ชีวิตข้างถนน (3) : เรื่องน้ำเน่าเคล้าโลกีย์
เกาะติดชีวิตข้างถนน ตอน 3 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่สนามหลวงต่อไปเพื่อดูชีวิตที่นี่ ยังมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนมากกว่าที่เราพบเจอตอนกลางวันหรือไม่
เพื่อพิสูจน์เสียงเล่าลือ สนามหลวง คือแหล่งโลกียสถานอีกแหล่งหนึ่งที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่าง หาซื้อได้เพียงคุณย่างกรายเข้าไปแล้วจ่ายให้ในราคาถูกๆ
พื้นที่บริเวณคลองหลอดยาวไปจนสุด ตั้งแต่ 19.00 น.นั้น ร้านรวงทั้งหลายปิดหมดแล้ว จะมีเพียงก็ร้านอาหารบางร้านเท่านั้น ในแสงไฟถนนที่สลัว เราพบเห็นหญิงนุ่งน้อยห่มน้อย ยืนยู่เป็นระยะๆ บางคนอายุอานามคาดจากสายตาน่าจะเกิน 60 ปี บางคนมาพร้อมกับสาวน้อยวัยรุ่น และบางคนที่พบเจอว่าขายบริการอยู่ที่หน้าศาลฎีกาตอนกลางวัน ก็ยังคงปรากฏกายให้เห็นยามค่ำคืน
“สุดหล่อ…มานี่ก่อน” ผู้สื่อข่าวจำป้าเจ้าของเสียงเรียกนี้ได้ จำได้ว่าป้าก็นั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าศาลฎีกาในตอนกลางวันแล้วยังมาพบกันตอนกลางคืนอีก จึงได้เข้าไปพูดคุยกับป้าคนนี้ พบว่า เธอมาจากภาคใต้ มาทำงานแล้วบริษัทถูกปิดตัวเลยต้องผันตัวมาเป็นพนักงานบริการเช่นนี้ นานๆ ทีจะได้กลับบ้านก็ใช้สนามหลวงแห่งนี้เป็นที่ซุกหัวนอน
“ช่วยป้าเถอะนะ ร้อยเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนห้องแถวนี้สี่สิบบาทก็มี สงสารป้าให้ป้ามีเงินใช้เถอะ ป้าไม่มีที่ไปแล้ว” ผู้สื่อข่าวรีบปฏิเสธทันควันอย่างสุภาพ
“พี่ว่าตำรวจคงเอือมแล้วล่ะ จับไปก็กลับมาอีก ไม่มีทางหมดหรอก” นายทหารบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมให้ความเห็น ก่อนจะชี้ให้เราดู “ยังไม่พอนะ เลยไปอีกหน่อยตรงสวนสราญรมย์ก็มี แต่เป็นเด็กผู้ชาย เท่าที่เห็นมีวัยรุ่น ส่วนเด็กตัวเล็กๆไม่แน่ใจเหมือนกัน เวลาประมาณนี้ (19.30 น.) น่าจะมากันแล้วล่ะ”
เดินไปเรื่อยๆห่างจากจุดที่นายทหารผู้ให้ข้อมูลอยู่ไม่ไกลก็เจอกลุ่มชายหลากหลายแบบทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่เมื่อเดินผ่าน ก็เอ่ยปากเชิญชวนให้มาสัมพันธ์ด้วยกันอย่างไม่เขินอาย
บางรายอวดอ้างสรรพคุณ บางรายเดินตามเพื่อตื๊อให้ซื้อให้ได้ ยิ่งดึกเท่าไหร่ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นจากตอน 19.30 น.มีแค่ 3-4 คน จนถึงเวลา 22.30 น. มีมากถึง 15-16 คน
เอ (นามสมมติ) ชายวัยเบญจเพสคนหนึ่งเดินตามตื้อ พร้อมพยายามเรียกให้สนใจ เราจึงได้ลองเข้าไปพูดคุยด้วยจึงได้รู้ว่าเพิ่งมาขายบริการได้เพียงเดือนเดียว
เอมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีงานทำ แต่รายได้จากงานประจำนั้นไม่เพียงพอที่จะใช้ชีวิตในเมืองกรุงเช่นนี้ จึงต้องออกมาหาอาชีพเสริมคือการขายบริการ แม้จะเสี่ยงโดนตำรวจจับก็ยอมทำ ส่วนค่าตัวนั้นครั้งละเท่าไหร่ก็แล้วแต่จะตกลงกันตามลักษณะการร่วมประเวณี
“มาทำกับเพื่อนด้วยกัน เพื่อนบางคนก็ทำงานแบบนี้จนเรียนจบมหาวิทยาลัยก็มี สำหรับผมวันหนึ่งแค่คนหรือสองคนที่ใช้บริการผมก็อยู่ได้แล้ว” นายเอ กล่าว
“ส่วนเรื่องป้องกันนี้ต้องป้องกันตัวตลอด เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครผ่านใครมาบ้าง ทุกอย่างมันมีความเสี่ยง”
เดินไปไม่ไกลนักก็เจอชายรูปร่างกำยำล่ำสันอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาโอบไหล่อย่างเป็นกันเองพร้อมชวนให้ไปหลับนอนด้วย บี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ทำงานใช้แรงงานได้วันละสองร้อยบาท เมื่อเงินไม่พอกับค่าใช้จ่าย เขาจำต้องมาขายบริการที่นี่
ที่น่าประหลาดใจ คือ ทั้งเอและบีเป็นชายแท้และมีแฟนแล้ว…!
“ผมชายแท้นะ มีแฟนแล้วด้วยแต่แฟนไม่รู้ ถามว่า หนักใจไหม…หนักใจนะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินใช้” นายเอเผย
“จุ๊ๆๆ อย่าบอกให้แฟนผมรู้นะว่าผมมาทำอะไรอย่างนี้ ตลอดหนึ่งปีที่ผมมาทำงานนี่แฟนผมไม่เคยรู้เลย” นายบีกล่าว
เป็นที่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถหาข้อมูล "โสเภณีจิ๋ว" ที่พบเจอก่อนหน้านี้ได้ เนื่องจากเด็กดังกล่าวได้หายไปกับรถยนต์คันหนึ่ง และจากเฝ้าสังเกตการณ์ที่ม้านั่งในบริเวณนั้น ก็พบมีทั้งลูกค้าที่เดินไปมา ลูกค้าที่มากับรถยนต์ส่วนตัว หรือลูกค้าที่มากับรถแท็กซี่เพื่อมาซื้อบริการผู้ชายขายน้ำเหล่านี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิอิสรชน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงเรื่องราวของเด็กๆเหล่านั้นว่า บางคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ และไม่ได้มีแค่เด็กเร่ร่อนเท่านั้น แต่มีทุกระดับชนชั้น บางคนครอบครัวมีอันจะกิน บางคนบ้านรวยก็มี ที่มาของเด็กเหล่านี้ก็หลากหลาย บ้างก็สมัครใจมาเอง บ้างก็มากับเพื่อน บ้างมีแม่เล้าพามาส่งถึงสนามหลวง
“เด็กพวกนี้เขาชอบอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม ไม่ค่อยเปิดรับพวกเราเท่าไหร่ บางครั้งข้อมูลที่ให้ทางมูลนิธิมาก็ไม่เป็นความจริง” เจ้าหน้าที่มูลนิธิอิสรชนเผยอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
แต่หากพิจารณาจากทั้งป้าที่ขายบริการแถวคลองหลอด พี่ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนที่สวนสราญรมย์ ต่างมาที่นี่เพื่อ ‘หาเงิน’ ยังชีพ เพราะเงินที่ได้ในแต่ละวันยังไม่พอกับค่าใชจ่ายในเมืองกรุง พวกเขาจึงยอมทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะเห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามีสื่อหลายแขนงให้ความสนใจนำเสนอตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ภาพที่เกิดขึ้นจริงในสังคมกลับยังวนเวียนวกมาจุดเดิมให้เห็นจนกลายเป็นภาพชินตาของผู้ผ่านไปผ่าน...
ติดตามสกู๊ปชีวิตข้างถนน (ตอนจบ) : ทางออกบนถนนสีเทา วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมนี้
อ่านสกู๊ปที่เกี่ยวข้อง
ชีวิตข้างถนน (1) : ทางเลือกของเขาที่เราไม่รู้
ชีวิตข้างถนน (2) : เมื่อเขาออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ