กปปส. เตรียม ดาวกระจาย เผด็จศึก
แหล่งข่าวจาก กปปส.ขยายความถึงแผนเผด็จศึกของ กปปส. ว่า วันสำคัญที่สุดจะเริ่มตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 13 พ.ค. ซึ่งวันนั้น ทาง กปปส.คงย้ายเวทีจากสวนลุมพินีไปปักหลักที่ถนนราชดำเนิน และจะเริ่มปฏิบัติการ "ปฏิวัติโดยประชาชน" ในวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีแผน "ดาวกระจาย" ไปในสถานที่สำคัญต่างๆ
ทั้งนี้ที่เลือกวันที่ 14 เม.ย. เพราะคาดว่าในช่วงนั้นศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)จะมีคำวินิจฉัยในคดีของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมา คือ คดีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี และคดีจำนำข้าว ที่นายกฯถูกกล่าวหาว่าละเว้นยับยั้งการทุจริตจนก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งทาง กปปส. มั่นใจว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะสามารถปิดเกมที่ยืดเยื้อมานาน 6 เดือนได้
"สถานการณ์หลังจากนี้จะกดดันไปที่กองทัพโดยตรง เพราะนอกจากมวลชน กปปส.ที่ยกระดับการชุมนุม อีกฝั่งหนึ่งคือคนเสื้อแดงก็จะออกมาเหมือนกัน คราวนี้กองทัพคงต้องขยับแน่ เพียงแต่ว่าจะขยับอย่างไรเท่านั้น ครั้งนี้เกมต้องจบ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นการจบชั่วคราว ในระยะยาวก็ยังต้องสู้กันต่อไป" แหล่งข่าวจาก กปปส.วิเคราะห์
สำหรับวันเลือกตั้ง 20 ก.ค.ที่ กกต.และรัฐบาลร่วมกันกำหนดนั้น จากการสำรวจท่าทีทั้งในส่วนของ กปปส.พรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายรัฐบาลเอง มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เป็นไปได้ยากที่จะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเดินเข้าสู่จุดที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะเกิดความรุนแรง และมีการวิเคราะห์กันว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อปี 2549 คือ ทหารออกมายึดอำนาจ หรือถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ก็คงไม่สำเร็จ ไม่สามารถเปิดสภา ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.
สำหรับความเคลื่อนไหวในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ บอกว่า แม้ว่าตอนนี้จะดูเหมือนแนวทางที่จะมีการดำเนินการตามข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ จะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ถือว่ายังไม่จบ เกมนี้จะจบก็ต่อเมื่อนายอภิสิทธิ์ เปิดข้อเสนอออกมา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันเสาร์นี้ แล้วทั้งรัฐบาล และ กปปส.ปฏิเสธ ซึ่งถ้าถึงจุดนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็คงแถลงว่าไม่เข้าร่วมการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งวันที่ 20 ก.ค. ก็คงจะซ้ำรอยเมื่อวันที่ 2 ก.พ. คือ ถูกขัดขวางการเลือกตั้ง และทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือ อีกด้านก็มีการมองไปที่บทบาทของทหารว่าจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้หรือไม่ อย่างไร
ขอบคุณข่าวจาก