กกต.เตรียมรับรองผล ส.ว.เลือกตั้งอีก 15 จังหวัด
กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยผลหารือแนวทางจัดการเลือกตั้ง โดยระบุว่ามีอุปสรรค 13 ข้อในการจัดการเลือกตั้ง ขณะที่วันนี้ (28 เม.ย.57) กกต. เตรียม ประกาศรับรองผล ส.ว.เลือกตั้ง ที่เหลืออีก 15 จังหวัด ที่ถูกร้องคัดค้าน เนื่องจากต้องเร่งประกาศให้ครบก่อน 30 วันตามกฎหมาย
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.เปิดเผยถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.ว่า ขณะนี้ กกต. รับรองผลไปแล้ว 62 จังหวัด เหลืออีก 15 จังหวัดต้องสอบข้อร้องเรียน โดยวันนี้ (28 เม.ย.57) กกต. จะประชุมเพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนอีกครั้ง หากพิจารณาไม่ทันต้องประกาศรับรองผลไปก่อน เพราะจะครบกำหนด 30 วัน หลังการเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว หลังประกาศรับรองแล้ว กกต. ยังมีเวลาอีก 1 ปี เพื่อสอบข้อร้องเรียนต่างๆให้เสร็จ
ส่วนความคืบหน้าการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 - 27 เม.ย.57 ที่ผ่านมา กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้ประชุมเพื่อหาแนวทางจัดเลือกตั้ง ส.ส. ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.57 โดยได้ตั้งโจทย์ 13 ข้อ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอแนวทางแก้ไข
เช่น จะทำอย่างไรให้การรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และจับหมายเลขประสบความสำเร็จ มีวิธีการอย่างไรเพื่อให้การรับสมัคร ส.ส.เขต ทั้ง 375 เขต ประสบความสำเร็จ และในวันเลือกตั้ง หากมีการขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้กรรมการไม่สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ได้ ขัดขวางไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ และการขัดขวางในระหว่างการนับคะแนน จะมีแนวทางการจัดการที่เหมาะสมอย่างไร
สำหรับแนวทางที่ได้จากการหารือ จะเสนอในที่ประชุม กกต.วันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) ก่อนที่จะไปหารือเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย.
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กกต.จะหารือกับรัฐบาลในวันที่ 30 เม.ย. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองส่วนใหญ่เคยทำหนังสือถึง กกต.ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายในกรอบ 60 วัน ดังนั้นขอให้ กกต.ทบทวนข้อเสนอพรรคการเมืองในประเด็นนี้ด้วย
เพราะในส่วนที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 20 ก.ค.นั้น เป็นเพียงข้อเสนอของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ดังนั้น การขยับวันเลือกตั้งให้เร็วขึ้นไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมือง แต่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ เพราะวิกฤตการเมืองขณะนี้ต้องแก้ด้วยการเลือกตั้ง
ขอบคุณข่าวจาก