เครือข่ายอาสาสมัครเเพทย์ฯ จี้รัฐบาล-ศอ.รส.เลิกคุกคามการทำงานองค์กรอิสระ
วันที่ 21 เมษายน 2557 เครือข่ายอาสาสมัครทางการเเพทย์เพื่อการปฏิรูปประเทศ ออกเเถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนเเรงเเละการข่มขู่คุกคาม ใจความว่า...
จากพฤติกรรมของรัฐบาลรักษาการนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยไม่ยอมรับการตัดสินขององค์กรอิสระที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญครั้งแล้วครั้งเล่า และล่าสุดรัฐบาลรักษาการยังคงแสดงออกในการไม่ยอมรับอำนาจหน้าที่และการตรวจสอบขององค์กรอิสระได้แก่ศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) อีกทั้งเมื่อมีกลุ่มบุคคลแสดงการข่มขู่ คุกคาม องค์กรอิสระเหล่านี้ แทนที่รัฐบาลรักษาการจะควบคุม ห้ามปรามการกระทำดังกล่าว กลับเพิกเฉย ละเลย มิหนำซ้ำยังสนับสนุนให้ศอ.รส.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาลรักษาการ ออกแถลงการณ์กดดันการทำงานขององค์กรอิสระให้ตัดสินตามความต้องการของฝ่ายบริหารอันเป็นการก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ และเป็นการลุแก่อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม
อีกทั้งมีการข่มขู่ คุกคาม ได้ลุกลามไปถึงข้าราชการ บุคลากรและประชาชนผู้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความชอบธรรม ตั้งแต่เหตุยิงระเบิด M79 เข้าใส่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อข่มขู่คุกคามต่อบุคลากรของโรงพยาบาล ผู้ป่วย และญาติ อันเป็นการก่อเหตุความรุนแรงที่พุ่งเป้าต่อสถานพยาบาลโดยไม่คำนึงถึงหลักปฏิบัติที่เป็นสากลที่ถือว่าสถาน พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นผู้ให้การดูแลรักษาประชาชนทุกฝ่าย แม้ในยามศึกสงครามก็ยังไม่มีการโจมตีหน่วยรักษาพยาบาล แต่กลับมีการยิงระเบิดไปที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพียงเพราะผู้อำนวยการโรงพยาบาลนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนและกล้าหาญในการปกป้องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เคียงข้างมวลมหาประชาชน
และล่าสุดเกิดเหตุการณ์ลอบยิงระเบิด M79 โดยมุ่งเป้าหมายที่บ้านพักของปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อคืนวันที่ 20 เมษายน 2557 เพื่อมุ่งเอาชีวิตปลัดณรงค์ เพียงเพราะปลัดณรงค์ได้ประกาศท่าทียืนหยัดในความถูกต้อง เคียงข้างมวลมหาประชาชนและชาวสาธารณสุข ในการขับไล่รัฐบาลที่ฉ้อโกง และยืนยันให้รัฐบาลรักษาการลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมุ่งข่มขู่ปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงกระทรวงอื่นๆที่กำลังจะตีตนออกห่าง ตลอดจนมุ่งทำลายขวัญข้าราชการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พฤติกรรมการข่มขู่ คุกคาม และลอบทำร้ายเช่นนี้เป็นพฤติกรรมของอันธพาลที่ไม่อาจยอมรับได้ ประชาชนทุกฝ่ายต้องได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยตามกฎหมายไม่ใช่ถูกคุกคามโดยที่ไม่มีวี่แววว่าจะสามารถนำคนผิดมาลงโทษได้
เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์เพื่อการปฏิรูปประเทศ อันประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ 9 แห่ง เครือข่ายองค์กรวิชาชีพสุขภาพ ชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเอกชน อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย และอาสาสมัครวิชาชีพสุขภาพ จึงมีมติร่วมกันดังนี้
1.ขอยกย่อง ชื่นชมและให้กำลังใจ พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในความกล้าหาญ เสียสละ และยึดมั่นในการยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างประชาชนไทย เพื่อปกป้องชาติ และราชบัลลังก์
2. ขอให้รัฐบาลรักษาการและศอ.รส.ออกมาแสดงความรับผิดชอบในการจับตัวคนผู้กระทำผิดในกรณีข่มขู่คุกคาม พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา และ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ มาลงโทษโดยเร็ว รวมทั้งออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่ารัฐบาลรักษาการ และ/หรือ ศอ.รส. ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว
3.ขอประณามการ ข่มขู่ คุกคาม และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อประชาชนและข้าราชการผู้บริสุทธิ์ทุกหมู่เหล่าที่ออกมาแสดงสิทธิเสรีภาพในการปกป้องประเทศชาติตามสิทธิพลเมืองแห่งรัฐธรรมนูญ อีกทั้งขอเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงต่างๆได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการป้องปรามและป้องกันการกระทำดังกล่าวโดยทันที
4. ขอประณามการกระทำต่างๆของกลุ่มบุคคลที่ ข่มขู่ คุกคาม พยายามแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระ และการใช้อาวุธสงครามในการคุกคามองค์คณะในองค์กรอิสระ อีกทั้งขอเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงต่างๆได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการป้องปรามและป้องกันการกระทำดังกล่าวโดยทันที
5.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการและศอ.รส.เลิกคุกคามและก้าวก่ายการทำงานขององค์กรอิสระ และป้องปรามกลุ่มบุคคลที่พยายามสร้างความขัดแย้งกับองค์กรอิสระ อันจะนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นได้ในอนาคต
ทั้งนี้เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์เพื่อการปฏิรูปประเทศ ขอยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ และประชาชนไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เทิดทูนสักการะยิ่งตลอดไป .