ภารกิจหลัก“ถวิล เปลี่ยนศรี”กับเวลา 5 เดือน ในตำแหน่งเลขาฯสมช.
“เท่าที่ทราบมางานในสมช.หลายด้านไม่เดินเลย เพราะพล.ท.ภราดรมัวทำงานสนองการเมือง ไม่ได้คิดว่าภัยความมั่นคงมีหลายมิติ สมช.ในฐานะฝ่ายนโยบายควรเกาะติดสถาณการณ์ทั้งหมด ทั้งภัยความมั่นคงทางเทคโนโลยี ความมั่นคงชายแดนทั้งประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผมจึงต้องเข้าไปทำให้งานด้านความมั่นคงทุกงานเดินหน้า”
ในที่สุด “ถวิล เปลี่ยนศรี” ก็กลับมาผงาดใน “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” (สมช.) อย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง ภายหลังที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยอมทำตามคำสั่ง “ศาลปกครองสูงสุด” ให้คืนตำแหน่งให้กับ “ถวิล”
โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 มีพระบรมราชโองการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีและเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 30 กันยายน 2557
เมื่อ “ถวิล” กลับมาคุมสมช. หลากหลายคำถามพุ่งเป้าไปยัง “ถวิล” โดยเฉพาะจะนำพาสมช.ไปในทิศทางไหน ภายในระยะเวลา 5 เดือน ก่อนจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2557
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมข้อมูลที่ "ถวิล" เคยระบุว่าเพื่อพูดคุยทิศทาง-การทำงาน-แนวปฏิบัติ ของ “ข้าราชการสมช.” มานำเสนอ
“ถวิล” เปิดฉากเล่าว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการสมช.ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในยุคของพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คนที่เป็นลูกหม้อสมช.ก็ควรได้รับการดูแลที่ดี
เป้าหมายหลักที่ “ถวิล” ต้องการให้ความเป็นธรรมคืนคือ “สมเกียรติ บุญชู” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสมช. ก่อนโดน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” เด้งเข้ากรุ
“ผมอยากให้คุณสมเกียรติกลับมาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ คุณสมเกียรติดูแลปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ดี ผมอยากให้คุณสมเกียรติกลับมาทำงานที่สมช. แต่ติดอยู่ที่ว่าต้องได้รับการอนุมัติจากครม. ก็ต้องดูว่าจะย้ายมาได้ในช่วงไหน” ถวิล กล่าว
ส่วนทีมงานของ “พล.ท.ภราดร” ที่มาช่วยงานในสมช.ทั้งทำหน้าที่หน้าห้อง-งานธรุการ-งานภาคใต้ มีเกือบ 20 คน ซึ่งจับตาดูว่า “ถวิล” จะดำเนินการอย่างไร
“คนที่ติดซอยห้อยท้ายพล.ท.ภราดร ข้ามห้วยมาจากกองทัพ ก็ต้องส่งเขากลับเข้ากรมกอง ผมไม่ได้ใจร้าย แต่มันต้องเป็นตามกฎระเบียบ ธรรมเนียมปฏิบัติ” ถวิล กล่าว
ทว่าในรายที่ยากที่สุดคงหนีไม่พ้น “พล.ท.พงศกร รอดชมภู” ที่ “พล.ท.ภราดร” เอามาช่วยดูแลงานภาคใต้ นั่งในตำแหน่งรองเลขาธิการสมช.
“การย้ายพล.ท.พงศกรคงทำได้ยากหน่อย เพราะจะใช้อำนาจของผมย้ายเลยไม่ได้ เพราะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมครม. จึงต้องรอให้มีครม.ก่อน แล้วผมค่อยพิจารณาอีกที” ถวิล กล่าว
“ถวิล” เล่าต่อว่า “แม้ผมจะมีเวลา 5-6 เดือน แต่อยากเข้าไปปรับเปลี่ยนหลายอย่างให้มันเข้ารูปเข้ารอย ทำงานให้เดินหน้ากันได้ ไม่ใช่ทำแต่สิ่งที่รัฐบาลอยากให้ทำ สมช.ต้องทำเพื่อเสนอรัฐบาล ไม่ใช่ให้รัฐบาลมาเสนอแล้วจึงทำ”
“โดยเฉพาะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผมคงไม่เดินแนวทางพูดคุยสันติภาพต่อ จึงได้พูดคุยกับพรรคพวกแล้วว่าจะทำอย่างไร จะเดินหน้าแก้ปัญหากันอย่างไร”
นอกจากนี้ “ถวิล” มีข้อมูลจากในยุคของ “พล.ท.ภราดร” งานด้านความมั่นคงอื่น ที่นอกเหนือจากปัญหาการเมืองและปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แทบหยุดชะงักงัน
“เท่าที่ทราบมางานในสมช.หลายด้านไม่เดินเลย เพราะพล.ท.ภราดรมัวทำงานสนองการเมือง ไม่ได้คิดว่าภัยความมั่นคงมีหลายมิติ สมช.ในฐานะฝ่ายนโยบายควรเกาะติดสถาณการณ์ทั้งหมด ทั้งภัยความมั่นคงทางเทคโนโลยี ความมั่นคงชายแดนทั้งประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผมจึงต้องเข้าไปทำให้งานด้านความมั่นคงทุกงานเดินหน้า” ถวิล กล่าว
“ถวิล” เน้นย้ำไปที่งานความมั่นคงแนวชายแดน ซึ่งระยะหลังขาดทิศทางในการดำเนินการ จนมีปริมาณชาวโรฮิงญา-มุสลิมอุยกูร์ เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยมามาย
สุดท้าย “ถวิล” ทิ้งท้ายว่า “ผมต้องวางรากฐานของสมช.ที่ต้องทำงานเพื่อประเทศให้แข็งแรงที่สุด”