ได้ชี้มูล เนื่องจากต้องรอคดีที่มีการชันสูตรพลิกศพ บัดนี้เราได้มาในบางคดีแล้ว ก็ต้องเร่งให้สุดสำนวน และเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเดือนมิถุนายนนี้
9.คดีนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551
หลังจากสรุปสำนวนส่งให้อัยการ ปรากฏว่าอัยการไม่ฟ้องให้เพราะพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ และเห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอให้ฟ้อง เราเห็นควรว่าให้ฟ้องเอง ดังนั้นทางทนายความได้ส่งสำนวนการฟ้อง และคำฟ้องมาให้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นคนตรวจสอบแล้ว
10.คดีพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการโทรทัศน์ กรณียักยอกเงินบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มูลค่ากว่า 138 ล้านบาท ในการร่วมผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ระหว่างปี 2547 - 2549
เราก็ได้มีการวินิจฉัยชี้มูลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 และส่งไปที่อัยการสูงสุด ต่อมาในเดือนกันยายน 2556 อัยการสูงสุดส่งข้อไม่สมบูรณ์มาและขอตั้งคณะทำงานร่วม ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็มีมติให้ตั้งผู้แทนไปเป็นคณะทำงานร่วม
หลังจากประชุมมาแล้ว 2 ครั้งในเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะว่าทางอัยการสูงสุดก็มีข้อไม่สมบูรณ์แจ้งกลับมาเยอะมาก ทั้งหมดรู้สึกจะ 15 ประเด็น จะมีเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันกับความเห็นของทางผู้แทนของ ป.ป.ช. ฉะนั้นก็จะมีการนัดประชุมอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เพื่อพยายามหาข้อยุติให้ได้ และถ้าหาข้อยุติไม่ได้ก็คงส่งเรื่องคืนมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป
11.คดีการเลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์หรูจากต่างประเทศ
ผู้ถูกกล่าวหาร้องเรียนคือ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร 108 คน ซึ่งมีเฉพาะในปี 2555 ที่เราตรวจสอบ และขณะนี้มีหลักฐานพอสมควร โดยมีอยู่ถึง 1 หมื่นกว่าคันในปีเดียว และตอนนี้กำลังจะมีการดำเนินการควบคู่ไปด้วย คือตรวจย้อนหลังกลับไป 5 ปี เพราะเข้าใจว่ามีการดำเนินการมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเกิด แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นมูลค่ามหาศาล
เนื่องจากการมีเอกสารเกี่ยวข้องเยอะมาก รถก็เยอะ เราเลยต้องใช้เวลาในการที่จะมีการจำแนกหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้รับมอบมา ตรงนี้ก็อยู่ระยะเวลาดำเนินการเพื่อที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
12.คดีบริษัทเอกชนขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท
คดีดังกล่าวเกิดจากมีการสมคบกันตั้งบริษัทที่เป็นบริษัทปลอม แล้วก็มาขอคืนเงินภาษี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการดำเนินการส่งออกสินค้าไปตามที่กล่าวอ้าง ในเรื่องนี้พื้นที่ที่มีการกล่าวหาก็จะมี 2 พื้นที่ คือ พื้นที่สรรพากรภาค 3 เขต 22 และพื้นที่สรรพากรเขตจังหวัดสมุทรปราการ
โดยเฉพาะพื้นที่เขต 22 เราก็ได้มีการดำเนินการไต่สวนและก็รวบรวมพยานหลักฐานไปได้ค่อนข้างก้าวหน้าไปมากพอสมควรแล้ว ใกล้ที่จะสรุปได้ว่าสมควรจะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ใดบ้าง อันนี้ก็จะปรากฏความเสียหายเฉพาะในเขตนี้มากกว่า 4 พันล้านบาท และถ้าขยายผลไปเข้าใจว่ามูลค่าความเสียหายคงมากกว่านี้อีกมาก
ทั้งหมดนี้คือคดีความสำคัญใน “กำมือ” ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่กำลังเป็นที่น่าสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า คดีความทั้งหมดนี้จะถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. “เชือด” ทันภายในสิ้นปี 2557 นี้หรือไม่ ?