เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาไขปม"วิฑูร กรุณา" จงใจไม่แจ้งทรัพย์สิน!
พลิกคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ไขปม "วิฑูร กรุณา" ที่ปรึกษารมว.วัฒนธรรม ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. 2 ครั้ง ยกเหตุ“เป็นเรื่องเข้าใจผิด”น้ำท่วม ไฉน!ฟังไม่ขึ้น
กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่านายวิฑูร กรุณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.54 เป็นวันพ้นจากตำแหน่ง และสั่งจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี
ทั้งนี้ นายวิฑูรได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป.ป.ช. กรณีรับตำแหน่ง แต่มิได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง 10 สิงหาคม 2554 และมิได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯตอนพ้นตำแหน่งแล้ว 1 ปีด้วย ป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งเตือนถึง 6 ครั้งแต่นายวิฑูรเพิกเฉย
คดีนี้นายวิฑูร (ผู้คัดค้าน) ต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. อ้างว่า เป็นความเข้าใจผิดระหว่างนายวิฑูร กับนางสาวมลฤดี ณิชากรพงศ์ ผู้ได้รับมอบหมายให้ยื่นบัญชีฯ
ต่างฝ่ายต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้ยื่นบัญชีฯแล้วประกอบกับเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นนทบุรี ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยก่อนและอาคารสำนักงานก็ถูกน้ำท่วมไม่สามารถค้นหาเอกสารต่างๆได้
ศาลได้พิเคราะห์ว่าข้อชี้แจงของนายวิฑูรไม่ฟังขึ้น และเห็นว่าจงใจไม่แสดงบัญชีฯต่อ ป.ป.ช.
ศาลได้ใช้ดุลพินิจดังนี้
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้าน จงใจไมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งมาแลวเป็นเวลาหนึ่งปีหรือไม่
เห็นว่า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นข้าราชการการเมืองตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔ (๑๐) และเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔ มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง เมื่อเข้ารับตําแหน่ง เมื่อพ้นจากตําแหน่ง และเมื่อพ้นจากตําแหน่ง มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ผูคัดค้านเข้ารับตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ และพ้นจากตําแหน่งแล้ว จึงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
พร้อมเอกสารประกอบของตน คูสมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในกําหนดระยะเวลา ตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่แก้ไข มาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ แต่ผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ทั้ง ๆ ที่ผู้คัดค้านเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบกรณี เข้ารับตําแหน่งมาแล้ว อันเป็นการแสดงว่าผู้คัดค้าน ทราบว่าเมื่อพ้นจากตําแหน่งทั้งสองกรณีแล้วตนมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบตามที่กฎหมายกําหนด
และปรากฏว่าเมื่อผู้ร้องตรวจพบการกระทําดังกล่าว ผู้ร้องได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้คัดค้านชี้แจงเหตุผล ของการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบทั้งสองกรณี กรณีละ ๓ ครั้ง
โดยหนังสือแจ้งเตือนฉบับแรกลงวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๕ และฉบับสุดท้ายลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๖ทุกครั้งกําหนดให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงภายในระยะเวลา ที่กําหนด
โดยครั้งสุดท้ายกําหนดให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ มิฉะนั้นจะดําเนินการตามกฎหมาย มีผู้รับหนังสือไว้แทนผู้คัดค้านในวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖
ผู้คัดค้านยื่นคําชี้แจงต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดระหว่างตน กับบุคคลที่ตนมอบหมายให้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแทน ที่ต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายยื่นแล้ว ตามเอกสารทายคํารองหมาย ร.๑๔ เป็นข้อเท็จจริงและเหตุผลเดียวที่ผู้คัดค้านยกขึ้นเป็นข้ออ้างว่า ไม่จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย
ซึ่งขณะยื่นคําชี้แจงดังกล่าวล่วงเลยเวลาเกิดเหตุอุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อประมาณเดือนกันยายนถึงธันวาคม ๒๕๕๔ มาแล้ว แต่ผู้คัดค้านก็หาได้ยกเหตุอุทกภัยขึ้นเป็นข้อแก้ตัว อีกเหตุหนึ่งในชั้นชี้แจงต่อผู้ร้องด้วย แสดงว่า เหตุดังกล่าวแม้จะเกิดขึ้นจริงอันเป็นเหตุให้น้ำท่วม สํานักงานของผู้คัดค้านซึ่งตั้งอยู่จังหวัดนนทบุรี และผู้คัดค้านต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ประสบภัยก่อน ตามที่ให้การก็ตาม ก็เป็นเหตุชั่วคราวเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หาใชเหตุถาวรหรือเป็นอุปสรรคสําคัญ สําหรับผู้คัดค้านที่จะยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตําแหน่ง ทั้งสองกรณีแต่อย่างใด
มิฉะนั้นแล้วผู้คัดค้านก็คงถือเอาเหตุดังกล่าวเป็นข้อขัดข้องที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ขึ้นชี้แจง ต่อผู้ร้องในโอกาสแรกแล้ว
แต่ด้วยเหตุที่ผู้คัดค้านปล่อยเวลาให้ช่วงเลยมานาน โดยกรณีพ้นจากตําแหน่ง ล่วงพ้นเวลากว่า ๕๐๐ วัน สวนกรณีพ้นจากตําแหน่งครบ ๑ ปี เกินเวลากว่า ๓๐๐ วัน จึงเป็นเหตุให้ผู้คัดค้าน ไม่ยกเหตุอุทกภัยขึ้นกล่าวอ้างในชั้นชี้แจงต่อผู้รองเพราะเห็นว่าเป็นการไม่สมเหตุผลเสียยิ่งกว่าจะเป็นจริง ตามที่ผู้คัดค้านให้การ คําให้การของผู้คัดค้านในข้อนี้จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ควรแก่การรับฟัง
ที่ผูคัดค้านยื่นคําให้การอ้างว่า เหตุที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบชักช้าเนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้คัดค้าน โดยผู้ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้ ได้จัดเตรียมเอกสารให้ผู้คัดค้านลงลายมือชื่อไว้แล้ว
แต่ให้ผู้คัดค้านจัดหาเอกสารเพิ่มเติมบางอย่าง เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยเป็นเหตุให้ผู้คัดค้านต้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยก่อน ประกอบกับยังไม่สามารถ ค้นหาเอกสารต่าง ๆ ได้เนื่องจากสํานักงานของผู้คัดค้านถูกน้ำท่วมด้วย และใช้เป็นที่พักชั่วคราว ของผู้ประสบภัยนั้น นอกจากผู้คัดค้านจะไม่ได้ยกเหตุดังกล่าวขึ้นกล่าวอางเป็นเบื้องต้นในชั้นชี้แจงต่อผู้ร้องแล้ว ยังเปนข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ไม่ตรงกับรูปเรื่องที่ผู้คัดค้านชี้แจงต่อผู้ร้อง ซึ่งอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดระหว่างผู้คัดค้านกับผู้ได้รับมอบหมายที่ต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งยื่นแล้วจึงเป็นการเพิ่มเติมข้ออ้างและเหตุผลที่ไม่ลงรอยกับข้อเท็จจริงและเหตุผลเดิม ไมมีน้ำหนักควรแก่การรับฟง เช่นกัน
ที่ผู้คัดค้านยื่นคําใหการอ้างอีกเหตุหนึ่งว่า หนังสือที่ผู้ร้องสงไปยังผู้คัดค้านทั้งหกฉบับตามที่อยู่ ที่ผู้ร้องสงเอกสารไปนั้น ผู้คัดค้านได้ย้ายออกจากบ้านดังกล่าวหลังเกิดเหตุอุทกภัยไปอยู่ที่แห่งใหม่แล้ว
เป็นทํานองว่าผู้คัดค้านไม่เคยได้รับหนังสือ นั้น เห็นว่าหนังสือดังกล่าวทุกฉบับที่ผู้ร้องส่งไปยังผู้คัดค้านนั้น เปนผลมาจากเหตุที่ผู้คัดค้าน ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพยสินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบเมื่อพ้นจากตําแหน่งภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด ผู้ร้อง จึงต้องการทราบข้อเท็จจริงและเหตุผลที่ผู้คัดคานไม่ดําเนินการตามที่กฎหมายกําหนด เพื่อที่ผู้ร้อง จะได้พิจารณาและวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สินพร้อมเอกสาร
ประกอบกรณีพ้นจากตําแหน่งทั้งสองกรณีหรือไม่ ไม่ใช่เปนหนังสือแจ้งเตือนเพื่อให้โอกาสผู้คัดค้าน ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบแต่อย่างใด
ดังนี้ แม้ผู้ร้องจะมีหนังสือเตือน ให้ผู้คัดค้านชี้แจงเหตุผลหรือไม่ก็ตาม ผู้คัดค้านก็มีหน้าที่จะตองยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบต่อผู้รองตามที่กฎหมายกําหนด ซึ่งผู้คัดค้านก็ทราบดีอยู่แล้ว คําให้การผู้คัดค้านข้อนี้ จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรวินิจฉัย
ปัญหาสุดท้ายมีว่า เหตุผลที่ผู้คัดค้านยกขึ้นชี้แจงต่อผู้ร้องว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดระหว่างผู้คัดค้านกับนางสาวมลฤดี ณิชากรพงศ์ ผู้ได้รับมอบหมายจากผู้คัดค้านให้ดําเนินการแทน โดยต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ได้ดําเนินการแล้วนั้นฟังขึ้นหรือไม่
เห็นว่า เมื่อผู้คัดค้านจะต้องลงลายมือชื่อในบัญชีและเอกสารประกอบ มอบหมายให้นางสาวมลฤดีไปดําเนินการแทนแล้ว ก็เท่ากับได้มอบอํานาจให้นางสาวมลฤดีให้นําบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบไปยื่นต่อผู้ร้องแต่ผู้เดียวโดยผู้คัดค้าน ไม่ต้องดําเนินการด้วยตนเอง ย่อมไม่มีเรื่องที่แต่ละฝ่ายจะต้องเข้าใจผิดระหว่างกันแต่อย่างใด จึงเป็นข้ออ้าง ที่ไม่สมเหตุผล
ทั้งการที่ผู้คัดค้านได้ลงนามในเอกสารให้นางสาวมลฤดี ไปดําเนินการแทนกับมอบอํานาจ ให้นําบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบไปยื่นต่อผู้ร้องในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖ แสดงว่าผู้คัดค้านกับนางสาวมลฤดีมีการติดต่อและทํางานร่วมกันมาโดยตลอด
ผู้คัดค้านจึงต้องสนใจติดตาม และสอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวเพื่อป้องกัน การหลงลืม เพราะการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง เป็นเรื่องสําคัญยิ่ง หากไม่ยื่นภายในเวลาที่กฎหมายกําหนดผู้คัดค้านอาจถูกดําเนินคดีและมีผลกระทบ ต่อสิทธิทางการเมืองของผู้คัดค้านอีกด้วย
ข้ออ้างความเข้าใจผิดว่านางสาวมลฤดีได้ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องแล้ว จึงเป็นข้ออ้างที่เลื่อนลอยและไม่มีน้ำหนักใหัรับฟัง
เมื่อปรากฏว่า ผู้คัดค้านยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖ และพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นการพ้นเวลาตามที่กฎหมายกําหนด พฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่าผู้คัดค้านไม่ใส่ใจต่อหน้าที่อันสําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองที่จะต้องปฏิบัติในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบดังกล่าว ซึ่งเป็นมาตรการที่กฎหมายบัญญัติเพื่อให้เกิดการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐ ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้คัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่ง มาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในตําแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และการกระทําของผู้คัดค้าน ยังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ด้วย
อนึ่ง เมื่อได้ความว่าผู้คัดค้านพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ และผู้ร้องมีมติว่า ผู้คัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ความปรากฏต่อผู้ร้อง จึงเป็นกรณีที่ผู้คัดค้านพ้นจากตําแหน่ง
ก่อนวันที่ความปรากฏต่อผู้ร้อง องค์คณะผู้พิพากษาฝ่ายข้างมากจึงเห็นว่า ระยะเวลาต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งห้าปีต้องเริ่มนับแต่วันพ้นจากตําแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๓๔ วรรคสอง อันเป็นวันพ้นตําแหน่งตามความเป็นจริง
พิพากษาว่า ผู้คัดค้าน มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ การกระทําของผู้คัดค้านเป็นความผิดสองกรรม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ให้จําคุกกระทงละ ๒ เดือน และ ปรับกระทงละ ๔,๐๐๐ บาท รวมให้จําคุก ๔ เดือน และปรับ ๘,๐๐๐ บาท
ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้าน เคยรับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ มีกําหนด ๑ ปีหากไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ และ ห้ามผู้คัดค้านดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองมีกําหนดห้าปีนับแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๔ วรรคสอง
หมายเหตุ: ภาพประกอบจาก google