ผบ.ทบ.เต้นบันนังสตาเดือด สั่งแม่ทัพลงพื้นที่เคลียร์ขัดแย้ง-คุมอาวุธปืน
"ประยุทธ์"เต้น "บันนังสตา"ระอุฆ่ารายวันไม่เว้นเด็กเล็ก สั่งแม่ทัพภาค 4 จัดวงถกทุกกลุ่มที่ขัดแย้งในท้องถิ่นหวังสร้างความเข้าใจ คนผิดให้มอบตัวสู้คดี พร้อมกำหนดมาตรการควบคุมอาวุธปืนทุกประเภท ด้าน "วลิต" ลงพื้นที่ทันควัน ได้เค้า 2 กลุ่มเปิดศึก เล็งประสานผู้นำศาสนาเป็นคนกลางเจรจา สถานการณ์ในพื้นที่ยังเดือด ยิงผู้เฒ่าสังเวยอีกศพ
ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งให้แม่ทัพภาคที่ 4 แก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ภายหลังเกิดเหตุการณ์สังหารประชาชน 2 เหตุการณ์ซ้อน และมีเด็กเล็กต้องสังเวยชีวิต คือ เหตุคนร้ายยิง นายมุกตาร์ อาลีมามะ เสียชีวิตพร้อมลูกชาย คือ ด.ช.ลุกมาน อภิบาลแบ อายุ 6 ขวบ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. และกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบิดา มารดาของ นายอัลดุลฮากีม ดาราเซะ อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.บันนังสตา เสียชีวิตพร้อม ด.ญ.นูรอีมาน ดาราเซะ วัยเพียง 2 ขวบ และ ด.ช.สุไลมาน ขอสวัสดิ์ อายุ 12 ปีได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.2557 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ได้กล่าวในที่ประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ถึงกรณีเหตุลอบยิงประชาชน 2 เหตุการณ์ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ว่า เครือข่ายแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจชูประเด็นนี้เพื่อปลุกกระแสจนนำไปสู่การก่อเหตุแก้แค้นต่อเป้าหมายอ่อนแอและเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ระหว่างคนทั้งสองศาสนา
ดังนั้นเบื้องต้นจึงได้สั่งการให้ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 เชิญทุกกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันภายในท้องถิ่นเข้ามาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง เพื่อให้มอบตัวต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับกำหนดมาตรการควบคุมอาวุธปืนทุกประเภทอย่างเป็นรูปธรรม โดยรวมเข้ากับระบบฐานข้อมูลอาวุธปืนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และให้หน่วยงานนำยุทโธปกรณ์พิเศษที่ได้รับมอบมา ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งเชิงรับและเชิงรุกให้สามารถแจ้งเตือนแนวโน้มการเกิดเหตุและติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายได้เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้ว
แม่ทัพ4เล็งเชิญผู้นำศาสนาเคลียร์ขัดแย้ง
วันเดียวกัน พล.ท.วลิต ได้เดินทางไปที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 อ.บันนังสตา พร้อมเรียกประชุมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.เกษม ธนาภรณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พ.ท.พิพัฒน์ ศรีทองพิมพ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้น้ำหนักการหารือเกี่ยวกับเหตุคนร้ายยิงครอบครัวของ นายอับดุลฮากีม ดาราเซะ อส.บันนังสตา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เม.ย. จนทำให้บิดา มารดา และหลานสาวของนายอับดุลฮากีมเสียชีวิต ส่วนหลานชายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในที่ประชุมมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความขัดแย้งของกลุ่มคน 2 กลุ่ม 2 ตระกูลที่ตอบโต้ล้างแค้นกันไปมาจนสร้างความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นจะต้องมีการจัดหาคนกลางหรือผู้นำศาสนาจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เข้าไปเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยด่วน
ผู้การยะลาคาดขบวนการโต้กลับ"อส.ฮากีม"
พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสะเทือนขวัญอีกเหตุการณ์หนึ่ง เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก อายุ 2 ขวบ หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย. ได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และต่อมาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา รวมทั้งชุดสืบสวนสอบสวน ให้เร่งตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ รวมทั้งให้ชุดสืบสวนหาข่าวสารของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดจากความไม่พอใจของฝ่ายขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน เพราะ นายอับดุลฮากีม ได้ถอนตัวออกจากขบวนการ และไปทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐในการติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ และอาจจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการระบุว่า นายอับดุลฮากีม และ น้องชายซึ่งเป็น อส. เป็นผู้ก่อเหตุยิงชาวบ้านในพื้นที่บันนังกูแว
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องนำฝ่ายของนายอับดุลฮากีม และอีกฝ่ายที่ไม่พอใจครอบครัวของนายอับดุลฮากีม มาพูดคุยกันเพื่อหาหนทางที่จะนำไปสู่ข้อยุติในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
สำหรับผู้เสียชีวิต 3 รายจากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถกระบะของครอบครัว อส.อับดุลฮากีม บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 หลักกิโลเมตรที่ 42 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา นั้น ประกอบด้วย นายดอรอแม ดาราเซะ อายุ 54 ปี นางอาอีเสาะ เฮงดาดา อายุ 49 ปี บิดากับมารดาของ อส.อับดุลฮากีม นอกจากนั้นยังมี ด.ญ.นูรอีมาน ดาราเซะ หลานสาววัย 2 ขวบด้วย ส่วน ด.ช.สุไลมาน ขอสวัสดิ์ อายุ 12 ปี หลานอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ
ยิงผู้เฒ่าบันนังสตาดับอีก
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันจันทร์ที่ 21 เม.ย. ร.ต.ท.บัณฑิต ซาดา พนักงานสอบสวน สภ.บันนังสตา รับแจ้งจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลบันนังสตาว่า มีผู้ถูกยิงเข้ารับการรักษาและเสียชีวิต จึงได้นำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาติชาย ชนะสิทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล พบว่าผู้ตายคือ นายสะมะแอ ยีแวเงาะ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 6 บ้านบือซู ต.บันนังสตา สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามตามลำตัวหลายแห่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางต่อไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าอยู่บริเวณหน้ากุโบร์ (สุสาน) บ้านบือซู พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน กษว 176 ยะลา ล้มอยู่ข้างถนน พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 นับสิบปลอก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสะมะแอ ยีแวเงาะ ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันที่พบในที่เกิดเหตุ ออกจากร้านน้ำชาในหมู่บ้านเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันตามประกบ เมื่อสบโอกาสคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจนรถจักรยานยนต์ของนายสะมะแอล้มคว่ำตกข้างทาง คนร้ายเตรียมจอดรถเพื่อลงไปยิงซ้ำ แต่เผอิญมีรถกระบะของชาวบ้านขับผ่านมา จึงได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนนายสะมะแอแม้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็อาการสาหัส และไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารว่าเป็นปมขัดแย้งส่วนตัวหรือการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ อ.บันนังสตา
2 แม่ทัพประชุมเครียดที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15
3 รถจักรยานยนต์ของ นายสะมะแอ ยีแวเงาะ ผู้เฒ่าวัย 63 ปี เสียหลักคว่ำตกข้างทางหลังถูกคนร้ายประกบยิงที่บันนังสตา
ขอบคุณ : ปัญญา ทิ้วสังวาลย์ ผู้สื่อข่าวสายทหารเครือเนชั่น เอื้อเฟื้อข่าวส่วนที่เกี่ยวกับ ผบ.ทบ.