พลิกปูม“บ.สิราลัย”โผล่สั่งจ่ายเช็คระบายข้าวจีทูจี“เก๊” กล่องดวงใจ“เสี่ยเปี๋ยง"?
พลิกปูม “บ.สิราลัย” ทำธุรกิจอสังหา โผล่ติดชื่อ 1 ใน 89 บิ๊กค้าข้าว สั่งจ่ายเช็คระบายจีทูจี“เก๊”กล่องดวงใจ“เสี่ยเปี๋ยง”ในสำนวนสอบ ป.ป.ช. -อภิมหาทุนธุรกิจ 2,200 ล้านบาท ประเดิมธุรกิจ โกยรายได้แค่ 1 ล้านเศษ ขาดทุนยับ 18 ล้าน
ในบรรดารายชื่อกรรมการบริษัทเอกชนค้าข้าว จำนวน 89 ราย ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา นอกเหนือจาก "เสี่ยเปี๋ยง" หรือ "นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร" และบริษัทสยามอินดิก้า ที่ปรากฎข้อมูลในสำนวนสอบสวนของ ป.ป.ช. ว่า บริษัทเอกชนรายใด ที่สนใจซื้อข้าวจากรัฐบาล จากกรณีนี้ จะต้องซื้อข้าวผ่านบริษัทสยามอินดิก้า แต่จะต้องสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คผ่านกรมการค้าต่างประเทศ ถึงจะมีสิทธิขนข้าวไปได้นั้น
นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการบริษัทสิราลัย จํากัด ถูกระบุเป็น 1 ในกรรมการบริษัทเอกชนค้าข้าว จำนวน 89 ราย ด้วย
ปูมหลังของเอกชนดังกล่าวมีดังนี้
ประการแรก นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร มีนามสกุลเดียวกับ “เสี่ยเปี๋ยง” หรือ “อภิชาติ จันทร์สกุลพร” อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และอดีตผู้ก่อตั้ง กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
ประการที่สอง บริษัท สิราลัย จำกัด จดทะเบียนวันที่ 5 มีนาคม 2555 ทุน 2,200,000,000 บาท แจ้งประกอบกิจการให้เช่าอาคารโรงงานที่พักอาศัยรวมปลูกสร้าง ไม่เกี่ยวข้องการธุรกิจเรื่องข้าว
ปรากฎชื่อนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นบริษัท มีสำนักงานออฟฟิศตั้งอยู่เลขที่เดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า คือ เลขที่ 48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร พบว่า ปรากฏชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท อย่างน้อย 5 แห่ง คือ
1. บริษัท ทีซี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ทุน 80 ล้านบาท ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและดำเนินการทางธุรกิจ
2. บริษัท ทีซี.แลนด์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 14 สิงหาคม 2555 ทุน 320 ล้านบาท ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ซื้อขายที่ดิน
3. บริษัท เท็นโอเวอร์เท็น จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ทุน 1,000,000 บาท ประกอบกิจการค้าผ้า เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับกาย เครื่องอุปโภค นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร ถือหุ้นอยู่ 4.99% (49,900 บาท) รายได้ปี 54 รวม 4,465,941.52 บาท ขาดทุนสุทธิ 4,261,216.69 บาท
4. บริษัท เบ็ทเทอร์ ทูเก็ตเตอร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 ตุลาคม 2554 ทุน 1,000,000 บาท ประกอบกิจการค้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับเสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า เครื่องหนังและเครื่องอุปโภค
5. บริษัท เอ แอนด์ เค เรียลเอสเตท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 สิงหาคม 2553 ทุน 1,000,000 บาท ประกอบกิจการให้เช่าอาคารโรงงาน ที่พักอาศัย นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร ถือหุ้น 80% (200,000 บาท ) แต่จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2555 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555
ทั้งนี้ บริษัท ทั้ง 5 แห่ง มีเพียงแค่ บริษัท เอ แอนด์ เค เรียลเอสเตท จำกัด ที่ตั้งอยู่เลขที่ 30 ซอยนาคนิวาส 13 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
ส่วนที่เหลือ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานบริษัทสยามอินดิก้า
ประการที่สาม บริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลง “ทุน” จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงจดทะเบียนตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2555 มีแค่ 1,000,000 บาท ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 1,200,000,000 บาท เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 และเพิ่มเป็น 2,200,000,000 บาท เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนของบริษัท สิราลัย ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เกิดขึ้นหลังจากที่ บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ และมีการตรวจพบว่า ตัวแทนบริษัทที่เข้ามาดำเนินการ คือ “รัฐนิธ โสติกุล” (“ปาล์ม” ) และ นายนิมล รักดี มีความเกี่ยวโยงกับ บริษัทสยามอินดิก้า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555 ก่อนที่จะมีการนำข้าวไปเร่ขายต่อให้กับโรงสี ตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบการจัดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สิราลัย จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก่อนหน้านี้ พบว่า ในช่วงการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแห่งนี้ ปรากฏชื่อ นางสาวสุธิดา จันทะเอ แจ้งใช้อีเมล์ลงท้ายด้วย “@siamindica.com” เป็นผู้แจ้งจองชื่อจัดตั้งบริษัท สิราลัย ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2555 ก่อนที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร จะแจ้งชื่อเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียว
ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท มีผู้ถือหุ้น 4 ราย คือ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ถือหุ้นจำนวน 8,000 หุ้น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถือหุ้น 1,900 หุ้น นายธนทัต จันทร์สกุลพร ถืออยู่ 99 หุ้น นางสาวสุธิดา จันทะเอ ถืออยู่1หุ้น. จากทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็น 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 2 มีนาคม 2555 แยกเป็นนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร 200,000 บาท นายสรวิศ จันทร์สกุลพร 47,500 บาท นายธนทัต จันทร์สกุลพร 2,475 บาท และ นางสาวสุธิดา จันทะเอ 25บาท
ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งขอเพิ่มทุน เป็น 1,200,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 12,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ100 บาท โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 18 มิถุนายน 2555 แยกเป็น นายธนทัต จันทร์สกุลพร 119,900,000 บาท นายสรวิศ จันทร์สกุลพร 479,600,000 บาท นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร 599,500,000 บาท
ส่งผลทำให้จำนวนหุ้นในมือผู้ถือหุ้นที่ 4 ราย มีการเปลี่ยนแปลง ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2555 โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 6,003,000 หุ้น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 4,797,900 หุ้น นายธนทัต จันทร์สกุลพร จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,199,099 หุ้น ขณะที่สัดส่วนหุ้นของ นางสาวสุธิดา จันทะเอ ยังเท่าเดิมคือ ถืออยู่ 1 หุ้น
จากนั้น วันที่ 29 สิงหาคม 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ เหลือ 3 ราย โดยปรากฏชื่อ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 4,800,000 หุ้น ขณะที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร และ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่คนละ 3,600,000 หุ้น ขณะที่ นายธนทัต จันทร์สกุลพร และนางสาวสุธิดา จันทะเอ ไม่มีรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นอีก
ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งขอเพิ่มทุน เป็นครั้งที่ 2 เป็น 2,200,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 22,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 15 ตุลาคม 2555 แยกเป็น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร 300,000,000 บาท นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร. 300,000,000 บาท และ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข 400,000,000 บาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท สิราลัย จำกัด ยังมีทุนจดทะเบียนเท่าเดิม คือ 2,200 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจหลักการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า และปรากฎรายชื่อ นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เช่นเดิม
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 มี 3 ราย คือ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข ถือหุ้นอยู่ 8,800,000 หุ้น มูลค่า880,000,000 บาท ส่วนนางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร และนายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่ 6,600,000 หุ้น มูลค่า 660,000,000 บาท
ขณะที่บริษัทฯ นำส่งงบดุลแสดงผลประกอบการทางธุรกิจ ปี 2555 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ระบุว่ามีรายได้รวม1,062,584.76 บาท
และขาดทุนสุทธิ เป็นจำนวนเงิน 18,494,328.73 บาท
(อ่านประกอบ: พบ“หญิงปริศนา”ถือหุ้น 400 ล้านพักคฤหาสน์หรูร่วมเครือญาติ“เสี่ยเปี๋ยง”)