กปปส.ยัน'รัฏฐาธิปัตย์'ไม่ขัดรธน.
กปปส.ยัน "รัฏฐาธิปัตย์" เข้าช่องม.3-7 ไม่ขัดรธน. เมิน "เพื่อไทย" ยื่น "ดีเอสไอ" ชงฟันคดีพิเศษ ซัดนปช.ชักศึกเข้าบ้าน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า จากการชุมนุมของนปช.เป็นตัวอย่างเห็นได้ชัดว่าระบอบทักษิณกำลังประสบความล้มเหลวในความน่าเชื่อถือในเรื่องมวลชนที่ออกมาสนับสนุนขาดพลัง จะสังเกตุได้ว่าระบอบทักษิณพยายามชักศึกเข้าบ้านโดยเอาองค์กรนานาชาติมากดดันสร้างกระแสในประเทศไทย โดยเวทีนปช.ได้จัดเวลาให้แดงต่างด้าวคือนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ปราศรัยมายังมวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งกปปส.ขอประณามการกระทำดังกล่าว เชื่อว่านายโรเบิร์ตไม่ได้จะทำเพื่อประโยชน์ประเทศ แต่ทำเพื่อประโยชน์ของลูกค้าของกลุ่มทุนและเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดพยายามแสวงหาให้คนกลุ่มนี้เท่านั้น เมื่อไปดูพฤติกรรมจะเห็นได้ชัดว่าทนายคนนี้ทุกประเทศต้องระวังเพราะจะมุ่งหาผลประโยชน์บนซากปลักหักพังของประเทศนั้นๆ
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ทนายคนนี้จะทำหน้าที่การเป็นทนายความให้ลูกค้า จะทำหน้าที่ล็อบบี้ยิสต์ ต่อสู้เพื่อผลทางการเมืองให้ลูกค้าตัวเอง นอกจากนี้หากไปศึกษาดูลูกค้าของนายโรเบิร์ตจะเห็นได้ชัดว่า ทนายคนนี้จะทำหน้าที่ให้ลูกค้าที่ไม่มีใครยอมรับ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำหน้าที่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนเนรเทศ หนีคดี และจำคุกทุกคน แต่ที่มีชื่อเสียงเพราะทนายคนนี้จะไปรับจ็อบดูแลลูกค้าที่ทนายคนอื่นไม่รับงาน และนายโรเบิร์ตมีพฤติกรรมชอบบิดเบือน เคยทำสมุดปกขาวเพื่อชี้แจงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ในสุมดปกขาวมีเนื้อหาบิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งสมุดนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกหกสีขาว ทั้งที่จะเป็นการโกหกสีดำเพื่อจงใจโกหกเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน
ทั้งนี้ คำปราศรัยของนายโรเบิร์ต มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง กรณีการกล่าวอ้างองค์กรรัฐภาหรือไอพียู นายโรเบิร์ตได้ขยายความว่าไอพียูได้เปิดโอกาสให้นปช.ไปยื่นหนังสือ แต่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหาได้มาชี้แจงแล้ว ว่าการยื่นหนังสือได้ยื่นหลังการประชุมแล้ว ทั้งที่จริงนายโรเบิร์ต และส.ส.หญิง พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ยื่นก็รู้ดีว่าถ้ายื่นไปแล้วก็จะไม่ได้รับการตอบรับจากที่ประชุม เพราะการกล่าวโจมตีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งเนื้อหาและวิธีการมีหลักฐานว่ากระบวนการผ่านร่างแก้ไขขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญโดยชัดเจน ขณะเดียวกันนายโรเบิร์ตไม่มีอุดมการณ์ ที่จะอ้างว่าต่อสู้เพื่อหลักนิติธรรม แต่ถ้าศึกษาลูกค้าของนายโรเบิร์ตอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีพฤติกรรมละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยตลอด โดยเฉพาะนายช่วงพ.ต.ท.ทักษษิณได้ทำสงครามยาเสพติดก็มีผู้ถูกฆ่าตัดตอนหลายพันคน
"การเคลื่อนไหวพรุ่งนี้จะเชิญชวนข้าราชการให้เลิกใช้ระบอบทักษิณ ซึ่งจะเป็นกรรมการตัดสินเรื่องทั้งหมด ซึ่งกปปส.ยินดีจะเปิดสถานที่ราชการ ยกเว้นทำเนียบและกระทรวงมหาดไทย แต่มีข้อแม้ว่าข้าราชการจะเลิกรับใช้ระบอบทักษิณ และไม่ให้รัฐมนตรีมาใช้สถานที่ราชการไปใช้ที่ทำการ และแสดงเจตนารมณ์ร่วมปฏิรูปประเทศไทย ส่วนเส้นทางและสถานที่จะแจ้งในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ก่อนออกปฏิบัติการ"นายเอกนัฏ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นหนังสื่อถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จากคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เรื่องรัฏฐาธิปัตย์ เข้าข่ายกบฏนั้น นายยเอกนัฏ กล่าวว่า เชื่อว่าดีเอสไอจะรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะทุกคดีของกปปส. ดีเอสไอได้รับคดีพิเศษทั้งหมด แต่คดีผู้ที่เข้ามาทำร้ายกปปส. ดีเอสไอกลับไม่บรรจุเป็นคดีพิเศษ เรื่องนี้หากดีเอสไอจะรับหรือไม่รับคดี ก็พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ที่ผ่านมาท่าทีของดีเอสไอก็ไม่ทำในสิ่งที่ประชาชนเชื่อถืออยู่แล้ว การยื่นหนังสือของเพื่อไทยก็จะไม่กระทบการเคลื่อนไหวอะไรจากนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคำว่า รัฏฐาธิปัตย์ จากคำปราศรัยของนายสุเทพเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการจะทำให้สังคมสับสนต่อบทบาทของนายสุเทพหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องดูภาพรวมและดูเงื่อนไขของสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งนายสุเทพก็ปราศรัยเรื่องนี้โดยมาจากกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ารัฐบาลสิ้นสภาพ จากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อำนาจอธิปไจยก็จะตกอยู่ที่ประชาชนตามมาตรา 3 ในรัฐธรรมนูญ เมื่อถึงขณะนั้นก็เหลืออำนาจฝ่ายนิติบัญญญัติ คือวุฒิสภาทำหน้าที่เสนอทูลเกล้านายกฯ และรับสนองพระบรมราชโองการตามมาตรา 7 แต่ถ้าวุฒิสภภาไม่รับก็อาจจะต้องเป็นอำนาจของประชาชนตามมาตรา 3 โดยวิธีประชาธิปไตยทางตรงที่จะทูลเกล้านายกฯและสนองพระบรมราชโองการ
"จะใช้คำว่าปฏิวัติ อภิวัฒน์ ประชาภิวัฒน์ หรือรัฏฐาธิปัตย์ก็เป็นวาทะกรรมที่ใครจะใช้ แต่กระบวนการทั้งหมดก็อยู่ในกระบวนการรัฐธรรมนูญมาตรา 7 อยู่ดี แต่วิธีที่ราบรื่นคงอยู่ที่กระบวนการของวุฒิสภา แต่เงื่อนไขจะเป็นอย่างไรต้องอยู่ที่สถานการณ์ขณะนั้น"นายเอกนัฏ กล่าว
ขอบคุณข่าวจาก